เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 964

ตอนที่ 964: จากอาณาจักรทะเล

ฉิงยี่หยวนค่อย ๆ ออกมาจากที่ซึ่งเจี้ยนเฉินมองอยู่เมื่อเขาพูดจบ นางจ้องตาไม่กระพริบไปที่ซูเทียนซีและซูหยุนซีที่นอนจมกองเลือดอยู่ ตาของนางเต็มไปด้วยความตกใจและอึ้ง

ซูเทียนซีและซูหยุนซีทั้งคู่เป็นแปดสุดยอดจอมยุทธมนุษย์ในอาณาจักรทะเล พวกเขาทรงพลังเท่ากับนาง ทั้งหมดเป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 พวกเขาเป็นคนที่ทรงพลังมากทั้งในอาณาจักรทะเลและบนทวีปเทียนหยวน แต่พวกเขายังถูกเจี้ยนเฉินสังหารไปโดยง่ายราวกับการขยี้มดปลวก มันยากที่ฉิงยี่หยวนจะยอมรับได้ จิตใจของนางปั่นป่วนและสั่นไหว

เจี้ยนเฉินจ้องอย่างเย็นชาไปที่นางและพูดอย่างเฉยเมย “ฉิงยี่หยวน นี่เป็นสถานที่สำคัญของเผ่าเต่าของข้า เจ้ามีจุดประสงค์อะไรในการบุกรุกเข้ามา ? บอกมา ไม่อย่างนั้นข้าจะไล่เจ้าไปด้วยตัวเอง” อารมณ์ของเจียนเปลี่ยนอย่างรวดเร็วเนื่องจากเรื่องของผู้อาวุโสสูงสุด เขาไม่สุภาพเหมือนก่อนหน้านี้

ฉิงยี่หยวนโกรธทันทีกับคำขู่ของเจี้ยนเฉิน แต่นางก็ข่มอารมณ์เอาไว้หลังจากที่นางคิดกลับไปตอนที่ซูเทียนซีและซูหยุนซีถูกเจี้ยนเฉินฆ่าไปกับมือ นางสูดลมหายใจเข้าไปลึกและใจเย็นลง ก่อนที่จะมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยอารมณ์ที่ผสมปนเป “ข้ามีบางอย่างที่ต้องหารือกับเจ้า”

เจี้ยนเฉินลังเลเล็กน้อย ก่อนที่จะพยักหน้าตกลงในตอนสุดท้าย “มากับข้า” เจี้ยนเฉินบินออกไปไกล

เจี้ยนเฉินและฉิงยี่หยวนหยุดอยู่ห่าง 10 กิโลเมตรออกไป เจี้ยนเฉินยืนกอดอกอยู่และหันหลังให้ฉิงยี่หยวนในขณะที่เขามองไปที่ภูเขาที่อยู่ไกล ๆ แล้วพูดออกมา “พูดมา เจ้าต้องการจะหารืออะไรกับข้า ? “

ฉิงยี่หยวนจ้องไปที่หลังของเจี้ยนเฉินด้วยตาที่สดใสของนาง “ข้าหวังว่าเจ้าจะช่วยข้าจัดการกับตระกูลเต๋าได้”

“ตระกูลเต๋า ? หนึ่งในเผ่าที่ทรงพลังที่สุดในอาณาจักรทะเล ตระกูลเต๋านั้นน่ะหรือ ? ” แววแห่งความประหลาดใจปรากฎขึ้นในตาของเจี้ยนเฉิน

“ถูกต้อง หนึ่งในตระกูลที่ทรงพลังที่สุด หัวหน้าตระกูลคนก่อนมีบางอย่างที่ข้าต้องการมาก ข้าหวังว่าเจ้าจะช่วยข้าจัดการกับพวกเขาและช่วยข้าในการเอาของสิ่งนั้นมา” นางพูด

“ตระกูลเต๋าเป็นตระกูลที่มีความแข็งแกร่งที่น่าประทับใจ ข้าไม่ได้มีความบาดหมางกับพวกเขา ดังนั้นทำไมข้าถึงต้องช่วยเจ้าในการไปทำให้ตระกูลที่ทรงพลังแบบนั้นโกรธโดยไม่มีเหตุผลด้วย”

ฉิงยี่หยวนกัดฟันแล้วพูด “ในตอนที่เจ้าพยายายที่จะขโมยชิ้นส่วนแผนที่ของแผ่นดินทั้งแปดก่อนหน้านี้ ความตั้งใจของข้าคือการแลกเปลี่ยนมันกับสิ่งของที่ข้าต้องการจากหัวหน้าตระกูลคนก่อน ในตอนแรก ชิ้นส่วนแผนที่ได้อยู่ในมือของข้า แต่มันก็ถูกเจ้าเอาไปด้วยวิธีการที่ชั่วร้าย และทำให้ข้าพลาดหลังจากที่ลงแรงไปมากมาย แถมเจ้ายังได้เข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์และยังได้ประโยชน์อย่างมากจากมันอีก ไม่เพียงแต่เจ้าจะได้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิไปเท่านั้น โถงศักดิ์สิทธิ์ยังตกอยู่ในมือของเจ้าอีก เหตุผลที่เจ้าได้สิ่งเหล่านั้นและความแข็งแกร่งในตอนนี้ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะข้า ถ้าข้าไม่ได้เอาชิ้นส่วนแผนที่นี้มาจากหัวหน้าตระกูลฮัว ซึ่งก็ทำให้ข้าได้รับบาดเจ็บหนักด้วย เจ้าคิดว่าเจ้าจะมีปัญญาไปต่อกรกับจอมยุทธ 15 ดาวและ 16 ดาวด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าในตอนนั้นได้อย่างนั้นหรือ ? “

เจี้ยนเฉินหยุดเล็กน้อยก่อนที่จะพูดออกมา “ฉิงยี่หยวน สิ่งที่จะเจ้าพูดมาก็มีเหตุผลจริง ๆ ยกเว้นแต่ข้าขโมยแผนที่มาจากเจ้าด้วยความแข็งแกร่งของข้าเอง ในตอนนี้ข้ากำลังขยายเผ่าเต่าอยู่ แค่การเอาเหมืองผลึกกลับมาก็เป็นการทำให้ตระกูลต่าง ๆ โกรธมากพอแล้ว ดังนั้นข้าช่วยเจ้าในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ไม่ได้หรอก อย่างไรก็ตาม ติดต่อจอมยุทธมนุษย์คนอื่นได้ตามสบาย ข้ามั่นใจว่าพวกเขาจะต้องช่วยเจ้าแน่”

“เจี้ยนเฉิน ดูเหมือนเจ้าจะยังไม่เข้าใจในกฎของคนนอกที่อาศัยอยู่ในอาณาจักรทะเล ภายนอก พวกเขานั้นเป็นผู้อาวุโสอาคันตุกะของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ดังนั้นเราจึงมีตำแหน่งที่แน่นอน อย่างไรก็ตาม ถ้าพวกเราทำอะไรที่มันเกินไปในอาณาเขตของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล บางทีคนที่ลงโทษพวกเราอาจจะเป็นผู้อาวุโสประจำศาลาเองเลยก็ได้ พวกเขาไม่ยอมให้พวกเราที่เป็นคนนอกทำอะไรได้ตามปรารถนาหรอก” ตาของฉิงยี่หยวนเป็นประกายก่อนที่จะพูดต่อ “แต่เจ้านั้นต่างออกไป สถานะของเจ้านั้นแตกต่างจากผู้อาวุโสอาคันตุกะ ถ้าเจ้าทำสิ่งนี้ ศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลก็จะสร้างปัญหาให้กับเจ้าไม่ได้”

“ฉิงยี่หยวน มันก็เหมือนก่อนหน้านี้แหละ ข้าจะไม่ไปทำให้เผ่าที่ทรงพลังโกรธด้วยเรื่องเล็กน้อย แม้ว่าข้าจะไม่ได้กลัวพวกนั้น แต่ข้าต้องคิดถึงคนในเผ่าด้วย ลาก่อน” หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็หันหลังและจากไป

ฉิงยี่หยวนเริ่มที่จะกังวล นางตะโกนออกมา “เจี้ยนเฉิน ถ้าเจ้าช่วยข้าในการเอาสิ่งของนี้มา ข้าจะช่วยเจ้าทำอะไรก็ได้ 10 อย่างที่ข้าสามารถทำได้”

อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉินก็ไม่ได้หันหลังกลับมาเลย เขายังคงเดินหน้าต่อไป ข้อเสนอของฉิงยี่หยวนไม่พอที่จะล่อลวงเจี้ยนเฉินได้

ฉิงยี่หยวนกัดฟันในขณะที่นางมองดูเจี้ยนเฉินจากไป โทสะบังเกิดขึ้นบนใบหน้าที่งดงามของนาง แต่ภายในนั้นก็มีความสิ้นหวังและช่วยไม่ได้อยู่

หลังจากที่เสร็จเรื่องการแก้แค้นให้กับผู้อาวุโสสูงสุดแล้ว เจี้ยนเฉินก็นำคนกลับไปที่เผ่า จากนั้นเขาก็ส่ง หลานจิง ซินเปียน และโมชาส พร้อมทั้งไทโตวและกลุ่มจอมยุทธเพื่อที่จะไปเอาเหมืองผลึกกลับคืนมามากกว่าเดิม

ด้วยการมีอดีตผู้อาวุโสคุมวินัยทั้งสาม ความเร็วในการเอาเหมืองผลึกกลับมาของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน พวกเขาเอาเหมืองที่พวกเขาเคยครองมาได้ครึ่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว และทำให้รากฐานของเผ่าแข็งแกร่งขึ้น

เทพเจ้าแห่งท้องทะเลพูดต่อ “เจี้ยนเฉิน ถ้าเจ้าเจอเข้ากับคู่ต่อสู้ที่เจ้าไม่สามารถเอาชนะได้บนทวีปเทียนหยวน ให้ไปที่เมืองทหารรับจ้าง ม่านพลังของเมืองทหารรับจ้างนั้นทรงพลังมาก มันสามารถช่วยเจ้าป้องกันศัตรูที่เจ้าไม่สามารถเอาชนะได้”

เจี้ยนเฉินตกตะลึงในใจเมื่อได้ยินแบบนั้น เขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงใบหน้าที่ไร้เดียงสาของเสี่ยวหลิง เขายากที่จะเชื่อว่าเด็กหญิงตัวน้อยที่ซุกซนแบบนั้นจะทรงพลังขนาดจนถึงขั้นป้องกันศัตรูที่เขาไม่สามารถเอาชนะได้

“ดูเหมือนเสี่ยวหลิงจะเป็นเซียนจักรพรรดิเป็นอย่างน้อย”

เจี้ยนเฉินบินผ่านม่านพลังไปและเข้าไปในน้ำทะเลที่เย็นเฉียบ โดยไม่ลังเล เขาพุ่งขึ้นไปเหมือนธนูไปที่พื้นผิวของทะเล

มันเป็นท้องฟ้าที่ไร้เมฆสีฟ้าคราม ดวงอาทิตย์สีทองส่องแสงสว่างจ้าที่สาดส่องไปทั่วโลก

ผิวของทะเลดูสงบ ในขณะที่ทะเลสีฟ้าครามหลอมรวมกับท้องฟ้าที่เส้นขอบฟ้า มันดูเหมือนจะเป็นชิ้นเดียวกัน และทำให้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะดูว่ามันไปสุดที่ไหน

ในตอนนี้เอง คลื่นก็ปรากฏขึ้นมาที่ทะเลที่สงบนิ่ง หลังจากนั้น น้ำก็ระเบิดขึ้นมา และทำให้มันกระเซ็นออกไปทั่วทิศทางเหมือนดอกไม้สีฟ้าครามที่กำลังบาน

มีร่างออกมาจากกึ่งกลางของสายน้ำด้วยความเร็วดุจสายฟ้า เขาบินขึ้นไปถึงระดับ 1,000 เมตรในไม่กี่อึดใจต่อมา และกลายเป็นจุดเล็ก ๆ เหมือนมด

ร่างนั้นคือเจี้ยนเฉิน เขาลอยอยู่ในระดับสูงในขณะที่เขาหลับตาช้าช้าและอ้าแขนออก เขาลอยค้างอยู่อย่างนั้นด้วยความรู้สึกมึนเมา และปล่อยให้แสงแดดอุ่นสาดส่องมาที่ร่างของเขา

“มันก็ผ่านมาก็นานแล้วที่ข้าไม่ได้รู้สึกถึงความอบอุ่นของแสงแดด” เจี้ยนเฉินพึมพำ เสียงของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่เขายากจะเก็บเอาไว้ได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ