ตอนที่ 753: องค์กรนักฆ่าทั้งสอง
เม็ดบอลแสงจำนวนนับไม่ถ้วนอยู่รอบ ๆ ตัวเจี้ยนเฉิน แต่ละเม็ดนั้นเต็มไปด้วยพลังเซียนธาตุแสงที่หนาแน่น หลังจากนั้นไม่นาน เม็ดบอลแสงนับไม่ถ้วนเหล่านั้นก็กลายเป็นเส้นสีขาวที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเจี้ยนเฉิน และพุ่งไปทางนักฆ่าที่อยู่รอบ ๆ
นักฆ่าทั้งหมดกวัดแกว่งกริชเพื่อต่อต้านการโจมตีจากบอลแสงนั้น เสียงกระทบระหว่างกริชกับเม็ดบอลแสงนั้นดังออกมาไม่ขาดสาย นักฆ่ากลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นเซียนปฐพีในขณะที่ส่วนที่เหลือเป็นเซียนสวรรค์ เมื่อไรก็ตามที่เซียนปฐพีต้านทานกับบอลแสง ร่างของพวกเขาก็สั่นไหวอย่างรุนแรง พลังที่อยู่ในเม็ดบอลแสงที่ไม่สะดุดตาอะไรอยู่ในระดับที่น่ากลัวทีเดียว
“อ้าก ! ” นักฆ่าที่เป็นเซียนปฐพีโดนบอลแสงเข้าเล่นงาน ซึ่งทะลุร่างของเขาไป จากความเจ็บปวดที่ฉับพลัน เขาก็อดไม่ได้ที่จะร้องออกมาและหยุดป้องกันตัวเอง นี่ทำให้เขาโดนโจมตีซ้ำแล้วซ้ำอีกจากเม็ดบอลแสงพลังเซียนธาตุแสงจนกระทั่งเขาตาย
เสียงร้องอย่างเจ็บปวดดังออกมาเสียงแล้วเสียงเล่าและในเวลาอันสั้น เซียนปฐพีทั้งหมดก็ได้ตายไป พวกเขาทั้งหมดมีรูนับไม่ถ้วนทะลุเข้าไปที่ร่างกายของพวกเขา เลือดย้อมตัวของพวกเขาไปทั่วทั้งร่าง
ในตอนนี้ มีเพียงเซียนสวรรค์เหลือเพียง 4 คนเท่านั้นที่กำลังพยายามต่อต้านการโจมตีอยู่ อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของพวกเขาถูกบังคับให้หยุดโดยเม็ดบอลแสงที่หนาแน่นนั้น พวกเขาไม่สามารถเคลื่อนไปข้างหน้าได้เลยและถูกบังคับให้ล่าถอยไปอย่างรวดเร็วจากเม็ดบอลแสง
“อาจารย์เฟิง เมื่อไหรที่ท่านจะออกมาช่วยซักที?” นักฆ่าร้องออกมา
สายตาของหญิงสาวเป็นประกายอยู่ไกล ๆ มีดสีดำที่อยู่ในมือของเจี้ยนเฉินนั้นดูเหมือนจะอยู่ในการควบคุมของนาง มันพุ่งออกจากมือของเจี้ยนเฉินไปที่ระหว่างคิ้วของเขาอย่างรวดเร็วจนเห็นเป็นเส้น
เจี้ยนเฉินเพ่งมอง ทันใดนั้นเองแสงสีฟ้าและม่วงลาง ๆ ก็ได้ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา ในขณะที่มีดเล็กที่ถูกควบคุมโดยเด็กหญิงก็ถูกทำให้หยุดที่หน้าผากของเจี้ยนเฉิน หลังจากนั้น มีดก็เปลี่ยนไปเป็นแสงสีขาวที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเจี้ยนเฉินและพุ่งเป้าหมายไปที่เด็กหญิง บนมีดเล่มเล็กนั้น มีเศษเสี้ยวของปราณกระบี่ม่วงฟ้าปรากฏอยู่
“กระบี่พลังเซียนธาตุแสง ! ” เจี้ยนเฉินเพ่งสมาธิไปที่สองอย่างพร้อม ๆ กัน แยกฝ่ามือทั้งสองของเขาออกจากกันและกระบี่พลังเซียนธาตุแสง 4 เล่มที่สว่างจ้าก็มาควบรวมระหว่างมือของเขา ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นแสงสีเงินและพุ่งไปทางเซียนสวรรค์ทั้งสี่คนนั้น
นักฆ่าทั้งสี่คนนั้นบินถอยกลับไปในขณะที่พวกเขากระอักเลือดออกมาและสีหน้าของพวกเขาก็ขาวเหมือนกระดาษ พวกเขาร่อนลงพื้นอย่างรุนแรง
ในขณะที่ผู้ที่ถูกเรียกว่าอาจารย์เฟิงนั้นถูกมีดเล่มเล็กนั้นแทงทะลุหน้าอกไป นางหน้าซีดทันทีในขณะที่เลือดสีดำไหลออกมาจากมุมปากของนาง นางได้รับพิษ
ควับ !
เสียงเสียดอากาศดังมาจากด้านหลัง มีดเล็กที่ทะลุผ่านหน้าอกของเด็กหญิงนั้นได้กลับตัวภายใต้การควบคุมของเจี้ยนเฉินและกำลังจะบินกลับมาที่เดิม ด้วยปราณกระบี่ม่วงฟ้าที่อยู่ในนั้น มันก็พุ่งทะลุผ่านหลังของเด็กหญิงผู้นั้นและกลับมาที่มือของเจี้ยนเฉิน
เด็กหญิงนั้นส่งเสียงครางและถูกหยุดยั้งไว้จากพิษที่กำลังกระจายไปทั่วร่างของนางอย่างรวดเร็ว นางถีบตัวออกจากพื้นอย่างรวดเร็วและพุ่งขึ้นไปในอากาศเพื่อที่จะหนีไปให้ไกล
เจี้ยนเฉินไม่ต้องการที่จะปล่อยเด็กหญิงนั้นไป แม้ว่าเด็กหญิงนั้นจะดูเหมือนมีอายุเพียง 12-13 ปีเท่านั้น แต่เจี้ยนเฉินก็รู้ว่า จริง ๆ แล้วอายุของนางมากกว่านั้น
“กระบี่พลังเซียนธาตุแสง ! ” เจี้ยนเฉินร้องออกมา กระบี่พลังเซียนธาตุแสงควบรวมอย่างรวดเร็วและด้วยการกวัดแกว่งของมือของเขา มันก็เปลี่ยนเป็นแสงยาวและไล่ตามเด็กหญิงผู้นั้นไป
เด็กหญิงที่กำลังหนีอยู่นั้น กลับตัวกลางอากาศทันที กริชเหมือนที่นักฆ่าคนอื่นอื่นใช้ปรากฏขึ้นที่มือของนาง ก่อนที่นางจะเหวี่ยงไปที่กระบี่พลังเซียนธาตุแสงด้วยกำลังที่มีทั้งหมดของนาง
ด้วยเสียงระเบิดดัง กระบี่พลังเซียนธาตุแสงก็แตกออก แต่เลือดก็ได้กระอักออกมาจากปากของเด็กหญิงนั้น นางเริ่มหล่นลงมาจากท้องฟ้า ในขณะที่พิษที่อยู่ในตัวนางก็เริ่มกระจายอย่างเป็นอิสระจากพลังเซียนที่ข่มมันไว้ มันเริ่มกระจายไปอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ซึ่งทำให้ผิวของนางกลายเป็นสีดำ
ในตอนนี้เอง ลมและเมฆบนท้องฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน ความกดดันสูงแผ่ซ่านไปรอบรอบ หยางหลิงใช้ดาบชี้ไปที่ท้องฟ้า ในขณะที่ดาบเองก็เปล่งประกายสีแดงสว่างสุกใสออกมา ดาบนั้นแผ่ความร้อนอย่างมากออกมา ทำให้อุณหภูมิในอากาศรอบรอบเพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว
“ลิ้มลองทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ของข้าหน่อยเป็นไง ! ” หยางหลิงตะโกนออกมา เขาเหวี่ยงดาบใหญ่ไปที่นักฆ่าที่อยู่ใกล้ที่สุดทันที
แม้ว่านักฆ่าจะเป็นถึงเซียนสวรรค์ แต่พวกเขาก็ยังไม่บรรลุระดับสูงสุด ดังนั้นพวกเขายังห่างไกลจากหยางหลิงนัก เซียนสวรรค์วัฏจักรที่ 6 พวกเขาถูกทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้จากแรงกดดันของทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์
แสงสีแดงสว่างสุกใสจากดาบใหญ่ได้ตัดผ่านคอของนักฆ่าทั้งสี่ หลังจากนั้น มันก็พุ่งไปที่นักฆ่าคนที่ 5 โดยไม่ได้ลดความแข็งแกร่งลงไปเลย
มันสายเกินไปแล้วที่จะหลบ นักฆ่าร้องออกมาและใช้กำลังทั้งหมดที่มีในการโจมตีดาบใหญ่สีแดงเพลิงนั้นที่ล็อคเป้าไปที่เขา
ด้วยเสียงดังสนั่น กริชของนักฆ่าถูกกระแทกกระเด็นไป ในขณะที่ดาบใหญ่แทงเข้าไปที่หน้าอกของเขาเหมือนสายฟ้าฟาด เปลวเพลิงส่วนใหญ่ที่ซ่อนอยู่ภายในดาบพุ่งเข้าไปที่ร่างของนักฆ่า
“อ้าก ! ” นักฆ่าส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ร่างกายของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่จะมีเปลวเพลิงปรากฎขึ้นที่ร่างของเขา เปลวเพลิงกระจายอย่างรวดเร็วก่อนที่จะกลายเป็นทะเลเพลิงคลุมตัวนักฆ่าไว้และแผดเผานักฆ่าจนกลายเป็นเถ้าถ่าน
ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ของหยางหลิงได้จัดการจอมยุทธทั้งห้าที่มีความแข็งแกร่งทัดเทียมกัน ทำให้นักฆ่าเหลืออยู่เพียงหนึ่งเท่านั้น
คนขับม้าบนรถม้ารีบลงมาจากรถม้าแล้วมายืนอยู่ตรงหน้าเจี้ยนเฉิน เขาถามอย่างเป็นห่วง “ท่านเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่เคารพ ท่านไม่ได้รับบาดเจ็บใช่หรือไม่ ? มันไม่ปลอดภัยแล้วที่ถนนนี้ รีบเข้ารถม้าเถอะ ข้าจะขับไปที่สำนักงานใหญ่ทันที”
เจี้ยนเฉินไม่ได้กล่าวอะไรและเข้าไปที่รถม้าทันที ในตอนนี้ ความสนใจทั้งหมดของเขาเป็นเรื่องดาบเล่มเล็กนั่น ในขณะที่เรื่องการลอบสังหารนั้นไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับเขาเลย เขาพบเจอกับการฆ่าฟันมามากมายนับไม่ถ้วนในชีวิตแล้ว ดังนั้นเรื่องเล็กน้อยนี้ก็แค่ขี้เล็บ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเจี้ยนเฉินกำลังจะเข้าไปที่ในรถม้า คนขับรถม้าก็ชักมีดออกมาอย่างไร้เสียงและแทงเข้าไปที่หลังของเจี้ยนเฉินด้วยความเร็วดุจดั่งสายฟ้า ถ้าเจี้ยนเฉินถูกโจมตี มีดคงทะลุหัวใจของเขาจากด้านหลังเป็นแน่
ตาของเจี้ยนเฉินเป็นประกายและหลังจากนั้นไม่นาน มุมปากของเขาก็บิดไปด้วยความเย้ยหยัน
มีดถูกแทงอย่างชั่วร้ายไปที่หลังของเจี้ยนเฉิน แต่มันก็แค่เจาะไปยังเสื้อผ้าที่เจี้ยนเฉินใส่เท่านั้น เมื่อมีดที่แหลมคมกำลังจะถึงร่างของเจี้ยนเฉิน มันก็ชนเข้ากับชั้นบาง ๆ ด้านใน และไม่สามารถแทงเข้าไปได้
ท่าทีของคนขับรถม้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขาก็ตอบโต้อย่างเร็ว พลังเซียนในร่างกายของเขาไหลอย่างต่อเนื่องไปที่มีด เขาใช้กำลังทั้งหมดที่มีดันมีดเข้าไป แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหน มีดก็ไม่ขยับเข้าไปเลยแม้แต่น้อย มันเหมือนมีกำแพงเหล็กที่แข็งแกร่งมากป้องกันไม่ให้มีดทะลุเข้าไป
ปัง ! ในตอนนี้ หยางหลิงได้เข้ามาถึง เขาเหวี่ยงหมัดไปที่คนขับรถม้าโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง ทำให้คนขับรถม้าลอยกระเด็นไปไกลกว่าสิบเมตร เขากระแทกพื้นแล้วกระอักเลือดออกมา
“ไอ้บ้าเอ้ย ใครจะคิดกันละว่า คนขับรถม้าจะเป็นนักฆ่าด้วย ! ” หยางหลิงคำรามไปที่คนขับรถม้า เขาโกรธจัดในตอนนี้ ในฐานะผู้คุ้มกันของเจี้ยนเฉิน เขาทำผิดพลาดถึง 2 ครั้งในเวลาสั้น ๆ ถ้าเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 คนอื่น พวกเขาคงจะตายไปนานแล้ว
เจี้ยนเฉินโผล่หัวออกมาจากรถม้าและมองไปที่คนขับรถม้าด้วยท่าทีที่ซับซ้อน เขาถอนหายใจอย่างสงสัย “ช่างเป็นวิชาพลางตัวที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ ไม่เพียงแต่จะเงียบสนิทเท่านั้นตอนที่เจ้าโจมตี แต่มันยังไม่มีจิตสังหารหลุดออกมาเลยแม้แต่น้อย แม้แต่ข้าก็สัมผัสไม่ได้ เจ้าต้องได้รับการฝึกมาก่อนแน่ ข้าสงสัยจริง ๆ ว่าเจ้าเป็นคนขององค์กรไหน?”
“นิกายใต้พิภพ ! ” คนขับรถม้าพูดแต่ละคำออกมาอย่างตะกุกตะกัก ในขณะที่เขาจ้องเขม็งไปที่เจี้ยนเฉิน “ถ้าเจ้าไม่มีของป้องกันล้ำค่าแบบนี้ เจ้าคงจะตายไปด้วยน้ำมือของนิกายใต้พิภพไปแล้ว”
เจี้ยนเฉินเย้ยหยันและบ่นออกมา “นิกายใต้พิภพและหอยามะ ในที่สุดสองในสามองค์กรนักฆ่าก็มา ดูเหมือนคนที่ต้องการจะฆ่าข้าได้ประเมินข้าไว้สูงมาก ข้าสงสัยจริง ๆ ว่านิกายดาบโลหิตจะมีส่วนร่วมด้วยหรือไม่ ! ” หลังจากพูดจบ กระบี่พลังเซียนธาตุแสงก็ควบแน่นอยู่ที่มือของเจี้ยนเฉิน ซึ่งพุ่งตรงไปที่คนขับรถม้า เขาเป็นเพียงแค่เซียนปฐพีและยังได้รับบาดเจ็บหนักจากหมัดของหยางหลิง เขาไม่มีกำลังเหลือที่จะหลบดาบของเจี้ยนเฉินได้อีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงสิ้นชีพตรงนั้น
“หยางหลิง เจ้าไปขับรถม้า หลังจากที่ข้ากลับไปที่สำนักงานใหญ่ มันคงไม่มีช่วงเวลาที่สงบสุขในภายภาคหน้าสำหรับข้าอีกต่อไปแล้ว”
Related
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ
จบแล้วหรอ...
ทำไมยังไม่ลงบทใหม่...
ลงครั้งละ สี่ ห้า บท ได้ไหม...
กรุณาลงบทครั้งละหลายบทหน่อยนะครับ ชอบ ๆ...
รออ...
ตอน 1419-1420 หายครับ...
จบแล้ว......
มีต่อไหมครับ...
เมื่อไรจะอัพเดทค้าบ รอนานแล้ว...
ต่อๆๆๆ...