ผ่านไปไม่นาน โหวเมิ่งหยาวก็เดินออกมา ใบหน้าหยิ่งยโสในตอนแรก วินาทีนี้กลับก้มลงมา“บอสคะ ฉันคุยเรียบร้อยแล้วค่ะ”
“ดี”
ต่อมา โหวเมิ่งหยาวก็จากไปกับฉีหยุน
ผ่านไปอีกห้านาที อิ่นซินก็เดินออกมาจากด้านใน ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่ไม่อาจปกปิดได้ เธอขึ้นมานั่งข้างคนขับ แล้วพูดอย่างมีความสุขว่า“คุณคะ คุณรู้ไหม หน้าของอิ่นป่ายกับหวงจงโกรธจนหน้าช้ำเลยค่ะ วันนี้ต้องขอบคุณความช่วยเหลือจากMr.X ในที่สุดฉันก็เอาบริษัทซานหยวนกรุ๊ปกลับมาได้ เจ็ดปีแล้ว เจ็ดปีเต็มๆแล้ว เฝ้ามองดูบริษัทซานหยวนกรุ๊ปเติบโตไปกับลูกของฉัน”
“แต่น่าแปลกมากเลยนะคะ Mr.Xตกลงเป็นใครกันแน่? ถึงได้บอกว่าจะให้เงินอัดฉีดฉันหนึ่งพันล้าน ไม่กลัวว่าฉันจะทำธุรกิจล้มไม่เป็นท่าหรอคะ หรือเอาเงินหนีไป”
อิ่นซินพูดถึงMr.Xตลอดทาง
“อืม”
ฉินเฟิงตอบรับ
แต่เมื่อขับมาได้สิบนาที ฉินเฟิงก็มองไปที่กระจกหลัง พลางพูดขึ้นว่า“มีคนกำลังสะกดรอยตามเรา”
“สะกดรอยตามเราหรอคะ?”
อิ่นซินตกตะลึง หันกลับไปมองดู เป็นไปตามคาดมีรถเบนซ์สีขาวคันนหนึ่ง
“นั่งดีๆนะครับ”
ฉินเฟิงเหยียบคันเร่ง แต่รถคันด้านหลังก็เหยียบคันเร่งตามเช่นกัน ขับไปได้ครู่หนึ่ง ก็ต้องผ่านโค้งหน้าผา รถเบนซ์คันนั้นขับพุ่งตรงเข้ามา
เตรียมจะชนรถของฉินเฟิงตกหน้าผา
แต่แล้ว หลังจากการขับดริฟท์รถ ฉินเฟิงก็หยุดอยู่ตรงทางโค้ง รถเบนซ์คันนั้นเบียดรถของฉินเฟิงแล้วกระเด็นออกไป
“ยังมีอีกค่ะ!”
จู่ๆ อิ่นซินก็เห็นว่าข้างหน้ามีรถบรรทุกขนาดใหญ่หนึ่งคัน ขับด้วยความเร็วสูง พุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง เธอตกใจขึ้นมาในทันที
“จับให้แน่น”
ฉินเฟิงตะคอกอย่างเย็นชา แล้วเพิ่มความเร็ว พุ่งเข้าไปหารถบรรทุกใหญ่คันนั้น ดูเหมือนใกล้จะชนแล้ว เป็นเพียงแค่รถคันเล็กชนรถบรรทุกใหญ่คันหนึ่ง ผลลัพธ์น่าจะคาดเดาได้
แต่แล้ว ฉินเฟิงไม่ได้คิดจะเข้าชน
เมื่อเขากำลังชน ฉินเฟิงก็รีบเหยียบเบรก ด้วยความที่ล้อลื่นมากจึงทำให้รถเสียการควบคุม รถหมุนไปหนึ่งรอบ รถหมุนไปอยู่ด้านล่างของรถ
ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังปึ้ง
รถบรรทุกชนราวกั้นพัง จนกระเด็นออกไป แต่วินาทีสุดท้ายฉินเฟิง ก็หักพวงมาลัย แล้วหมุนออกมา หยุดตรงข้างหน้าผาพอดี
“ฉะ……ฉัน……แจ้ง……แจ้งตำรวจ”
อิ่นซินค่อยๆใจเย็นลง รีบหยิบมือถือขึ้นมา โทรแจ้งตำรวจ
ผ่านไปไม่นาน ก็มีตำรวจกรูกันเข้ามา อิ่นซินที่เห็นจึงถอนหายใจ“น่าจะไม่มีอะไรเกี่ยวกับเราแล้วล่ะ รถสองคันนั้นชนกันเอง”
“เชิญทั้งสองทั้งไปให้ปากคำด้วยครับ”
ผู้กำกับตำรวจคนหนึ่งเดินเข้ามา
“ดะ……ได้ค่ะ……”
อิ่นซินถูกตำรวจคนหนึ่งพาไป ตอนนี้สำหรับเธอแล้ว สถานีตำรวจเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุด และแน่นอนว่าเมื่อฉินเฟิงแสดงเอกสารเขาก็เดินจากไป
ลำพังแต่สถานีตำรวจธรรมดา ไม่สามารถจับเทพสงครามอันดับหนึ่งแห่งประเทศต้าหัวได้
กริ๊ง
มีสายหนึ่งโทรเข้ามา ฉินเฟิงจึงรับสาย
“ท่านนายพลครับ คนที่รับผิดชอบคุ้มกันกั่วกั่ว จับมือลอบสังหารได้คนหนึ่ง ภารกิจของเขาก็คือการฆ่ากั่วกั่ว เราตรวจสอบพบว่าเป็นคนของตระกูลหลี่แห่งเจียงเฉิง อิ่นป่ายก็ไปตระกูลหลี่แห่งเจียงเฉิงแล้วครับ”ฉีหยุนกล่าวอย่างโกรธเคือง
“ตระกูลหลี่แห่งเจียงเฉิง ดีมาก ฉีหยุน”
“ครับ”
หลังจากนั้น อิ่นซินก็มีเรื่องที่อิ่นซินถูกคนลอบวางยา
หลังจากเจริญรุ่งเรืองดุจดั่งพระอาทิตย์กลางท้องฟ้า บริษัทซานหยวนกรุ๊ปขนาดใหญ่ก็ยุบไป และถูกลี่ซื่อกรุ๊ปฮุบไว้
ตระกูลหลี่ยังรับปากกับเขา หนี้บุญคุณที่ติดอิ่นป่ายไว้ ในตอนที่เขาวิกฤติต้องการความช่วยเหลือ ก็ให้มาหาเขาได้เลย
หนี้บุญคุณนี้ความจริงอิ่นป่ายไม่อยากใช้ แต่ตอนนี้บริษัทซานหยวนกรุ๊ปถูกกว้านซื้อไป และเขาไม่เหลืออะไรอีกแล้ว เขาจะต้องพึ่งตระกูลหลี่ เอาบริษัทซานหยวนกรุ๊ปกลับมา
กระทั่ง ไม่เสียดายที่ต้องฆ่าอิ่นซิน ลูกพี่ลูกน้อง ลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งจะสำคัญกว่าบริษัทหนึ่งอย่างงั้นหรอ?
อันไหนสำคัญกว่ากัน เขารู้ดี
“เรื่องนี้ควรจะตบได้แล้ว ให้มันเสียอยู่ในท้อง คุณรู้ผมรู้ ฟ้ารู้ดินรู้ นอกจากนี้ จะให้คนที่สามรู้ไม่ได้”หลี่เจิ้งหยางกล่าวเตือน
ในตอนที่ตระกูลหลี่พบกับเรื่องไม่คาดฝัน พบเจออุปสรรคใหญ่ในธุรกิจ หลี่ซื่อกรุ๊ปกำลังจะล้มละลาย หลังจากที่อาศัยการได้ลอบกัดบริษัทซานหยวนกรุ๊ปก็สามารถทำสำเร็จเอากำไรกลับมาได้
อิ่นซิน ผู้หญิงคนหนึ่งจะทำธุรกิจไปทำไม สู้ตายไปเสียยังดีกว่า
“ครับๆ”
อิ่นป่ายพยักหน้า แววตาเผยให้เห็นความดีใจ ในที่สุดก็เอาบริษัทซานหยวนกรุ๊ปกลับมาได้สักที“อิ่นซิน ครั้งนี้ตายไปไร้หลุมฝัง ฉันจะคอยดูว่าแกจะสู้กับฉันยังไง สุดท้ายบริษัทซานหยวนกรุ๊ปก็ต้องเป็นของฉัน”
ทันใดนั้น อิ่นป่ายก็มองไปที่บริเวณในงาน บนเวีที่ร้องรำทำเพลง ค่ำคืนที่เคล้าไปกับสุรายังคงดำเนินต่อไป
เพียงแต่ ในเวลานี้ในคฤหาสน์ตระกูลหลี่มีรถฮัมเมอร์สีดำสิบกว่าคันจอดอยู่ มีแรงดึงดูดมาก หนึ่งในรถที่เป็นผู้นำ ฉีหยุนถือของออกมาหนึ่งสิ่ง ยื่นส่งให้กับฉินเฟิง“ท่านนายพลครับ”
เป็นหน้ากากอันหนึ่ง หน้ากากปีศาจตะวันตกที่ถูกทำลายอันหนึ่ง และนี่คือหน้ากากของปาซังซึ่งครั้งหนึ่งเคยขึ้นเป็นอันดับหนึ่งประกาศมืดในกาฬโลก ถูกฉินเฟิงฟันขาดครึ่ง
หน้ากากที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง ถูกฉินเฟิงใช้เป็นของรางวัล
“ของขวัญเตรียมไว้รึยัง?”
ฉินเฟิงหยิบหน้ากากครึ่งนั้นขึ้นมา สวมไว้บนใบหน้า ด้วยท่าทีชั่วร้าย รังสีความอำมหิตโหดเหี้ยมแผ่ซ่านออกมา ทำให้ผู้คนบริเวณโดยรอบ รับรู้ได้ถึงความเยือกเย็นที่ยากจะอธิบาย
นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป Mr.Xจะถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพศึกมังกรหวนคืน