เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 728

ตอนที่ 728: ตกใจ

เจี้ยนเฉินยืนอยู่ด้านนอกประตูหลักและสังเกตดูที่สาขาของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง จากที่หลินไป่บอก ไม่เพียงแค่เขาจะรู้ว่าสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงจะจัดการทดสอบสำหรับเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงทุกคนเท่านั้น แต่ยังจัดหาอาหารและที่พักให้ฟรีอีกด้วย ในอีกความหมายหนึ่ง มันเป็นคำพูดที่ไม่ได้กล่าวเกินจริงเลยว่าสาขาของสมาคมเป็นโรงเตี้ยมสำหรับเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง เป็นโรงเตี้ยมที่พิเศษและปลอดภัยมากที่ไม่มีใครจะสามารถมาข่มขู่ได้

“น้องข้า เจ้าอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับที่นี่ มากับข้า ข้าจะพาไปทดสอบเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง สมาคมให้ความสำคัญกับเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงทุก ๆ คน ถ้าเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับสูงต้องการที่จะออกไปข้างนอก สมาคมจะส่งจอมยุทธไปคุ้มกันพวกเขาด้วยทุก ๆ ครั้ง” หลินไป่อธิบายพร้อมรอยยิ้มในขณะที่เขาพาเจี้ยนเฉินเข้าไปที่สำนักงานของสาขา

หลินไป่มองไปที่ชายที่ดูท่าทางเย็นชาตัวใหญ่สองคนข้างหลังเขาและพูดอย่างค่อนข้างพึงพอใจว่า “น้อง เจ้าเห็นสองคนนี้ที่อยู่ข้าง ๆ ข้าไหม? พวกเขาเป็นจอมยุทธที่ถูกส่งมาจากสมาคมเพื่อคุ้มครองข้าตลอดเวลา พวกเขาเป็นเซียนระดับปฐพีวัฏจักรที่ 3”

เมื่อได้ยินดังนั้น เจี้ยนเฉินจึงหันไปแล้วจ้องไปที่ชายทั้งสองด้วยความประหลาดใจ ในตอนแรกเขาคิดว่าเซียนระดับปฐพีทั้งสองคนถูกส่งมาจากตระกูลของหลินไป่เพื่อปกป้องเขา เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเซียนระดับปฐพีทั้งสองคนจะถูกส่งมาจากสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง ซึ่งนั่นทำให้เขาค่อนข้างประหลาดใจมาก

เมื่อได้เห็นท่าทีของเจี้ยนเฉิน หลินไป่ก็หัวเราะคิกคัก “นี่เป็นการปรนนิบัติพิเศษที่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 5 ได้รับ เมื่อเจ้าขึ้นไปถึงระดับ 5 ในอนาคต เจ้าก็จะได้รับการปรนนิบัติเช่นนี้เหมือนกัน”

ในขณะที่หลินไป่พูดนั้น เขาก็พาเจี้ยนเฉินมาที่โต๊ะทำงาน บนเก้าอี้ไม้เก่าเก่าหลังเคาน์เตอร์มีชายแก่ผมสีเทาในชุดยาวสีขาวนั่งอยู่ ตาของชายชราปิดสนิทและเขากำลังหลับอยู่ เสียงกรนของเขาดังเหมือนฟ้าร้องและที่หน้าอกของชายชราผู้นั้นมีตราสัญลักษณ์สีฟ้าอยู่ ซึ่งเป็นสีเดียวกับที่หลินไป่ติดไว้

“เจมมี่ เลิกนอนได้แล้ว เจ้ามีเรื่องที่ต้องทำตอนนี้” หลินไป่ใช้มือขวาของเขาตบลงไปที่โต๊ะอย่างดัง 2-3 ครั้ง ซึ่งทำให้เกิดเสียงดัง

เมื่อถูกปลุกให้ตื่นจากฝันหวานทำให้ชายชราโกรธจัด ก่อนที่เขาจะลืมตาขึ้น เขาก็ร้องออกมาด้วยความโกรธ “เจ้าหนูไร้การศึกษาที่ไหนบังอาจมาปลุกข้า เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 5 จากความฝันกัน ! ? ” หลังจากที่เขาคำรามด้วยความโกรธนั้น ตาอันเกรี้ยวโกรธของชายชราก็ไปหยุดอยู่ที่หลินไป่ เขาค่อนข้างประหลาดใจเล็กน้อย ซึ่งทำให้เขาหัวเราะออกมาอย่างแปร่ง ๆ เขาลูบหัวของเขาแล้วพูด “เจ้าหนุ่มหลินไป่ เจ้านั่นเอง ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร ข้าแค่เพิ่งถูกปลุกให้ตื่นจากฝันดี แต่เดี๋ยวข้าค่อยฝันใหม่เอาทีหลังก็ได้”

หลินไป่คุ้นเคยกับพฤติกรรมนี้ของชายชราดี เขายื่นมือไปคว้าให้เจี้ยนเฉินมาอยู่ด้านหน้า “เจมมี่ คนผู้นี้คือเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง ข้าคิดว่าเขายังไม่ได้รับการทดสอบ เจ้าคือรองผู้จัดการที่นี่ ดังนั้นเจ้าต้องทดสอบเขา”

เจมมี่จ้องไปที่เจี้ยนเฉินแต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไรนัก เขาดึงกระดาษออกมาอย่างไม่สนใจและเริ่มเขียน “หลินไป่ นี่คือคนอายุยี่สิบกว่าที่เจ้าพามา เจ้าช่างใจดี ซื่อสัตย์และอ่อนโยนออกจากก้นบึ้งของจิตใจจริง ๆ บางทีนี้อาจจะเป็นเหตุผลที่เจ้าสำเร็จระดับ 5 ด้วยอายุเพียงเท่านี้”

หลินไป่ยิ้มเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

“เจ้าหนู เจ้าชื่ออะไร อายุเท่าไร เจ้ามาจากไหนและตอนไหนที่เจ้ารู้ว่าเจ้ามีพลังเซียนธาตุแสง” เจมมี่ถามโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามอง

เจี้ยนเฉินรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถูกถามแบบนี้ เขาตอบโดยไม่ลังเล “ข้าชื่อหยางยู่เทียน อายุ 24 ปีนี้ ข้ามาจากหมู่บ้านชนบทและรู้โดยบังเอิญว่าข้าสามารถควบคุมพลังเซียนธาตุแสงได้ตอนข้ายังเด็ก”

เจมมี่จดบันทึกข้อมูลที่เจี้ยนเฉินให้อย่างรวดเร็วก่อนที่จะยืนขึ้น “มากับข้า ข้าจะทดสอบความสามารถของเจ้าในฐานะเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง”

หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็ตามเจมมี่ไปที่ห้องลับด้านหลังของสำนักงานสาขา หลินไป่และองครักษ์ส่วนตัวของเขาทั้งสองคนก็ตามเข้าไปด้วย

ห้องค่อนข้างใหญ่และมืดแต่ว่างเปล่า สิ่งเดียวที่มีอยู่ในห้องคือกินขนาดเท่ากำปั้นที่อยู่บนโต๊ะกลมที่กลางห้อง มันเหมือนกับไข่มุกราตรีและส่องแสงอ่อน ๆ

“หยางยู่เทียน ใช้พลังเซียนธาตุแสงทั้งหมดที่เจ้าสามารถควบคุมได้และใส่มันลงไปในหินสีขาวนี้” เจมมี่พูดอย่างไร้อารมณ์

เจี้ยนเฉินไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เขาเดินช้าช้าไปที่หินสีขาวและหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ยื่นนิ้วชี้ออกไป แค่แวบเดียว ชั้นของแสงจาง ๆ สีขาวก็ปรากฎขึ้นตรงที่นิ้วของเจี้ยนเฉินสัมผัส ก่อนที่มันจะส่องสว่างมากขึ้น มันกลายเป็นบอลแสงสีขาวนวลอย่างรวดเร็ว ด้วยแสงสว่างของบอลแสงนั้น มันทำให้ความมืดที่ปกคลุมห้องอยู่นั้นหายไป

เจมมี่และหลินไป่สังเกตเห็นเหตุการณ์นั้น สายตาเจมมี่ที่ไม่ได้สนใจในตอนแรกก็เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานในทันทีตอนนี้

หลินไป่ก็ยืนงงอยู่ตรงนั้น ปากของเขาอ้าค้างในขณะที่ตาของเขาเบิกโตเท่าไข่ห่าน เขาพูดเสียงสั่น “ระ ระ ระดับ 5 “

“ปะ ปะ เป็นไปไม่ได้ หยางยู่เทียนอายุแค่ 24 ปีเท่านั้น เขาไปถึงระดับ 5 ได้อย่างไร พลังเซียนธาตุแสงระดับ 5 บ้าไปแล้ว นี่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบหลายพันปีมานี้” เจมมี่พึมพำกับตัวเองอย่างตะลึง

หลินไป่หายใจกระอักกระอ่วน เขาหันหัวไปทางเจมมี่และพูดอย่างรวดเร็ว “เจมมี่ เจ้ามองหาอะไรอยู่ รีบพาหยางยู่เทียนไปที่สำนักงานใหญ่เพื่อทดสอบเขาในฐานะเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 5 เร็วเข้า นี่ต้องเป็นงานที่สำคัญสำหรับเจ้าแน่ รองผู้จัดการของสาขาขั้น 3 “

เจมมี่กระตุกขึ้นมาทันที เขารีบกลับมาที่บทสนทนาและพูดอย่างรวดเร็ว “ใช่ ใช่ หยางยู่เทียนไปรับการทดสอบระดับ 5 กับข้าที่สำนักงานหลักเร็ว” ในตอนนี้เอง เจมมี่ เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่โง่เขลาก็มีความเร็วเหมือนดั่งนักสู้ เขาพุ่งมาข้างหน้าเจี้ยนเฉินเหมือนลูกธนู ก่อนที่จะดึงแขนเจี้ยนเฉินออกไปข้างนอก

หลังจากนั้น หลินไป่ก็ตามติดไปพร้อมกับองครักษ์อีกทั้งสองคน

ในเมืองแห่งเทพเจ้า รถม้าหรูที่มีตราสัญลักษณ์ของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงกำลังควบมาที่ถนนอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ข้าง ๆ รถม้านั้นมีชายร่างกำยำสิบกว่าคนที่อยู่บนสัตว์อสูรระดับ 4 กำลังคุ้มกันอยู่ มากไปกว่านั้น ยังมีชายตัวใหญ่สองสามคนด้านหน้ากำลังร้องตะโกนเพื่อขอทางกับผู้ที่เดินไปเดินมา มันทำให้ผู้คนจำนวนมากสนใจและสนทนาเกี่ยวกับเรื่องนี้กันที่ข้างทาง

ในเมืองแห่งเทพเจ้าที่เป็นหนึ่งในเจ็ดเมืองหลวงของทวีปนั้น มีเพียงแค่ตระกูลที่ควบคุมเมืองแห่งเทพเจ้าและสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงเท่านั้นที่กล้าที่จะแล่นรถม้าไปด้วยความเร็วเช่นนี้ที่ถนนโดยไม่ต้องกังวลอะไร

ภายในรถม้า เจี้ยนเฉินนั่งอย่างสบายสบายอยู่ที่เบาะนุ่ม ๆ ในขณะที่เขาอุ้มเสือสีขาวราวหิมะอยู่ในมือของเขา หลินไป่และเจมมี่นั่งอยู่อย่างตื่นเต้นอยู่ที่ทั้งสองข้างของเจี้ยนเฉิน ทั้งคู่เต็มไปด้วยความอยากมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ เมื่อพวกเขามองไปที่เจี้ยนเฉิน สายตาของพวกเขาก็ดูยากที่จะเข้าใจ เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 5 ที่อายุเพียง 24 ปีนั้น ช่างเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากในรอบหลายพันปี

Related