เธอลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไง
ไม่นานก่อนพิธีหมั้นหมายถนิตเพิ่งจะถูกถ่ายรูปขณะที่ออกจากคอนโดกับผู้หญิง แต่ต่อมาก็ถอนหมั้นในงานเลี้ยงหมั้น ง่ายมากเลยที่จะดึงดูดความสนใจของสาธารณชนไปที่ผู้หญิงนั้นในรูปถ่ายนั้น
คนที่รู้จักกับรสิกาไม่เยอะ ถึงขนาดเรียกได้ว่าน้อยมาก แต่ว่านันท์นรีรู้อย่างแน่นอน
ถ้าเธอตั้งใจที่จะให้ข่าวกับสื่อมวลชน รสิกาก็จะโดนคนระบุตัวตนได้ในไม่ช้า
เมื่อคิดแบบนี้ได้ในใจของรสิกาก็ตื่นตระหนกมาก: "เธอว่า ถ้าหากดึงฉันออกมาได้จริงๆ ฉันยังอยู่เมืองซีต่อไปได้มั้ย?"
ติรณาวิเคราะห์อย่างละเอียด และพูดว่า: "เกรงว่าจะไม่ได้ เธอก็รู้ว่าความคิดเห็นของประชาชนบนโลกออนไลน์อย่างล้นหลามในตอนนี้ คนเหล่านั้นถึงขนาดตามหาไปถึงที่บ้านของเธอ ขนาดบรรพบุรุษแปดชั่วโคตรของเธอก็ขุดหาเจอจนได้"
นี่ก็เป็นเรื่องที่รสิกาเป็นกังวลที่สุด
ถ้าหากหันความสนใจมาทางเธอ ถ้าอย่างนั้นทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับตระกูลปิติภัทรไพศาลก็จะถูกเผยแพร่ออกไป
เธอไม่ได้สนใจคนอื่นในตระกูลปิติภัทรไพศาล แต่ว่ากันต์ชัยกับอารณีย์......พวกเขาบริสุทธิ์
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ดวงตาของรสิกาก็เฉียบคม: "ต้องขัดขวางหล่อน"
ก่อนหน้าที่นันท์นรีจะพูดออกมามากกว่านี้ ต้องขัดขวางทุกอย่าง!
"ขัดขวางยังไง?"ติรณาถาม"ฟังเธอสาธยายถึงนันท์นรีให้กับฉัน หล่อนน่าจะเป็นคนที่ชอบใช้กลอุบายแบบนั้น ประกอบกับอิทธิพลตระกูลของหล่อน เกรงว่าเรื่องนี้ไม่มีใครขวางหล่อนได้ ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องนี้ปล่อยให้ค้างคาไว้แบบนี้ ใกล้ถึงจุดวิกฤติแล้ว ถ้าหล่อนเปิดเผยอะไรมากกว่านี้ งั้นก็ฟิวส์ขาด"
"ฉันเข้าใจ"รสิกาพูดอย่างใจเย็น"ดังนั้นฉันต้องไปหาถนิต"
ถ้าหากใครสักคนที่ขัดขวางนันท์นรีได้ ถ้าอย่างนั้นถนิตก็เป็นหนึ่งในนั้น
"ก็ได้"ติรณาพูด
หลังจากที่วางสายโทรศัพท์ของติรณา รสิกาก็โทรหาถนิตในทันที
ทางนั้นรับสายเร็วมาก: "ฮัลโหล"
"คุณอยู่ไหน?"รสิกาถาม"ฉันต้องการพบคุณ"
"ตอนนี้เลยเหรอ?"น้ำเสียงของถนิตประหลาดใจเล็กน้อย
รสิกาแค่รู้สึกแปลกๆ คิดว่าเขากำลังทำอะไรที่ให้ใครรู้ไม่ได้ และน้ำเสียงก็เย็นชาขึ้นมา: "ฉันต้องการที่จะคุยกับคุณเกี่ยวกับเรื่องข่าวนั้น ถ้าหากคุณไม่สะดวก งั้นก็รอคุณสะดวกค่อยคุยกัน"
"ในเมื่อเป็นแบบนี้......"ถนิตลังเลอยู่ครู่หนึ่ง"งั้นคุณมาหาผมเถอะ"
จากนั้นก็บอกที่อยู่และหมายเลขห้องในโรงแรมให้กับรสิกา
แม้ว่ารสิกาจะรู้สึกแปลกๆในใจ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้คิดมาก วางสายแล้วก็ถือกระเป๋าของตัวเองออกจากสตูดิโอในทันที จากนั้นขับรถไปสถานที่ที่เขาบอก
โรงแรมซีซาร์เป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในเมืองซี คนส่วนใหญ่ที่นี่ก็เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงอีกด้วย หลังจากที่รสิกาขับรถมาถึงชั้นล่างของโรงแรมแล้ว ส่งมอบรถให้คนนำไปจอดรถ ตัวเองขึ้นไปชั้นที่ถนิตบอก
เธอตามหาสักพัก หลังจากที่ตามหาห้องเจอก็หยุดลงมา หายใจเข้าลึกๆ ยกมือขึ้นเคาะประตู
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
มีเสียงฝีเท้าเบามากดังมาจากในห้อง จากนั้นประตูก็ถูกเปิดออก คนที่ยืนอยู่ข้างในคุ้มหน้าคุ้นตาเล็กน้อย เป็นผู้หญิง ปล่อยผมสยาย ใบหน้าสวยงาม แม้ว่าเสื้อผ้าบนร่างกายจะดูเรียบง่าย แต่รสิกามองออกว่ามันเป็นคอลเลคชั่นฤดูร้อนล่าสุดของแบรนด์ สวมใส่อยู่บนตัวของเธอเหมาะสมแล้วสวยมาก
รสิกาจำหน้าคนไม่ได้ แค่รู้สึกว่าหญิงสาวตรงหน้าดูคุ้นๆ แต่กลับนึกไม่ออกว่าเธอเป็นใคร
"เธอมาหาพี่ชายของฉันใช่มั้ย"หญิงสาวเอ่ยปากพูด
นี่ก็เป็นเงื่อนไขที่รสิกาตั้งให้กับตัวเองมาโดยตลอด ไม่ต้องการถูกคนอาชีพเดียวกันเปรียบเทียบ เธอทำได้เพียงแค่บังคับตัวเองทำให้ได้ดีที่สุด นี่ก็คือเหตุผลที่เธอสามารถกลายเป็นนักออกแบบที่มีชื่อเสียงได้ สามารถที่จะกลายเป็นลูกศิษย์ที่โปรดปรานของอาจารย์บรู๊คได้
"เธอชื่ออะไร?"นีรชาถามเธอ
"รสิกา"
"ฉันชื่อนีรชา"
นีรชาพูดว่า: "ได้ยินว่าเธอเป็นดีไซเนอร์ของRSK"
RSKเป็นตัวย่อสตูดิโอของรสิกา แม้ว่าเธอจะไม่ได้ทำให้แบรนด์ของตัวเองเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกเหมือนกับบรู๊คแบบนั้น แต่ก็เป็นที่รู้จักกันในประเทศ
"ใช่"รสิกาตอบกลับ
"งั้นเธอกับพี่ชายของฉันเป็นอะไรกัน?"นีรชามองดูดวงตาของเธอ และถามแบบนี้อย่างกะทันหัน
แม้ว่านีรชาเพิ่งอายุยี่สิบ แต่ความคิดของเธอก็เป็นผู้ใหญ่มากกว่าอายุยี่สิบปี ก็ยกตัวเช่นในเวลานี้ สายตาของเธอเฉียบแหลมมั่นคง และหาความรู้สึกที่เป็นเด็กไม่เจอเลยสักนิด
และตอนที่เธอถามคำถามนี้ออกมา ไม่เพียงแต่รสิกาที่นิ่งอึ้ง ขนาดถนิตที่กำลังเคลียร์งานอยู่ข้างๆก็ช้อนตาขึ้น
รสิกาไม่สามารถอธิบายคำถามของนีรชาได้ เธอไม่สามารถบอกความสัมพันธ์ของตัวเองกับถนิตได้ เพราะว่าขนาดเธอเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ
"นีรชา"ถนิตพูดออกมาอย่างเรียบเฉย กดเสียงให้ต่ำเล็กน้อย แฝงไปด้วยความหมายตักเตือน
และความบีบคั้นคนในสายตาของนีรชาก็ถูกเก็บไว้ในที่สุด มองไปที่พี่ชายของตัวเองอย่างไม่พอใจเล็กน้อย: "ฉันอยากรู้ ถามหน่อยก็ไม่ได้เหรอ?"
"ไม่ได้"ถนิตพับโน้ตบุ๊ก วางไว้ข้างๆ และพูดด้วยใบหน้าดุดัน"เข้าไปในห้อง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฝากแผลไว้ในใจคุณ