แม้ว่าหยางเฟิงจะไม่ฆ่าเขา แต่หยางเฟิงจะทําให้เขาอับอายขายหน้าในทุกวิถีทาง ทำลายศักดิ์ศรีของยอดฝีมือสำนักกุ่นเหมินของเขา และคอยทําให้ชีวิตของเขาเลวร้ายยิ่งกว่าความตาย!
"นั่นคือศิษย์ไม่ใต้สังกัดที่ท่านจอมพลเพิ่งรับมาใช่ไหม"
ในเวลานี้ ไป๋หู่เดินไปหาผู้คุมกฎสิบและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "นับตามศักดิ์ฐานะของวงการศิลปะการต่อสู้ ฉันถือเป็นศิษย์พี่ใหญ่ของอู๋ซง แต่เนื่องจากนายเป็นศิษย์ที่ท่านจอมพลรับเข้ามาโดยตรงด้วยตัวเอง ได้รับการยอมรับจากท่านจอมพล ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายคือศิษย์พี่รองของอู๋ซง!"
"ชื่อผู้คุมกฎสิบของคุณน่าเกลียดเกินไป ไม่เหมาะกับที่นี่ ลองเปลี่ยนชื่อเป็นคุณหมูสกปรกดีกว่านะ!"
"......"
ผู้คุมกฎมองไป๋หู่ด้วยสีหน้างุนงง
ศิษย์พี่รองบัดซบอะไรกัน
คุณหมูสกปรกบัดซบอะไรกัน
การถูกหาเรื่องแบบนี้ในขณะที่ขยับร่างกายลงมือตอบโต้ไม่ได้ นี่แย่กว่าการถูกเรียกว่า จูป้าเจี่ย (ตือโป๊ยก่าย) เสียอีก!
ผู้คุมกฎตัวสั่นด้วยความโกรธ เขาพยายามควบคุมสติจนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ เขาตัดสินใจหันหลังกลับและจากไปด้วยใบหน้าที่เย็นชา
ผู้คุมกฎสิบกลัวว่าหากเขาอยู่ที่นี่ต่อไป เขาจะต้องโกรธจนหัวใจวายตาย!
เมื่อเห็นผู้คุมกฎสิบเดินจากไป ไป๋หู่จึงกล่าวด้วยรอยยิ้มขี้เล่นว่า "ศิษย์น้องรอง ขอถามหน่อยว่าทําไมถึงจากไปแบบนั้นล่ะ นายคิดว่าฉันให้ชื่อที่เหมาะสมให้กับนายแล้วใช่ไหม ไม่จําเป็นต้องขอบคุณฉันหรอกนะ อันที่จริงฉันคิดว่า จูอู่เหนิง (หมูไร้น้ำยา) เหมาะกับนายมาก!"
ผู้คุมกฎไม่อยากได้ยินอะไรจากปากของไป๋หู่อีกแล้ว เขารีบสาวเท้าไปอย่างรวดเร็วเท่าที่ร่างกายจะอำนวย เขากลัวว่าถ้าเขาฟังมันอีกต่อไป เขาจะอดทนไม่เข้าไปสู่กับไป่หู่จนตัวตายไม่ได้
เมื่อเห็นผู้คุมกฎจากไป ไป๋หู่เยาะเย้ยอย่างดูถูก "กล้าที่จะมาหาเรื่องท่านจอมพล หัดเจียมใส่หัวว่าตัวเองมีปัญญากับฝีมือเทียบกับเขาได้แค่ไหน"
ไป๋หู่มายืนต่อหน้าหยางเฟิงอีกครั้ง เขาขมวดคิ้วและพูดว่า "ท่านจอมพล ผู้คุมกฎสิบมาที่นี่แบบนี้ ท่าทางไม่ใช่เรื่องดีเลยครับ! ท่านจอมพล ท่านต้องการเอาขยะเปียกชิ้นนี้ไปเป็นศิษย์จริงๆ หรือครับ"
ในทัศนะของไป่หู่ สถานะของหยางเฟิงมีเกียรติสูงส่งเพียงใด คนใกล้ชิดติดตามหยางเฟิงมีความสามารถมากแค่ไหน แม้แต่ตัวเขาที่ฝีมืออ่อนด้อยยังสามารถรับรู้ได้ถึงความยิ่งใหญ่ของท่านจอมพล
สําหรับเขา ผู้คุมกฎสิบเป็นเพียงตัวละครเล็กๆ และไม่สําคัญว่าเขาจะฆ่าหรือไม่ แต่ถ้าหากเขาไม่ฆ่า เขาจะสามารถล่อคนที่อยู่เบื้องหลังผู้คุมกฎสิบออกมาได้
หลังจากมีข่าวว่าผู้คุมกฎสิบเข้ามาที่อู๋ซงเพื่อกราคารวะขอเป็นศิษย์ของเขา หลังจากข่าวนี้แพร่กระจายออกไป ย่อมมีบางคนร้อนใจจนอดรนทนไม่ไหว ย่อมมีบางคนปรากฎตัวออกมากวนน้ำให้ขุ่นด้วยแน่นอน!
หยางเฟิงมองไปที่ไป๋หู่ และพูดว่า "ช่างเถอะ นายไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ นายหาใครสักคนให้ฉันที ฉันอยากได้คนที่คอยจับตาดูผู้คุมกฎสิบให้ดีได้ตลอดเวลา"
"ครับ ท่านจอมพล"
ไป๋หู่พยักหน้ารับคำ ไม่ว่าหยางเฟิงจะพูดอะไร เขาก็จะทําตามนั้น เพราะไป่หูรู้ในใจว่าหยางเฟิงมีความตั้งใจของตัวเองในทุกย่างก้าวที่เขาทํา
หยางเฟิงเหลือบมองหม่าตงที่ยืนข้างๆ เขาและพูดว่า "หม่าตง นายควรให้ความสําคัญกับเรื่องของอู๋ซงให้มากขึ้น! เพราะเราได้เปิดตัวแล้ว ก่อตั้งขึ้นแล้วความหวังของคนมากมาย เราควรพยายามอย่างเต็มที่เพื่อส่งเสริมศิลปะการต่อสู้ของต้าเซี่ย นี่เป็นสิ่งที่มีความหมายมากและเป็นจุดประสงค์แต่แรกของการก่อตั้งอู๋ซง"
เมื่อหยางเฟิงพูดแบบนี้ หม่าตงเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการทุ่มเวลามาสนใจอู๋ซง เพราะสําหรับหยางเฟิงแล้ว เขาไม่เคยชอบดูแลเรื่องบางเรื่องเป็นการเฉพาะและเขาไม่มีเวลาดูแลกิจการหรือหน่วยงานต่างๆ ของเขาทั้งหมดด้วยตัวเอง
หม่าตงพยักหน้าและพูดว่า "ท่านจอมพลไม่ต้องกังวลครับ ผมจะทําให้สบกับความไว้วางใจของคุณอย่างแน่นอน"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก
อ่านไม่ได้ครับ...