เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 848

ตอนที่ 848 ฝึกคู่ประสาน

เจี้ยนเฉินและหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ต่างตกตะลึงในพลังของโมเทียนหยุน ทั้งสองต้องใช้เวลาครู่ใหญ่ก่อนจะหยุดหัวใจที่เต้นระรัว และตั้งสติกลับมาได้

หลังผ่านไปครู่หนึ่ง เจี้ยนเฉินก็สูดลมหายใจเฮือกใหญ่ก่อนค่อย ๆ ตั้งสติ แล้วถามขึ้น “ผู้อาวุโส ….นั้นทรงพลังมากตั้งแต่ยามนั้น แม้ยอดฝีมือของทางนั้นจะถูกท่านสังหารลงไปเป็นจำนวนมาก แต่หลังจากผ่านมาหลายต่อหลายปี ขุมกำลังของพวกมันย่อมต้องฟื้นฟูกลับมาแล้วเป็นแน่ กลับกัน กฎธรรมชาติและพลังต่าง ๆ ของทวีปเทียนหยวนของเรานั้นยุ่งเหยิงปั่นป่วนเพราะสงครามครั้งใหญ่ในยุคบรรพกาล ทำให้มนุษย์นั้นเพิ่มพลังลำบากมากกว่าเดิมนัก ต่างกับยุคก่อน แล้วเราจะต่อต้านการรุกรานได้อย่างไรด้วยพลังอันน้อยนิดของเรา”

“เจ้าไม่ต้องกังวลไปหรอก ข้ารู้เรื่องกฎที่ปั่นป่วนมานานแล้ว แต่มันไม่ได้ปั่นป่วนเพราะสงครามในยุคบรรพกาล แม้สงครามครั้งนั้นจะรุนแรง แต่มันก็ไม่ได้มากพอจะกระทบกฎของธรรมชาติได้ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะศิลาเซียนหยินหยาง หากเจ้าจัดการเรื่องนี้ได้ ทวีปเทียนหยวนจะฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว” โมเทียนหยุนอธิบาย

“อะไรนะ ? ทั้งหมดเป็นเพราะศิลาเซียนหยินหยาง ? ” หลังฟังคำอธิบายของโมเทียนหยุน สีหน้าของเจี้ยนเฉินกลับเป็นตกตะลึง

ยอดฝีมือเกือบทุกคนของทวีปเทียนหยวน รวมไปถึงเซียนราชา ต่างมั่นใจว่าเพราะกฎธรรมชาติที่ปั่นป่วนเนื่องจากสงครามในยุคโบราณกาลทำให้การเพิ่มระดับพลังนั้นเป็นเรื่องยาก แต่ยามนี้เองที่เขาได้รู้ว่ายอดฝีมือทั้งหมดต่างเข้าใจผิด สาเหตุไม่ใช่เพราะสงครามครั้งใหญ่แต่กลับเป็นเพราะศิลาเซียนหยินหยาง

ร่างของโมเทียนหยุนจางลงอย่างรวดเร็ว ราวกับกลายเป็นกลุ่มควันจาง ๆ ที่กำลังจะหายไป “เจ้าทั้งสองใช้ทักษะควบคุมพลังหยินและหยางเพื่อซึมซับพลังหยินสุดขั้วและพลังหยางสุดขั้วที่แผ่ออกมาจากพลังหยินหยาง ดังนั้นร่างกายและวิญญาณของพวกเจ้านั้นสามารถทนทานพลังหยินและพลังหยางสุดขั้วได้แล้ว ข้ามีทักษะคู่ประสานที่จะมอบให้เจ้า ในอนาคตหลังจากพวกเจ้าที่เพิ่มพลังมากพอแล้ว ก็กลับใช้ทักษะนี้ที่นี่เพื่อดูดซับพลังหยินหยาง มันจะช่วยให้เจ้าเพิ่มพลังได้อย่างรวดเร็ว ทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับพวกเจ้าแล้วยามที่โลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งเริ่มรุกราน” สิ้นคำโมเทียนหยุนชี้นิ้วชี้ปล่อยเจตจำนงเข้าไปในหัวของเจี้ยนเฉินและหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ด้วยความเร็วสูง

“ก่อนหน้านี้ ข้าเคยตั้งประตูมิติไว้ห่างจากที่นี่ 50 กิโลไปทางตะวันออก พวกเจ้าใช้มันออกไปได้ หากในอนาคตหากเจ้าอยากกลับมา ก็ใช้เส้นทางเดิม จำเอาไว้ว่าเรื่องศิลาเซียนหยินหยาง พวกเจ้าต้องจัดการมันให้เรียบร้อย” ร่างของโมเทียนหยุนยามนี้โปร่งแสงจนราวกับจะจางหายไปได้ทุกเมื่อ มองไปทางจิตวิญญาณกระบี่ม่วงฟ้าอย่างรอคอบคำตอบ

“ไม่ต้องห่วง ศิลาเซียนหยินหยางนั้นมีประโยชน์ทั้งสำหรับเราและนายท่าน พวกเราจะจัดการให้ดีที่สุด” จือหยิงยืนยันออกมา

เพราะจือหยิงให้คำยืนยัน ความกังวลในหัวของโมเทียนหยุนก็จางหายไป ร่างมายาของเขาก็ค่อย ๆ หายไปจนหมด กลิ่นอายและรัศมีพลังทั้งหมดจางหายไป

ทั้งสองไม่รู้สึกว่าโมเทียนหยุนหายไปแล้ว ยามนี้ทั้งสองยืนนิ่งปิดตาค่อย ๆ รับข้อมูลที่กำลังเข้ามาภายในห้วงความคิด

ไม่นานนักข้อมูลการฝึกคู่ประสานก็ถูกส่งต่อเข้ามาในห้วงความคิด แต่ทันทีที่ทั้งสองเห็นข้อมูลทั้งหมด สีหน้าแปลกประหลาดก็ปรากฏขึ้นมาพร้อมกันทั้งสองคน ตามมาด้วยบรรยากาศกระอักกระอ่วนน่าอึดอัด

ทั้งสองค่อย ๆ เปิดตา เจี้ยนเฉินมองหน้าหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ด้วยแววตาสับสน แต่ก่อนที่จะทันได้พูดอะไรขึ้นมาหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ก็พูดขัดขึ้นมาเสียก่อน

“ลืมวิธีการที่ผู้อาวุโสโมเทียนหยุนพูดออกมาให้หมด แล้วห้ามพูดถึงมันอีกในอนาคต” เสียงของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์เย็นเยียบดังออกอย่างไร้ซึ่งความลังเล นางไม่เหลือช่องให้โต้ตอบ

เจี้ยนเฉินถูจมูกตัวเองเบา ๆ อย่างกระอักกระอ่วนพร้อมก่นด่าอยู่ภายในใจ โมเทียนหยุนไม่ใส่ใจความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองแม้แต่น้อย วิธีการของเขานั้นถูกมองข้ามไปทันที

“ผู้อาวุโสโมเทียนหยุน” เจี้ยนเฉินประสานมือ แต่ก่อนที่เขาจะทันสอบถามมากขึ้น ก็พบว่าโมเทียนหยุนนั้นได้หายไปแล้ว

เจี้ยนเฉินยืนตาค้างจ้องมองอย่างใจลอยอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะเข้าใจ “ดูท่าทางกลิ่นอายผู้อาวุโสโมเทียนหยุนจะหายไปหมดแล้ว”

“โมเทียนหยุนไม่ใช่คนธรรมดา ๆ ” จือหยิงมองไปทางที่โมเทียนหยุนเคยอยู่ เขานั้นเคร่งเครียดแต่หลังจากเห็นศิลาเซียนหยินหยางก็ตื่นเต้นขึ้นมาแทน “นายท่าน รีบไปเร็วเข้า ศิลาเซียนหยินหยางนี้มันประโยชน์กับเรามาก หากท่านดูดซับพลังหยินหยางภายในนั้น ไม่เพียงฉิงโซวกับข้าจะหายเร็วขึ้น ร่างบรรพกาลของท่านก็จะพัฒนาไปด้วย”

เจี้ยนเฉินสลัดความคิดยามนี้ออกไป ก่อนค่อย ๆ เดินไปที่ศิลา เขาไม่รู้สึกมีความสุขเลยแม้แต่น้อยถึงแม้จะรู้ว่ามันมีมูลค่ามากเพียงใด แต่เขากลับหนักใจเป็นอย่างมาก

หลังจากรู้เรื่องโลกเซียนที่ถูกทอดทิ้งจากโมเทียนหยุน แรงกดดันลึกลับและหนักหน่วงถ้าโถมเข้ามาทำเอาเจี้ยนเฉินหายใจติด ๆ ขัด ๆ

สายพลังหยางขั้นสูงบาง ๆ บนพื้นผิวศิลาเซียนหยินหยางค่อย ๆ เข้าไปภายในร่างของเจี้ยนเฉิน ฉับพลันนั้นร่างทั้งร่างราวกับลุกเป็นไป ราวกับมีลูกไฟกำลังแผดเผาอยู่ภายใน

แต่ร่างกายของเจี้ยนเฉินไม่ได้ตกอยู่สภาพแย่มากเท่าสามวันก่อน ร่างของเขาเริ่มทนทานต่อพลังหยางสุดขั้ว ดังนั้นต่อให้พลังหยางที่ดูดซึมไปกลายเป็นดังลูกไฟอยู่ภายในตัว มันก็แค่ทำให้อึดอัดและเจ็บปวดแต่ไม่ได้ทำร้ายภายในเหมือนดั่งคราวก่อน

เจี้ยนเฉินกัดฟัน ร่างทั้งร่างร้อนระอุ เขานั่งอดทนซึมซับความทรมานที่ได้มาจากการดูดซับพลังหยางสุดขั้วอย่างยากลำบาก

พลังที่ซ่อนอยู่ภายในพลังหยางขั้นสูงนั้นทรงพลังและบริสุทธิ์มาก หากแต่การที่เขาจะดูดซึมพลังนั้นทั้งหมดแล้วเปลี่ยนเป็นพลังของตัวเองนั้นยากลำบากมาก พลังหยางในนี้นั้นวุ่นวายสับสน ด้วยระดับพลังของเจี้ยนเฉินในตอนนี้ เขามีทางเดียวคิดค่อย ๆ สกัดกลั่นไปเรื่อย ๆ อย่างช้า ๆ เท่านั้น

เวลาที่ใช้ในการสกัดกลั่นพลังหยางสุดขั้วนั้นนานมาก หลังผ่านไปครึ่งชั่วยาม เจี้ยนเฉินสกัดพลังไปได้เพียงหนึ่งในสิบส่วนของสายใยพลังนั้น

อีกด้านหนึ่ง สีหน้าของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ก็ไม่ได้ต่างไปจากเจี้ยนเฉินนัก ร่างของนางดูอึดอัดไม่น้อย ค่อย ๆ พยายามดูดซับพลังหยินสุดขั้วให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

หลังจากเห็นภายตรงหน้า จือหยิงอดถอนใจออกมาเบา ๆ ไม่ได้ “เฮ้อ ถ้าฝึกคู่ประสานกัน แค่เวลาไม่นานก็เพียงพอที่จะสยบพลังทั้งหมดได้ ไม่รู้จะคิดมากมายทำไม”

เจี้ยนเฉินใช้เวลาทั้งวันก่อนจะสกัดกลั่นพลังหยางสุดขั้วสำเร็จ มันกลายเป็นพลังที่ทรงพลังแต่นุ่มนวลอ่อนโยนค่อย ๆ เข้าไปในตัวเจี้ยนเฉิน

พลังที่อยู่ภายในนั้นสูงกว่าแกนอสูรระดับ 7 ต่อให้มีแก่นอสูรจำนวนมากมารวมกันก็ยังไม่เท่ากับผ่านในเส้นพลังอันนี้ หลังจากดูดซึมเข้าไป พลังบรรพกาลในตันเถียนของเจี้ยนเฉินก็ค่อย ๆ ขยายตัวมากขึ้นไปอีก เปลี่ยนจากขนาดเท่ากำปั้นในยามแรก ค่อย ๆ เข้าถึงขีดสุด

เจี้ยนเฉินไม่หยุด หลังจากกลั่นพลังสายแรกแล้ว เขารีบดึงพลังหยางสุดขั้วมาก่อนทำการสกัดกลั่นต่อทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ