Chaotic Sword God ตอนที่ 42 การปล้น
เถี่ยต้า เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่ ? เจี้ยนเฉินถามด้วยความกังวล
เถี่ยต้าส่ายศีรษะ เขาถอนหายใจออกมายาวและกล่าวออกมาด้วยเสียงอู้อี้ ข้าสบายดี แต่ความร้อนที่ข้าได้รับนี่มันยากจะทานทนจริง ๆ
ตราบเท่าที่เจ้าไม่เป็นไร มันก็ดีแล้ว เจี้ยนเฉินถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อเขาเห็นว่าเถี่ยต้าถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟ เจี้ยนเฉินรู้สึกกังวลอย่างแท้จริงว่าเถี่ยต้านั้นยังคงสบายดีอยู่หรือไม่
ทันใดนั้นสายตาเจี้ยนเฉินแข็งกร้าวขึ้น ในขณะที่เขาหันกลับไปดูต้นไม้ที่เขียวชอุ่ม ดวงตาของเขาเป็นประกาย ขณะที่มุมปากของเขาก็กระตุกขึ้นเพื่อเผยให้เห็นรอยยิ้มเล็ก ๆ
“ฮึง ฮึง ฮึง”
พื้นดินก็เริ่มสั่นอีกครั้ง ขณะที่สัตว์อสูรเมฆาอัคคียืนกระทืบเท้าอยู่หน้าเจี้ยนเฉิน แต่ละย่างก้าวก็สร้างความสั่นสะเทือนให้กับพื้นดินเป็นอย่างมาก สัตว์อสูรเมฆาอัคคีเก็บลมหายใจแห่งเปลวเพลิงไว้ ไม่ให้มันออกจากปาก ราวกับว่ามันกำลังตื่นเต้น
ใบหน้าเถี่ยต้าแข็งกระด้างขึ้น ในขณะที่เขาจ้องมองไปยังสัตว์เดรัจฉานอย่างสัตว์อสูรเมฆาอัคคี เจียงหยางเซียงเทียน ผิวของเจ้าสัตว์ตัวนี้มันหนานัก แล้วเราจะสังหารมันได้อย่างไรเล่า ?
เจี้ยนเฉินยังมองสัตว์อสูรตัวนั้นด้วยใบหน้าอึมครึม ร่างกายของสัตว์อสูรเมฆาอัคคีนั้นปกคลุมด้วยชั้นผิวหนังที่แข็งแกร่ง ถ้าพวกเราไม่สามารถหลอมรวมอาวุธเซียนได้แล้วละก็ อาวุธของพวกเราก็แทบจะไม่สามารถที่จะตัดผ่านผิวหนังของมันได้ ในเวลานี้ โอกาสที่พวกเราจะโจมตีสัตว์อสูรเมฆาอัคคีได้ก็เป็นแค่เพียงบริเวณดวงตาและแทงทะลุไปยังสมองของมัน
ขณะที่สัตว์อสูรเมฆาอัคคีคำรามลั่นและเปิดขากรรไกรของมันเพื่อที่จะปล่อยอะไรบางอย่างที่คล้ายกับงูอัคคีออกมา เจี้ยนเฉินก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย
เจี้ยนเฉินและเถี่ยต้าทั้งสองคนเคลื่อนไปทางด้านข้างเพื่อหลบมัน เจี้ยนเฉินกำแท่งหล็กแน่นในขณะที่เขาร้องออกมา เถี่ยต้า ถ่วงเวลาให้ข้า !
ไม่ต้องกังวล ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้า ! เถี่ยต้าหยิบขึ้นอะไรบางอย่างที่มีลักษณะใกล้เคียงกับหินและขว้างมันไปยังสัตว์อสูรเมฆาอัคคีและวิ่งไปยังด้านตรงข้ามทันที
หินหมุนคว้างอยู่กลางอากาศก่อนที่มันจะตกกระทบกับสัตว์อสูรเมฆาอัคคีได้อย่างแม่นยำราวกับจับวาง
เนื่องจากบริเวณนั้นเป็นจุดที่เปราะบางที่สุดของสัตว์อสูรเมฆาอัคคี ตาของมันเริ่มกลายเป็นสีแดงด้วยความกระหายเลือด ขณะที่มันเริ่มจะใช้ลมหายใจแห่งเปลวเพลิงเพื่อจัดการกับเถี่ยต้าอีกครั้ง
เจี้ยนเฉินจ้องมอง ขณะที่เถี่ยต้ากำลังดึงดูดความสนใจจากสัตว์อสูรเมฆาอัคคี เขาจับแท่งเหล็กอย่างแน่นหนาซึ่งเขาจะใช้มันเริ่มที่จะฆ่าสัตว์อสูร เขาวิ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว เขาพุ่งเข้าไปยังหัวของสัตว์อสูรเมฆาอัคคี
ความเร็วเจี้ยนเฉินนั้นเร็วพอ ๆ กับภูตพราย ในขณะที่เขาแตะลงพื้น หญ้ารอบ ๆ ตัวเขาลู่ลมไปมากับอากาศที่หมุนวนอย่างรวดเร็วราวกับว่าเขากำลังบินอยู่
ในช่วงเวลาอันสั้น ๆ เจี้ยนเฉินก็มาถึงหัวของเมฆาอัคคี โดยไม่แม้แต่จะโดนความร้อนจากกระแสความร้อนที่ถูกคายออก เขากระโดดกลางอากาศอีกครั้งก่อนจะตกลงบนหัวของสัตว์อสูรตัวนั้น ด้วยแท่งเหล็กในมือขวาของเขา เขาแทงมันลงไปที่ตาของสัตว์อสูรเมฆาอัคคีอย่างรวดเร็วยิ่งนัก
แม้ว่าเจี้ยนเฉินได้เคลื่อนย้ายมาอย่างอย่างรวดเร็ว แต่สัตว์อสูรเมฆาอัคคีนั้นก็ไม่ได้มีการตอบสนองที่ช้าแต่อย่างใด ก่อนที่แท่งเหล็กนั้นจะแทงทะลุดวงตา ทันใดนั้นสัตว์อสูรตัวนั้นก็ปิดตาของมันลง.
ตาเจี้ยนเฉินเป็นประกายเพียงสองช่วงสั้น ๆ ในขณะที่เขาเห็นสัตว์อสูรเมฆาอัคคีปิดตาของมัน รวบรวมสมาธิ ส่งพลังวิญญาณของเขาและใส่มันลงไปที่ใจกลางของแท่งเหล็ก ในขณะที่มันครอบคลุมความคมของแท่งเหล็กที่เขาพยายามจะยัดมันเข้าไปที่เปลือกตาของเมฆาอัคคี
แท่งเหล็กนั้นแทงทะลุผ่านเปลือกตาอย่างไม่ยากลำบากนัก ราวกับมันไร้ซึ่งแรงเสียดทาน ทันทีนั้น เลือดไหลออกมาจากดวงตาของสัตว์อสูรเมฆาอัคคี.
โฮ่ววววว ! ทันใดนั้น สัตว์อสูรเมฆาอัคคีก็ปล่อยเสียงร้องโหยหวนออกมา ที่ซึ่งราวกับว่ามันต้องการสั่นสะเทือนสวรรค์ด้วยตัวของมัน ในขณะที่มันหมุนและพุ่งออกมาแบบไร้ทิศทาง
เจี้ยนเฉินทุ่มเทแรงกดมาที่แขนข้างขวาของเขามากขึ้น เขาพยายามดันแท่งเหล็ก พยายามที่จะทำให้มันแทงลึกลงไปโจมตีสมองของมันจากบริเวณตา
เสียงกรีดร้องของเมฆาอัคคีกลายเป็นโหยหวนมากขึ้น ขณะที่มันเริ่มแกว่งไปมาและมันพยายามที่จะเอาแท่งเหล็กออกจากดวงตาของมัน แต่แท่งเหล็กนั้นจมเข้ามาลึกเกินกว่าที่จะเอามันออกมาได้ ในขณะที่มันส่ายหัวเพื่อทำให้มันหลุดพ้นจากเจี้ยนเฉิน ความเจ็บปวดขยายตัวรุนแรงมากขึ้น หลังจากมันพยายามที่จะสั่นหัวของมัน ความเจ็บปวดนั้นมากพอที่จะทำให้มันไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวอะไรทั้งหมดอีกต่อไป
เสียงร้องครวญครางอย่างไม่มีที่สิ้นสุดด้วยความเจ็บปวด สัตว์อสูรเมฆาอัคคีทิ้งตัวลงไปกับพื้น ซึ่งมันยังคงดิ้นรนเป็นคราสุดท้าย แม้ว่าแผลจะไม่ได้สร้างความเสียหายร้ายแรง แต่ความเสียหายนั้นส่งผลร้ายแรงนักต่อเส้นประสาทของมันซึ่งสร้างความเจ็บอย่างมากเกินกว่าที่จะทานทน
เห็นสัตว์อสูรเมฆาอัคคีร่วงลงไปกับพื้นดิน ดวงตาเจี้ยนเฉินเป็นประกายปิติยินดี ในขณะที่เขาตะโกน เถี่ยต้า เร็วเข้า ผลักให้แท่งเหล็กเข้าไปลึกกว่านี้ ด้วยความแข็งแกร่งฟ้าประทาน ไม่มีงานใดจะเหมาะสมไปกว่าเขานอกจากงานนี้อีกแล้ว
ดี เป็นตาของข้าบ้างล่ะ เถี่ยต้าร้องตะโกนออกมาอย่างมีความสุข ในขณะที่เขาวิ่งไปด้วยความตระหนักว่า ชัยชนะอยู่ในเงื้อมมือของเขา
เถี่ยต้าเดินเข้ามาใกล้สัตว์อสูรเมฆาอัคคีอย่างรวดเร็วและคว้าแท่งเหล็ก ก่อนที่จะผลักมันให้เข้าไปลึกในดวงตาของสัตว์อสูรเมฆาอัคคีกว่า 1 เมตร ด้วยมือขวาของเขา จนเห็นบางส่วนของแท่งเหล็กที่โผล่ออกมาจากอีกทาง
โฮ่ววววววว! เสียงร้องโหยหวนดังก้องออกมาจากสัตว์อสูรเมฆาอัคคี ซึ่งมันทำให้เถี่ยต้าและเจี้ยนเฉินถึงกับหูหนวกไปชั่วขณะ มันเป็นพลังที่สัตว์อสูรเมฆาอัคคีใช้มันเป็นเฮือกสุดท้าย ก่อนที่มันจะค่อย ๆ ล้มลงสู่พื้นดิน มันกระตุกอยู่หลายครา และท้ายที่สุดดวงตามันก็ปิดลงสนิท
ได้ยินอย่างนี้แล้วอีก ชายหนุ่มอีก 4 คน ก็คิดออกมาทำนองเดียวกัน ใบหน้าของพวกเขาเผยให้เห็นรอยยิ้มอันชั่วร้าย ไม่นานหลังจากนั้น ทั้งห้าคนก็ไล่ตามเถี่ยต้าและเจี้ยนเฉิน
ในขณะนั้น เจี้ยนเฉินและเถี่ยต้าออกเดินอย่างระมัดระวังภายในป่า เพื่อที่จะป้องกันตัวเองจากสัตว์อสูร เช่นเดียวหนองน้ำไม่กี่แห่งบนพื้นดิน ซึ่งนั้นทำให้เขาช้ากว่าที่ควร
ในช่วงเวลานั้นเอง หูของเจี้ยนเฉินตรวจพบบางสิ่งบางอย่าง เขายกมือของเขาขึ้นเพื่อหยุดเถี่ยต้า เขากล่าวว่า ระวัง มีบางคนกำลังมาจากทางด้านหลังของเรา
ทันใดนั้นเถี่ยต้าหยุดเคลื่อนไหวและหันไปรอบ ๆ อย่างสงสัย
ชั่วพริบตา ชายทั้งห้าคนที่ติดตามเจี้ยนเฉินก็ได้ปรากฏออกมา มีจำนวนทั้งหมด 5 คน แต่เจี้ยนเฉินไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของพวกเขาเพราะมันถูกปิดบังด้วยผ้าคลุม แต่เขาสามารถบอกได้ว่ามีความแข็งแกร่งจากพลังเซียนซึ่งถูกปล่อยออกมาจากอาวุธ
เมื่อทั้งห้าคนเห็นเจี้ยนเฉินและเถี่ยต้า พวกเขายิ้มบาง ๆ ให้กัน ราวกับว่าพวกเขาได้ตกลงร่วมกันในบางสิ่งบางอย่าง ชายทั้งห้าคนเพิ่มความเร็วขึ้น แล้วก็ก้าวไปล้อมรอบเจี้ยนเฉินและเถี่ยต้าอย่างรวดเร็ว
เห็นสิ่งนี้ ทั้งเจี้ยนเฉินและเถี่ยต้ารู้สึกสังหรณ์ใจถึงสิ่งเลวร้ายด้วยตัวเอง
สหาย ถามได้ไหมว่าพวกท่านต้องการทำอะไร ? เจี้ยนเฉินถาม
หนึ่งในเด็กหนุ่มที่กวัดแกว่งกระบี่ของเขา พูดพร้อมรอยยิ้มชั่วร้าย เจ้าถามเราว่าเรากำลังทำอะไร?
มอบเข็มขัดมิติออกมาแต่โดยดี แน่นอนเราไม่ต้องการที่จะก่อปัญหาให้กับพวกเจ้า แต่ถ้าเจ้าไม่ปฏิบัติตาม … ฮ่าฮ่าฮ่า … ชายถือค้อนควงมันไป ขณะที่เขาส่งเสียงขึ้นจมูกเมื่อมองมายังพวกเขา
ใบหน้าเถี่ยต้าเริ่มโกรธขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงความต้องการของพวกมัน “เจ้าต้องการให้ข้ามอบเข็มขัดมิติหรือ ฮึ่ม อย่าแม้แต่จะนึกถึงเรื่องนี้ เถี่ยต้าเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นทันที นี่มันเป็นการปล้นชัด ๆ
เจี้ยนเฉินตบเข็มขัดมิติของเขาเบา ๆ ด้วยรอยยิ้ม เข็มขัดมิติมีแกนอสูรมากมายอยู่ภายใน ถ้าเจ้ามีความสามารถ ก็จงมาเอามันไป .
แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าพวกเขาทั้งห้าเป็นเซียน แต่เจี้ยนเฉินและเถี่ยต้าก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัว
“ฮึ่ม ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จากนั้นจะมาโทษพวกข้าไม่ได้ ทุกคนโจมตี ! ทันใดนั้น พวกเขาทั้ง 5 คนก็รีบวิ่งไปข้างหน้าเพื่อโจมตีชายทั้งสอง แต่การโจมตีของพวกเขาไม่ได้มุ่งเป้าไปที่บริเวณที่อันตรายถึงชีวิต ทั้งห้าคนเข้าใจอย่างชัดเจนว่าพวกเขายังคงลูกศิษย์ การขโมยนับเป็นการต่อสู้ แต่พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ฆ่าใคร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ
จบแล้วหรอ...
ทำไมยังไม่ลงบทใหม่...
ลงครั้งละ สี่ ห้า บท ได้ไหม...
กรุณาลงบทครั้งละหลายบทหน่อยนะครับ ชอบ ๆ...
รออ...
ตอน 1419-1420 หายครับ...
จบแล้ว......
มีต่อไหมครับ...
เมื่อไรจะอัพเดทค้าบ รอนานแล้ว...
ต่อๆๆๆ...