ตอนที่ 747: ผู้อาวุโสสูงสุด
เช้าวันถัดมา เรื่องทุก ๆ อย่างซึ่งเกิดขึ้นที่แม่น้ำน้ำหอมนั้นก็ได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองแห่งเทพเจ้าเหมือนไฟลามทุ่ง ข่าวที่ว่าเซียนสวรรค์ซึ่งไม่ทราบที่มาหลายคนได้เข้าจู่โจมตระกูลทั้งแปดนั้นได้พูดกันไปปากต่อปากภายในเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสาแสงต้นใหญ่นั้นที่ส่องลงมาจากท้องฟ้าในตอนสุดท้าย มันกลายเป็นประเด็นร้อนในการสนทนา
ขณะนั้นไม่ว่าจะบนถนนหลัก หรือตามตรอกซอกซอย โรงเตี้ยมหรือโรงน้ำชา ก็จะมีเสียงจ้อกแจ้กของผู้คนที่กำลังพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก่อนหน้านี้ที่แม่น้ำน้ำหอมไปทุกหนทุกแห่ง หลายคนแสดงความเห็นที่หลากหลายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งไม่นานนักก็ทำให้เกิดเรื่องหลากหลายแบบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแพร่กระจายไป
ตระกูลทั้งแปดที่เป็นคนสร้างเรื่องโดยตรงไม่ได้พูดอะไร ทั้งหมดยังคงอยู่นิ่งเฉย
วันนี้ มีร่างหนึ่งที่พุ่งมาจากส่วนลึกของเมืองแห่งเทพเจ้าด้วยความไวดุจดั่งสายฟ้า และมาถึงที่ข้างนอกของสำนักงานใหญ่สมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง ร่างนั้นกำลังลอยอยู่บนอากาศ
คนผู้นั้นเป็นชายวัยกลางคนอยู่ในชุดขาวและมีความสูงปานกลาง ในขณะที่หัวของเขาเต็มไปด้วยผมที่ยาวและไม่ได้มัดอยู่ มันพริ้วอยู่ด้านหลังของเขาและปลิวไสวอย่างอ่อนโยน หน้าตาของเขาดูดีและเหมือนซ่อนความหล่อเหลาเอาไว้เมื่อเขายังหนุ่ม สายตาของเขานั้นยากลึกหยั่งถึงเหมือนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวและเหมือนมีโลกทั้งใบอยู่ในนั้น
การมาของเขานั้นไม่มีใครรู้สึกได้ แม้แต่ผู้คนด้านล่างเขาก็ยังเดินเข้าออกอาคารโดยไม่มีใครตระหนักเลยว่าเขาอยู่ตรงนี้ เขาเหมือนล่องหน
ชายวัยกลางคนลอยตัวมาที่ข้างหน้าปราสาทใหญ่ของสมาคม และมองขึ้นไปที่หอคอยที่สูงที่สุด เขาพูด “อดามิ ข้าจัดการเรื่องที่เจ้าขอมาเรียบร้อยแล้ว”
บนหอคอยที่สูงที่สุดที่ชายคนนั้นมองขึ้นไป มีชายชราบนออกมาด้วยบางอย่างที่เหมือนเมฆใต้เท้าของเขาและมาถึงที่ตรงหน้าของชายคนนั้น ชายชราคนนั้นคือท่านประธานของสมาคม
ท่านประธานมองไปที่ชายนั้นด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่แววแห่งความตื่นเต้นปรากฏขึ้นที่ส่วนลึกในตาของเขา เขาพูด “เจ้าได้นำเลือดบริสุทธิ์ของตะขาบทะยานมาหรือเปล่า ? คุณภาพของมันเป็นอย่างไรบ้าง ? “
ขวดหยกขนาดเท่าฝ่ามือปรากฏขึ้นที่มือของชายคนนั้น เขาพูดด้วยรอยยิ้ม “ตะขาบทะยานนั้นหายากมาก โดยเฉพาะตะขาบทะยานชั้นสูง พวกมันยิ่งหายากเข้าไปใหญ่ ในการที่จะหาตะขาบทะยานที่เจ้าขอมานั้น ข้าต้องเดินทางไปทั่วทั้งทวีปก่อนที่จะเจอกับตะขาบทะยานที่ตรงตามกับที่เจ้าต้องการที่ทวีปอาร์คติกซึ่งเป็นเมืองขึ้นของร้อยเผ่าพันธุ์ ข้าได้ใช้ความพยายามอย่างมากก่อนที่จะได้เลือดบริสุทธิ์ของมันมา”
สายตาของท่านประธานฉายแววตกตะลึง “เฮาหวู่ ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าที่มีขนาดนี้ มันยังต้องพยายามอย่างมากเลยหรือที่จะได้เลือดบริสุทธิ์นี้มา ? บางทีอาจจะมีผู้คนที่ทรงพลังขัดขวางเจ้าอยู่ที่ทวีปอาร์คติกหรือไม่ ? “
ชายผู้นั้นหัวเราะคิกคัก “ข้าเจอผู้อาวุโสสองสามคนที่โถงเทพเจ้าสงครามที่ทวีปนั้น แต่เราไม่ได้ต่อสู้กัน ตะขาบทะยานตัวนั้นแข็งแกร่งมาก มันมี 7 สีและความแข็งแกร่งของมันก็เทียบเท่ากับเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 เป็นอย่างน้อย และมันยังมีความสามารถทางสายเลือดอีก ข้าสู้กับมันถึงสามวันสามคืนก่อนที่จะได้เลือดบริสุทธิ์จากมัน เลือดนี้มาจากตะขาบทะยานเจ็ดสี ดังนั้นมันน่าจะเพียงพอที่จะฟื้นฟูเธียร์ลิงค์จากพิษได้”
“อะไรนะ ! ? เลือดบริสุทธิ์ของตะขาบทะยานเจ็ดสี ? ! ” แววแห่งความยินดีปรากฏขึ้นที่ในตาของท่านประธานและเขาก็รีบพูดต่อ “เลือดบริสุทธิ์จากตะขาบทะยานเจ็ดสีนั้นมีสมรรถภาพมากกว่าจากตะขาบทะยานหกสีเสียอีก ด้วยขวดเลือดนี้ พิษของเธียร์ลิงค์ก็คงจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เฮาหวู่ เจ้าช่วยพวกเราไว้อย่างมากจริง ๆ ในคราวนี้”
“อดามิ อย่าว่าอย่างนั้นเลย มันเทียบไม่ได้หรอกกับการที่เจ้าได้ช่วยชีวิตของลูกสาวข้าไว้ เอาล่ะ เมื่อข้ามอบเลือดให้เจ้าแล้ว ข้าก็จะไปแล้ว” ขณะที่เขาพูด เขาก็มองออกไปไกลที่เมืองแห่งเทพเจ้า สายตาของเขามีอารมณ์ที่ซับซ้อนอยู่ในนั้น
ท่านประธานลังเลเล็กน้อยก่อนจะกล่าว “เฮาหวู่ เจ้าอาจจะไม่ได้อยู่ที่จักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ แต่เจ้าน่าจะเข้าใจสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์นี้ดี เจ้าจะไม่ต่อต้านและป้องกันสิ่งที่ตระกูลซาร์กำลังทำอยู่ตอนนี้หรือ ? เจ้าต้องการที่จะเห็นจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์เกิดการต่อสู้ภายในอย่างนั้นหรือ ? ยังไงซะครั้งหนึ่งที่นี่ก็เคยเป็นบ้านของเจ้า”
ชายผู้นั้นถอนหายใจเล็กน้อย ท่าทีของเขานั้นซับซ้อนยิ่งนัก
“เฮาหวู่ แม้ว่ามันจะผ่านมาหลายปีแล้ว นางก็ยังคงรักเจ้าอย่างยิ่ง บางมีเจ้าอาจจะเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถเปลี่ยนใจนางได้ เจ้าควรจะไปคุยกับนาง ! ” ท่านประธานกล่าวอย่างจริงจัง
ชายนั้นหลับตาด้วยความเจ็บปวดและโบกมือ “อดามิ เจ้าควรเลิกเอ่ยถึงมันได้แล้ว ข้าละอายใจที่จะไปสู้หน้านาง ข้าไม่คู่ควรกับนาง”
ท่านประธานถอนหายใจ “เฮาหวู่ ถ้าเจ้าไม่ไปสอดแทรกเรื่องนี้ บางทีสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงของข้าอาจจะต้องเปลี่ยนมือหลังจากที่ผ่านมาเป็นร้อยปี ความตั้งใจของนางไม่ใช่แค่การรวบรวมสองตระกูลใหญ่เท่านั้น”
“อดามิ ถ้านางต่อต้านสมาคม ข้าจะไปหยุดนางเอง” หลังจากพูด ชายคนนั้นก็หันหลังและบินออกไปจากเมืองแห่งเทพเจ้า
ท่านประธานจ้องไปยังชายที่หายไปไกล หลังจากนั้นซักพัก เขาก็ถอนหายใจไปที่ท้องฟ้า เขามีท่าทีหมดหนทาง และกลับเข้าไปที่หอคอยอีกครั้ง
ทันทีที่เลือดสัมผัสกับริมฝีปากของเขา สีหน้าของท่านผู้อาวุโสสูงสุดก็ดีขึ้น พิษในร่างกายของเขาลดลงอย่างรวดเร็ว
ไม่นานนัก ท่านผู้อาวุโสสูงสุดก็ได้ดื่มเลือดในขวดจนหมด ท่านประธานวางขวดหยกลงและทำมือเป็นผนึกแปลก ๆ ข้างหน้าเขาขึ้นมา ด้วยเสียงทุ้มลึก “การฟื้นฟูสวรรค์ ! “
เสาแห่งแสงขนาดใหญ่กว้างสองเมตรส่องลงมาจากท้องฟ้า มันได้ห่อหุ้มท่านผู้อาวุโสสูงสุดที่อยู่บนเตียง มันทำงานร่วมกับเลือดบริสุทธ์ของตะขาบทะยานและขับไล่พิษออกไปจากร่างกายของท่านผู้อาวุโสสูงสุด
สถานการณ์ตอนนี้ผ่านไปครึ่งชั่วยามแล้ว ก่อนที่เสาแห่งแสงจะหายไปในที่สุด ท่านประธานลืมตาขึ้นเหมือนอย่างปกติและมองไปที่ท่านผู้อาวุโสสูงสุกที่อยู่บนเตียงด้วยความเป็นห่วง “เป็นอย่างไรบ้าง ? พิษถูกกำจัดไปหมดแล้วหรือยัง ? “
ในตอนนี้เอง สุขภาพของท่านผู้อาวุโสสูงสุดก็ดูดีขึ้น มันดูมีพลังและเต็มเปี่ยมไปด้วยชีวิตเหมือนกับว่าเขาเป็นคนใหม่เมื่อเทียบกับตัวเขาที่นอนป่วยอยู่ก่อนหน้านี้
ท่านผู้อาวุโสสูงสุดนั่งที่เตียงและแสดงท่าทีแห่งความยินดีที่ได้ฟื้นตัวจากอาการป่วย เขาพูด “พิษที่กวนใจข้าเป็นเวลาหลายปีได้หายไปแล้ว พิษของตะขาบทะยานนั้นมีพลังมาก ไม่แปลกเลยที่มันถูกจัดอยู่ในพิษที่ร้ายแรงอันดับที่สอง ถ้าไม่มีเลือดบริสุทธิ์นี้ แม้แต่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 ก็ไม่สามารถที่จะรักษาข้าได้”
“ขอแสดงความยินดีที่ท่านผู้อาวุโสสูงสุดฟื้นตัวเต็มที่แล้ว ! ” เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 ทั้งห้าคนทั้งหมดมาอยู่ตรงหน้าเขาและร่วมแสดงความยินดี พวกเขาเก็บอาการยินดีไม่อยู่
ผู้อาวุโสสูงสุดพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “ท่านประธาน แม้ว่าข้าจะใช้เวลานอนอยู่ที่เตียงมานาน แต่ข้าก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอก ข้าได้ยินมามีเรื่องมหัศจรรย์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนปรากฏขึ้นที่สมาคมของพวกเราเมื่อไม่นานมานี้ ข้าต้องพบเขาให้ได้ในสองสามวันนี้”
เมื่อพูดถึงหยางยู่เทียน ท่านประธานก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความรู้สึกยินดี เขาพูดอย่างพึงพอใจต่อลูกศิษย์คนใหม่ของเขา “คืนที่ผ่านมา หยางยู่เทียนได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้ที่ดุเดือด เขาได้ใช้กำลังเกินตัวมากไป ดังนั้นเขาคงต้องพักฟื้นสักสองสามวัน ท่านผู้อาวุโสสูงสุด ท่านควรพักให้ฟื้นตัวสักสองสามวันโดยไม่ต้องเป็นห่วงอะไร เมื่อหยางยู่เทียนฟื้นตัวและออกมาแล้ว ข้าจะให้ท่านพบกับเขาเป็นการส่วนตัว”
Related
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ
จบแล้วหรอ...
ทำไมยังไม่ลงบทใหม่...
ลงครั้งละ สี่ ห้า บท ได้ไหม...
กรุณาลงบทครั้งละหลายบทหน่อยนะครับ ชอบ ๆ...
รออ...
ตอน 1419-1420 หายครับ...
จบแล้ว......
มีต่อไหมครับ...
เมื่อไรจะอัพเดทค้าบ รอนานแล้ว...
ต่อๆๆๆ...