ให้ตายสิ มีคนต้องการเดิมพันกับฉันตอนนี้เหรอ
ท่าทางจะเป็นแค่ความใจร้อนของคนหลงตัวเองเสียมากกว่า
หยางเฟิงเหลือบมองหลงเปียวแล้วพูดเบาๆ ว่า “คุณเป็นเจ้ามือของกาสิโนไม่ใช่เหรอ ผมไม่คิดว่าคุณมีฝีมืออะไรมากนักหรอก ถ้าเป็นกาสิโนของผมแล้วมีเจ้ามืออย่างคุณล่ะก็ ป่านนี้กาสิโนผมเจ๊งไปแล้ว”
แต่ถึงหยางเฟิงจะพูดเบาๆ แต่ทุกคนได้ยินชัดเจนกันหมด
หลงเปียวมีสีหน้าถมึงทึงทันที เขาโกรธจัดมาก
บัดซบ! โอหังเกินไปแล้ว! นี่มันยโสโอหัง หยามหน้ากันเกินไปแล้ว! หยางเฟิงคนนี้ไม่เห็นหัวคนอย่างเขาบ้างเลยหรือไง
“ฮึ่ม!”
หลงเปียวส่งเสียงสบถอย่างเย็นชา คนอย่างเขาไม่มีทางยอมลงให้คนอย่างหยางเฟิงแน่ “ไอ้หนู อย่าปากดีนัก ระวังปากบ้าง ปลาหมอตายเพราะปากนะ!”
อุ๊บ!
หยางเฟิงไม่ได้ตอบสนองอะไรไร้สาระแบบนั้น แต่เขาผลักชิปกองโตตรงหน้าไปไว้ตรงกลางโต๊ะ แล้วพูดอย่างอวดดีว่า “ผมมีเงินเดิมพันเป็นพันล้านตรงนี้ คุณกล้าเดิมพันกับผมไหม คุณมีดีพอจะรับเดิมพันของผมหรือเปล่า”
“ถ้าไม่กล้าพอ หรือไม่เก่งพอ ก็ถอยไป อย่าทำให้ผมเสียเวลาเปล่าเลย”
ในจังหวะนี้เองที่หยางเฟิงแสดงท่าทางอวดดียิ่งกว่าเดิมใส่อีกฝ่าย เขารู้ดีว่าถ้าทำแบบนี้ หลงเปียวต้องตกลงเดิมพันกับเขาแน่นอน
อย่าว่าแต่หลงเปียวเลย คนมุงรอบข้างหลายคนก็เริ่มรู้สึกคันไม้คันมืออยากมีส่วนร่วมแจกมือเท้าใส่หยางเฟิง ต้องบอกว่าท่าทางอวดดีของหยางเฟิงนั้นสมจริงมากและน่าหมั่นไส้มากจนหลายคนอยากลงมือเข้าจริงๆ
ในขณะเดียวกันนั้นเอง หลงเปียวรู้ดีว่าหยางเฟิงกำลังแสดงจุดอ่อนตัวเองออกมา จากประสบการณ์ของเขาแล้ว ยิ่งหยางเฟิงแสดงท่าทางอวดดีแบบนี้มากเท่าไหร่ เขายิ่งเอาชนะหยางเฟิงได้ง่ายขึ้นเท่านั้น
เขาไม่มีทางให้หยางเฟิงเอาชิปมูลค่าหลายพันล้านไปแลกเงินแล้วเดินออกจากกาสิโนแห่งนี้ได้แน่นอน
ไม่มีทาง!
เมื่อคิดได้เช่านนั้นแล้ว หลงเปียวก็แค่นหัวเราะด้วยความโกรธจัดออกมา “ดี! ดีมาก! ไอ้หนุ่ม ท่าทางฉันจะประเมินแกต่ำเกินไป ในเมื่อแกกล้าเดิมพันกับฉัน ฉันคนนี้ก็จะรับเดิมพันของแกเอง!"
“เร็วเข้า เด็กๆ เอาชิปมูลค่าหนึ่งพันล้านมาให้ฉัน”
ไม่กี่อึดใจต่อมา พนักงานกาสิโนคนหนึ่งก็นำชิปมูลค่าหนึ่งพันล้านมาให้หลงเปียว หลงเปียวรับชิปมาแล้ววางไว้บนโต๊ะตรงหน้า มองหยางเฟิงด้วยท่าทีเหนือกว่า แล้วถามไปว่า
“แล้วจะเดิมพันกันยังไง”
พอกล่าวจบ หยางเฟิงก็ดันกองชิปจำนวนพันล้านเหรียญไปไว้ที่ “เล็ก”
ว่าแล้วเชียว หลงเปียวแสยะยิ้มมุมปาก ไม่ว่ายังไง หลงเปียวต้องชนะ! หยางเฟิงต้องแพ้!
หลงเปียวครุ่นคิดและคำนวณแผนการของตนไว้ในใจแล้ว คราวนี้ ไม่ใช่แค่เงินตรงหน้า แต่เขาจะทำให้หยางเฟิงสูญเสียทุกอย่าง รวมถึงครอบครัวและชีวิตของตัวเองด้วย
ในเมื่อหยางเฟิงกล้ามาหยามเขาถึงที่นี่ ก็ต้องกล้าทิ้งชีวิตไว้ที่นี่ด้วยเช่นกัน
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
หลงเปียวหัวเราะเสียงดังลั่น แล้วพูดออกมาว่า “ทายว่าเล็กงั้นเหรอ ไอ้หนุ่ม อย่าเสียใจเสียล่ะ คิดจริงๆ เหรอว่าแกจะมีโชคดีมากขนาดนั้น ขอบอกเลยว่า ฉันคนนี้ใช้ชีวิตในกาสิโนมาหลายสิบปี ไม่เคยแพ้เลยสักครั้ง!”
ในสายตาของหลงเปียว หยางเฟิงพ่ายแพ้ไปเรียบร้อยแล้ว ต่อให้เทพเซียนอมตะเหาะเหินเดินอากาศลงจากสวรรค์มาช่วยก็ไม่มีทางช่วยหยางเฟิงได้
หยางเฟิงพูดขัดขึ้นด้วยความรีบร้อนว่า “อย่ามาไร้สาระน่า รีบเปิดถ้วยเร็วเข้า แล้วอย่าลืมช่วยทำท่าทางเหมือนคุณกำลังจะชนะผมด้วยล่ะ”
หลงเปียวอดหัวเราะไม่ได้ แต่เขาก็หัวเราะไม่ได้เหมือนกัน เพราะเขาอยากเห็นสีหน้าท่าทางของหยางเฟิงในยามที่สิ้นหวังหมดสภาพทั้งทางกายและทางใจ เขาอยากเห็นสีหน้าท่าทางของหยางเฟิงยามที่ร่วงหล่นจากสวรรค์ชั้นเจ็ดลงไปทิอยู่ที่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก
อ่านไม่ได้ครับ...