“ตู้ต้วนเทียน ให้ตายสิ เขามายุ่งกับเราทำไม”
อิ่นป่ายกัดฟันคำราม “อิ่นหนิงหยู่นั่นไร้ยางอายจริงๆ ตอนนี้เพิ่งอยู่มหาวิทยาลัย ก็ปีนขึ้นเตียงของตู้ต้วนเทียนแล้ว ทำให้ตู้ต้วนเทียนหลงใหลคลั่งไคล้”
“หน้าไม่อาย อีกะหรี่”
อิ่นเสี้ยงสวี่ก็กำลังด่าอิ่นหนิงหยู่ด้วยเช่นกัน เพราะตู้ต้วนเทียนเป็นตัวเลือกคู่ชีวิตที่ดีจริงๆ ทั้งหล่อ ทั้งรวย แล้วยังมีความสามารถ ตอนแรกเธอยังคิดว่าจะอาศัยชื่อเสียงตระกูลให้ได้ใกล้ชิดกับตู้ต้วนเทียน
อันที่จริง บางคนก็เต็มใจที่จะเป็นคุณนายน้อยของตระกูลตู้
แต่ว่า เขาไม่เพียงไม่ให้โอกาสเธอ แต่ยังตบเธอด้วย
น่าอับอายที่สุด!
ตอนนี้เมื่อเห็นความสนิทสนมของอิ่นหนิงหยู่และตู้ต้วนเทียน เธอย่อมรู้สึกอิจฉามากเป็นธรรมดา
มีสิทธิ์อะไร?
กะหรี่ต้อยต่ำจะคู่ควรกับตู้ต้วนเทียนได้อย่างไร?
ฮ่า
“หยุดด่าเถอะ ตอนนี้ด่าไปก็ไร้ประโยชน์ คิดหาทางกันเสียก่อน ถ้าจัดการไม่ได้ ตระกูลของเราจะต้องล่มสลายในครั้งนี้”
คุณท่านอิ่นโบกมือห้ามอิ่นป่ายและอิ่นเสี้ยงสวี่ ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดตอนนี้คือจะแก้ไขปัญหาวิกฤตนี้อย่างไร
ตู้ต้วนเทียนลงสนามแล้ว
ตระกูลของพวกเขาตกอยู่ในอันตราย
“คุณปู่ ให้พวกเราไปประจบอู๋ห้าวเถอะ คุณชายตระกูลอู๋ มีฐานะไม่ด้อยไปกว่าตู้ต้วนเทียน” อิ่นป่ายกล่าว
“อู๋ห้าว? เขาคนนี้มีฐานะสูง แต่มีความโลภมากกว่าด้วยซ้ำไป”
คุณท่านอิ่นหรี่ตา เขารู้ด้วยว่าอู๋ห้าว คุณชายตระกูลอู๋ ซึ่งเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในเมืองเจียงเฉิง มีฐานะไม่ด้อยไปกว่าตู้ต้วนเทียน สามารถพูดได้ว่าแข็งแกร่งกว่านิดหน่อยด้วยซ้ำ
แต่ก็เป็นคนโลภมาก
ต้องการไปเสียทุกอย่าง
คนส่วนใหญ่ที่ร่วมมือกับอู๋ห้าวถูกทำร้ายจนเกือบตาย ดังนั้นผู้คนจากเมืองเจียงเฉิงจึงระมัดระวังตัวจากอู๋ห้าวอยู่พอสมควร
“คุณปู่ อู๋ห้าวเป็นคนโลภ แต่พวกเรามีสิ่งที่เขาต้องการ”
“นายหมายถึง?”
“อิ่นซิน”
หลังจากหยุดไปชั่วครู่อิ่นป่ายก็กล่าวว่า “อิ่นซินเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิง อู๋ห้าวเคยตามจีบอิ่นซินแต่ไม่สำเร็จ คราวนี้พวกเราสามารถชดเชยความเสียใจของเขาในตอนนั้นได้โดยการส่งอิ่นซินให้อู๋ห้าว อีกอย่างอิ่นซินก็มีลูกมาหลายปีแล้ว รูปร่างกลับดีขึ้นเสียด้วยซ้ำไป อู๋ห้าวไม่มีทางปฏิเสธแน่”
“พอพวกเราเอาใจอู๋ห้าวได้สำเร็จ ตระกูลอิ่นของเราก็จะมีหลักประกันในอนาคต แค่กางปีกก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า”
แค่กางปีกก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า
สี่คำนี้แวบเข้ามาในใจของคุณท่านอิ่น
ใช่แล้ว
เขารู้สึกใจเต้น แม้ว่าอิ่นซินจะเป็นหลานสาวแท้ๆ ของเขา แต่ก็ยังสำคัญสู้ความเจริญรุ่งเรืองของตระกูลได้ เมื่อเทียบกับตระกูลแล้ว อิ่นซินไม่มีค่าอะไรเลย
หลังจากชั่งน้ำหนักในใจแล้ว คุณท่านอิ่นก็ตอบตกลง “ฉันเห็นด้วย”
“ครับปู่ ผมยังต้องการความร่วมมือจากท่านด้วย”
รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของอิ่นป่าย เขาก้าวไปข้างหน้า คุณท่านอิ่น อิ่นป่าย และอิ่นเสี้ยงสวี่ ทั้งสามคนกำลังวางแผนใส่ร้ายอิ่นซิน
ในความคิดของพวกเขา อิ่นซินเป็นที่ต้องตาจากอู๋ห้าว ตระกูลอิ่นก็เจริญรุ่งเรือง นี่คือตอนจบที่ดีที่สุด
ส่วนอิ่นซินจะมีความสุขหรือไม่ เต็มใจหรือไม่ มันก็ไม่ใช่เรื่องของพวกเขา
…
ในบ้านของอิ่นซิน ฉินเฟิงกำลังนั่งอยู่บนระเบียงและได้รับข้อความจากตู้ต้วนเทียน เขาสั่งให้ตู้ต้วนเทียนต้มกบด้วยน้ำอุ่น ทำลายตระกูลอิ่นทีละขั้นอย่าให้รู้ตัว
ตระกูลอิ่นพุ่งเป้ามาที่อิ่นซินเช่นนี้
ถ้าถูกทำลายในเวลาอันสั้นก็จะหาความสนุกไม่ได้ ต้องทำให้พวกเขารู้สึกถึงความสิ้นหวังของการล่มสลายทีละน้อย มันถึงจะเป็นการทรมานที่ใหญ่หลวงที่สุด
อิ่นซินพูดเช่นนี้ด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ “มันเป็นเรื่องที่ดี บริษัทซานหยวนกรุ๊ปเป็นของฉันแต่เดิม ฉันควรจะเอามันกลับมา แต่ยังไงฉันก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ”
“มีบางอย่างผิดปกติ”
ฉินเฟิงพยักหน้า
คุณท่านอิ่นใจดีมากขนาดที่จะมอบทุกอย่างให้เลยเหรอ?
“แต่พรุ่งนี้ฉันยังต้องกลับไป เพราะฉันจะยอมถอยให้ไม่ได้ นี่เป็นโอกาสที่หายากสำหรับฉันที่จะทวงคืนบริษัทซานหยวนกรุ๊ปคืนทั้งหมด แม้แต่ในฝันฉันก็ยังคิด”
อิ่นซินกัดริมฝีปาก ไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้เช่นนี้
นี่เป็นโอกาสที่หายาก
คนของตระกูลอิ่นควบคุมตำแหน่งสำคัญทั้งหมดในบริษัทซานหยวนกรุ๊ป ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเธอที่จะกลับไปนั่งตำแหน่งประธานคณะกรรมการ แต่มันกลับไม่เป็นอย่างในอดีตแล้ว
เธอถูกกีดกันอย่างแท้จริง ตำแหน่งประธาน ยังดำรงอยู่ก็แค่ในนามเท่านั้น
บริษัทซานหยวนกรุ๊ปดูภายนอกนั้นเป็นของเธอ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ เธอทำไม่ได้แม้แต่จะออกคำสั่ง คนในบริษัทนอกจากเรียกว่าประธานในบางครั้งคราว เรื่องอื่นก็ไม่เคยฟังเธอเลย
ครั้งนี้คือโอกาสของเธอที่จะได้คุมอำนาจอย่างเป็นทางการ ได้สิ่งที่เป็นของตัวเองกลับคืนมา
“พรุ่งนี้ให้ผมไปเป็นเพื่อนคุณดีไหม?” ฉินเฟิงกล่าว
“ไม่ต้องค่ะ พรุ่งนี้คุณต้องไปทำงาน หาเงินให้ได้มากๆ สองล้านภายในเวลาครึ่งปีนะ”
พออิ่นซินพูดออกมาเช่นนี้ เธอก็รู้สึกเสียใจ เธอเลี่ยงที่จะคุยปัญหานี้กับฉินเฟิงมาโดยตลอด เพราะสำหรับเธอแล้ว การหาเงินสองล้านภายในครึ่งปีนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฉินเฟิงเลย
เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต่ำต้อย เงินเดือนน้อยนิด จะหาเงินสองล้านได้ภายในครึ่งปี แถมตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกเพียงห้าเดือนเท่านั้น
คาดว่าอีกห้าเดือนต่อมา ทั้งสองคนจะต้องหย่ากันแล้ว
มันแทบจะเป็นเรื่องที่แน่นอนแล้ว
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ อิ่นซินก็กลัวว่าฉินเฟิงจะเสียใจ จึงรีบเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว “คุณไม่ต้องห่วง ถึงยังไงฉันก็อยู่ในตระกูลอิ่นมาตั้งแต่เด็ก ดีร้ายยังไงก็ยังเป็นสายเลือดเดียวกัน คงไม่ทำอะไรฉันจนเกินเลยหรอก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพศึกมังกรหวนคืน