บทที่37 ถนนเส้นที่หนึ่ง
“ดูนะ ไอ้อ่อน นี่คือลี่น่า ฉันเชิญผู้นั่งข้างคนขับมืออาชีพมาจากประเทศหมี่ เป็นมืออาชีพนะ รู้จักไหม ครั้งนี้ฉันใช้เงินลงทุนไปแล้วสามแสน ถึงสามารถเชิญเธอมาได้”
เฉินป๋อยื่นหน้ามาจากข้างกายสาวสวยรูปร่างเซ็กซี่คนหนึ่ง พูดด้วยน้ำเสียงสูงส่งกว่าคนอื่น
“เธอเห็นแล้วใช่ไหม ว่าอุปกรณ์มันต่างกันมาก”
ฉินเฟิงหันกลับมามองอิ่นหนิงหยู่
“ทำยังไงดีล่ะ?”
อิ่นหนิงหยู่รู้สึกร้อนใจขึ้นมาทันที เธอเป็นเพียงนักศึกษาธรรมดาๆคนหนึ่ง เพราะว่าต้องการใช้เงินก้อนใหญ่ ครั้งก่อนเห็นฝีมือแข่งรถของฉินเฟิงแล้ว เลยคิดถึงการแข่งขันใต้ดินนี้
แต่ หล่อนไม่รู้เรื่องพวกนี้แม้แต่น้อย ตำแหน่งข้างๆคนขับยังต้องใช้ผู้ช่วยคนขับที่มืออาชีพด้วยหรอ?
“ตอนนี้เหลือเพียงทางเดียวเท่านั้น”
ฉินเฟิงใบหน้าเคร่งขรึม
“วิธีอะไรงั้นเหรอ?”
อิ่นหนิงหยู่ดึงมือของฉินเฟิง
“ยังจำได้ไหม ถ้า เธอเรียกฉันว่า‘พี่เขย’หลายรอบหน่อย ฉันอาจจะทำมันออกมาได้ดีก็ได้ เป็นผู้ชนะคนสุดท้ายของสนามแข่งแห่งนี้ แต่เธอจะต้องเต็มใจ เธอจะต้องรู้สึกว่าฉันเป็นผู้ชายที่คู่ควรกับพี่สาวเธอที่สุด ไม่อย่างนั้นมันจะไม่ศักดิ์สิทธิ์”
“จริงเหรอ?”
อิ่นหนิงหยู่ใบหน้าเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ว่านี่มันจริงเหรอ?
ไม่ใช่ว่าฉินเฟิงหลอกเธอหรอกนะ?
ในเวลานี้เอง ทั้งสนามก็มีเสียงโห่ร้องดังขึ้น หลังจากนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด ตามมาด้วยรถหลายคันพากันขับเคลื่อนไปแล้ว แต่รถหวูหลิงหงกวงยังหยุดนิ่งอยู่กับที่ มีเพียงคันเดียวที่ยังไม่ได้สตาร์ทรถ
ข้างๆรถยังมีเสียงของเฉินป๋อดังลอดมา“ฮ่าๆ พวกแกขับรถเป็นไหมเนี่ย ฉันไปก่อนนะ สาวสวยคนนั้นน่ะ ต้องเป็นของฉันแล้วล่ะ”
“ใครไปเป็นของนายไม่ทราบห้ะ!”
อิ่นหนิงหยู่รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาทันที เธอรับพูดกับฉินเฟิงไปว่า“พี่เขย ซิ่งเลย พวกเราต้องตามมันให้ทัน ให้มันรู้ว่าพวกเราแน่ขนาดไหน ปัดโธ่เอ้ย”
เธอไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว
พี่เขยก็พี่เขยสิ
คงต้องรักษาม้าตายให้เป็นม้าเป็นแล้วล่ะ
“ได้เลย”
ฉินเฟิงที่ได้ยินคำพูดนี้แล้ว มุมปากแสยะยิ้มขึ้น หลังจากนั้นก็ขับเคลื่อนรถหวูหลิงหงกวงออกไป แต่รถหวูหลิงหงกวงยังไงก็เป็นรถหวูหลิงหงกวงอยู่วันยังค่ำ เวลาที่ออกตัวออกไปช้ามาก
สายตาของทุกคนหันไปเพ่งเล็งมองไปที่จอมอมิเตอร์ใหญ่ ตามมาด้วยปรากฏแผนที่ขึ้นมา
“ผมขอเก็บคำพูดเมื่อกี้ ตอนนี้รถหวูหลิงหงกวงยังอยู่ถนนเส้นที่หนึ่งอยู่เลยครับ รถแข่งที่อยู่ด้านหน้า อ่อนที่สุดยังไปอยู่ที่ถนนเส้นที่ห้าแล้ว ดูท่าจะไม่ได้เก่งกาจอะไรหรอกครับ ครั้งนี้แผนที่ของเรามีถึงสามสิบสองเส้น ด้านหน้าสุดมีตู้ต้วนเทียน เทพแห่งการแข่งรถตู้ตอนนี้เขาอยู่ถนนเส้นที่เจ็ดแล้ว ด้านหลัง มีรถคันแล้วคันเล่าเข้าสู่ถนนเส้นที่หก”
พิธีกรขยับมืออยู่หลายครั้ง ชี้ไปครั้งหนึ่ง แล้วภาพก็ตัดไปที่ บนถนนสายที่หกแล้ว อารมณ์ถูกปลุกขึ้นมา“ทุกท่านครับ ไม่ต้องไปสนใจรถหวูหลิงหงกวงคันนั้นแล้วครับ ห่างกันมากเกินไปแล้ว ด้านหลังมีโค้ง ไล่ตามขึ้นมาไม่ทันหรอกครับ พวกเราไปดูถนนเส้นที่หกกันเถอะครับ”
“ฮ่าๆ ขำชะมัดเลย เมื่อกี้ใครเป็นคนบอกกันนะว่ารถหวูหลิงหงกวงจะพุ่งไปอยู่ข้างหน้าสุด ยังอยู่เส้นที่หนึ่งอยู่เลย จริงๆเลยนะ ไม่ไหวแล้ว ขอให้ฉันขำแป๊บเถอะ”
“ตอนนี้รถหวูหลิงหงกวงอยู่ถนนเส้นที่หนึ่ง แต่เฉินป๋อไปอยู่ถนนเส้นที่หกแล้ว จะไปแซงยังไงล่ะ ข้างหลังยิ่งทางโค้งคดเคี้ยวด้วย ยิ่งแซงไม่ทันใหญ่เลย รถหวูหลิงหงกวงยังไงก็ต้องแพ้”
“ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่า รถหวูหลิงหงกวงนั่นน่ะ ในท้องตลาดราคายังไม่ถึงห้าหมื่นด้วยซ้ำ ยังคิดจะไปเทียบกับรถแข่งมืออาชีพคันละเกือบสองสามแสนพวกนั้นอีกเหรอเนี่ย จริงๆเลยเชียว หาเรื่องใส่ตัว เจ้าตัวตลกสองคน”
พอหลังจากที่เห็นภาพเป็นแบบนั้นแล้ว ทุกคนต่างพากันหัวเราะเยาะ ก่อนหน้านี้ไม่เห็นรถหวูหลิงหงกวง เป็นเพราะพวกเขาไม่รู้ว่ารถหวูหลิงหงกวงจะตกขบวนรถไปไกลขนาดนี้
กลับยังอยู่เส้นที่หนึ่ง
เวลานี้เห็นในสนาม มีคนจำนวนไม่น้อยใช้สายตามองเหยียดโหวเฟยว่า‘คนโง่’ยังคงส่ายหัวไม่เลิก นักแข่งรถใต้ดินคนนี้ ทำไมถึงได้โง่ขนาดนี้นะ กลับกล้าเอาเงินไปลงเดิมพันกับรถหวูหลิงหงกวงว่าจะชนะ
“เห้อ อย่าใส่ใจไปเลย เงินแสนหนึ่ง เสียไปก็ให้เสียไปเลย ยังไงซะ ฉันจำได้ว่าเหมือนทั้งเนื้อทั้งตัวแกจะมีเงินแค่หนึ่งแสนหยวนนะ แพ้พนันในพริบตาเดียว ค่าเทอมน้องสาวแกจะทำยังไงล่ะ ช่างเถอะ เดี๋ยวฉันหาทางยืมให้แกก็ได้”
ในเวลานี้เอง ก็มีเพื่อนที่ดีมากของโหวเฟยเดินเข้ามา เอามือพาดกับไหล่ของโหวเฟย ปลอบประโลมเขาอยู่ครู่หนึ่ง ยังพูดว่าจะช่วยโฟวเฟยหาเงินอีก ดูไปแล้ว เหมือนทั้งสองจะมีความสัมพันธ์ที่ดีมาก
เพียงแต่เวลานี้เอง สายตาของโหวเฟยจ้องไปที่จอมอมิเตอร์ใหญ่ แล้วพูดขึ้นมาว่า “หยวนซู่ เดี๋ยวก่อนนะ ฉันจะเลี้ยงข้าวแกมื้อใหญ่เลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพศึกมังกรหวนคืน