บทที่32 ฉีหยุนมาแล้ว
อิ่นเสี้ยงสวี่กับหลี่ห้าวตะลึงไปชั่วครู่ เหตุใดลักษณะท่าทางถึงเปลี่ยนไปล่ะ ก่อนหน้านี้เฝิงกางยังนอบน้อม พูดจาระมัดระวังอยาเลย แต่ตอนนี้กลับปฏิเสธในทันที อีกทั้งในรอยยิ้มอย่างมีความเย็นชาซ่อนอยู่ด้านในด้วย
มีลางสังหรณ์ไม่ดีอย่างหนึ่ง
“ประธานเฝิง ก่อนหน้านี้ในสายคุณไม่ได้พูดแบบนี้นิ่ครับ”
หลี่ห้าวขมวดคิ้วเป็นปม แล้วถามไปยังเฝิงกาง
“เมื่อก่อนคือเมื่อก่อน ตอนนี้คือตอนนี้ ตอนนี้ผมไม่อยากเซ็นสัญญานี้กับพวกคุณแล้ว”
เฝิงกางนั่งลงกับโซฟา ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยกลิ่นอายของประธานที่มาจากจิงตู ปรากฏขึ้นอีกครั้ง อย่างไรเสียที่จิงตูเขาก็ถือว่าเป็นคนมีความสามารถคนหนึ่ง ครั้งนี้เป็นเพราะแค่เขาคิดว่าอิ่นซินอยากจะเซ็นสัญญาใหม่แค่นั้นเอง
หลังจากที่ผ่านการลองใจแล้ว พบว่ามันไม่ใช่เรื่องเดียวกัน
ทั้งสองที่ไม่สนใจอิ่นซินกับฉินเฟิง กระทั่งยังดูถูก ท่าทางจองหองพองขน แน่นอนว่าเขาต้องโจมตีกลับอย่างแน่นอน เขาจะทำให้เถ้าแก่กับเถ้าแก่เนี้ยเห็น
“ประธานเฝิง เกิดเป็นคนจะทำตัวคำพูดไม่น่าเชื่อถือแบบนี้ไม่ได้นะคะ!”
อิ่นซินสวี่เดินออกมา แล้วพูดไปหนึ่งประโยค
ในสาย เขาพูดกับเฝิงกางอย่างชัดถ้อยชัดคำ และชัดเจนมาก ยังคุยโม้ไปตั้งเยอะ ตอนนี้คำว่าไม่เซ็นแล้ว จะให้พวกเขาจัดการเรื่องนี้ยังไงกัน
“คำพูดไม่น่าเชื่อถือ?สัญญาได้เซ็นแล้วเหรอครับ?คุณก็พูดว่าคำพูดไม่น่าเชื่อถือแล้ว”
เฝิงหางเลิกคิ้วขึ้น
ทำให้อิ่นเสี้ยงสวี่กับหลี่ห้าวไปไม่เป็น เพราะว่าสัญญานั้นยังไม่ได้เซ็นจริงๆ ถ้ายังไม่ได้เซ็นก็เท่ากับว่าไม่มีผลทางกฎหมาย
“ประธานเฝิง เงื่อนไขเราสามารถลดลงได้นะ ลดเหมือนครั้งก่อนก็พอแล้ว ขอเพียงแค่เซ็นสัญญาฉบับใหม่อีกฉบับก็พอ”
พอเห็นท่าทีของเฝิงกางแล้ว อิ่นเสี้ยงสวี่ยังคิดว่าเฝิงกางไม่พอใจกับหนังสือสัญญา ตั้งใจจะกดราคา ทันใดนั้นเธอจึงเริ่มถอยหลังสองก้าว ตอนแรกที่บริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปร่วมมือกับพวกเขาก็เท่ากับว่าบริษัทซานหยวนกรุ๊ปได้กำไรแล้ว ฟื้นกลับคืนสู่เมื่อก่อนก็ได้
“ขอโทษด้วยนะครับ ก่อนหน้านี้ผมได้เซ็นสัญญาไปหนึ่งฉบับแล้ว”
เฝิงกางยังคงพูดย้ำคำเดิม
ท่าทีนี้ทำให้อิ่นเสี้ยงสวี่กับหลี่ห้าวขมวดคิ้วเป็นปม โดยเฉพาะหลี่ห้าว เขาเริ่มโกรธขึ้นมาแล้ว ในกองทหารเขาถือได้ว่าเป็นผู้บังคับบัญชาคนหนึ่ง ตระกูลก็พอมีอำนาจอยู่บ้าง แต่มาวันนี้กทุกอย่างกลับไปราบรื่น ถูกกดดันทุกแห่งหน โดยเฉพาะต่อหน้าไอ้ขอทานอย่างฉินเฟิง เขาขายหน้าไปหมดแล้ว ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“เฝิงกาง คุณคิดดูดีๆนะ ตอนนี้ผมยังเป็นคนที่มียศมีศักดิ์ ถ้าคุณทำให้ผมไม่พอใจ ผมก็จะทำให้คุณอยู่อย่างยากลำบากเหมือนกัน”หลิงห้าวขยับเนกไทของตัวเอง แล้วใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตมองไปที่เฝิงกาง ท่าทางของเขาแสดงออกอย่างชัดเจน ความหมายก็คือวันนี้หนังสือสัญญา ไม่อยากเซ็นก็ต้องเซ็น
“หืม คุณขู่ผมเหรอครับ?”
ใสสายตาของเฝิงกางเริ่มมีความสนุกขึ้นมา
“ขู่คุณแล้วมันจะทำไม?จะบอกอะไรให้นะ แค่โทรศัพท์ฉันกริ๊งเดียว ก็สามารถทำให้บริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปของคุณเปิดไม่ได้อีกต่อไป ถ้าคุณทำตามอย่างว่าง่าย เซ็นสัญญาฉบับนี้ให้เรียบร้อยซะ”
หลี่ห้าวตบไปที่หนังสือสัญญาที่วางอยู่บนโต๊ะ ด้วยนิสัยก้าวร้าว
อิ่นเสี้ยงสวี่นั่งมองอยู่ข้างๆ ท่าทางเอาแต่ใจนี้ ทันใดนั้นก็แอบขำ แล้วพูดกับอิ่นซินว่า“เห็นรึยัง นี่ถึงเรียกว่าลูกผู้ชาย ดีกว่าฉินเฟิงผัวจรจัดของหล่อนร้อยเท่า พันเท่า”
“ตอนนี้ฉันขอวาดแบ่งเขตกับพวกเธอ ยังทันไหมอ่ะ?”
เพียงแต่ อิ่นซินมองไปยังอิ่นเสี้ยงสวี่ อย่างหมดคำพูด
“ว่าไงนะ?”
อิ่นเสี้ยงสวี่ไม่เข้าใจในคำพูดของอิ่นซิน
“พวกเธอเคยไปสืบอะไรมาบ้างไหม เรื่องเบื้องหลังของบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปน่ะ?”อิ่นซินเอ่ย
“เบื้องหลังงั้นหรอ?”
ผ่านไปครู่เดียว ก็ตรงเข้าล้อมทั้งตึกของบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ป
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ทหารที่เรียงรายอยู่ แต่เป็นรถถังขนาดใหญ่คันหนึ่ง รถถังทั้งคันมีความกว้างถึงห้าเมตร ดูไปแล้วเหมือนอสุรกายยักษ์มาก ทำให้คนที่เผชิญหน้ากับมันอยู่ขาดอากาศหายใจตายได้ในทันที
บนรถถัง มีผู้ชายคนหนึ่งที่ใส่ชุดทหารปีนออกมา “ผมได้ยินมาว่า มีคนจะทำให้บริษัทของผมเปิดต่อไปไม่ได้หรอครับ?”
“ผะผม……”
หลี่ห้าวพูดไม่ออกในทันที
มาแบบยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ถึงเขาจะเคยอยู่ในเวสเตอร์แลนด์ก็ไม่เคยเห็นมาก่อน รถถังของแบบนี้ไม่ใช่ใครก็สามารถเอามาขับได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขารู้จักทหารกองนี้ดี กองทัพท้องที่ ผู้บังคับบัญชาการทหารทั่วไปไม่มีทางเอาออกมาได้หรอก
“คุณใช่ไหม”
ฉีหยุนกวาดมองอยู่ครู่หนึ่ง แล้วใช้สายเพ่งมองไปที่หลี่ห้าว พูดขึ้นมาว่า “บอกชื่อ และหมายเลขกองร้อยมา”
“สวัสดีครับท่านผู้พัน”
หลี่ห้าวยกมือขึ้นมา ทำท่าทำความเคารพแบบทหารทันที ในกองทัพ ผู้น้อยต้องทำความเคารพผู้ที่ยศสูงกว่า นี่คือกฎ ถึงเขาจะไม่ยินยอม หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นมาทันที “กระผม ร้อยเอกแห่งเวสเตอร์แวนด์ กองทัพหมายเลข358 หลี่ห้าวครับ”
“ร้อยเอกงั้นเหรอ?แค่ร้อยเอกยศเล็กๆคนหนึ่ง กล้าทำลายบริษัทของฉันเชียวเหรอ คุณไม่อยากมีชีวิตแล้วใช่ไหมห้ะ?ยังอยากจะใช้ชีวิตอยู่ในกองทัพอย่างสงบสุขอยู่ไหม?นี่เป็นการทำผิดกฎระเบียบวินัยร้ายแรง”
ฉีหยุนเดินลงไป แล้วตะโกนด่าตอกหน้าหลี่ห้าวอย่างแรง
หลี่ห้าวรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก นัยน์ตาเต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตร เขาจึงพูดขู่ขึ้นมาว่า“ถึงคุณจะเป็นผู้พัน แต่ครูฝึกของผมคือหลินหยุนพันโทแห่งเวสเตอร์แลนด์ ปู่ของผมคือพันเอกแห่งเวสเตอร์แลนด์ ทางที่ดีคุณควรเจียมตัวไว้หน่อยนะ”
ยศทหารสูงแล้วยังไงล่ะ เบื้องหลังของเขาก็มีที่ให้พึ่งเหมือนกัน อีกทั้งเป็นเขาลูกใหญ่มาก
“หึๆ ทหารใหม่อ่อนหัดเอ้ย คุณมาพูดเรื่องยศทหารกับผม พูดเรื่องที่พึ่งของคุณเนี่ยนะ ”
ฉีหยุนขำหนักมาก หัวเราะอย่างมีความสุข แต่ไม่กี่วินาทีต่อไปเขาก็หยุดหัวเราะทันที สายตาเฉียบคม“ผมฉีหยุน พันเอกแห่งอีสเตอร์แลนด์ หัวหน้ากองพันทหารรักษาการณ์ คุณลองเดาสิว่ายศกองพันหัวหน้ารักษาการณ์ของผม ปกป้องใครกันนะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพศึกมังกรหวนคืน