กลุ่มคนนี้ก็มีเกือบสิบคน มีสองคนที่ถือหีบใบใหญ่ บางคนถือหีบใบเล็ก ล้วนสวมชุดสีน้ำตาลแดง หีบเหล่านั้นล้วนติดกระดาษสีแดงและผูกด้วยผ้าสีแดง
ซูหว่านเอ้อร์เห็นอย่างนั้นก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมา "นี่มัน…… นี่มันเป็นสินสอดนี่!"
ดูจากขบวนกลุ่มคนที่มาเยอะกว่าตอนหมั้นกับหล่อนเสียอีก ซูหว่านเอ้อร์มองดูหีบนั่นหรือกล่องนั้น ด้วยแววตาโกรธเคือง
"ไม่ได้ ข้าจะไปดู!" ซูหว่านเอ้อร์สะบัดแขนให้หลุดออกจากมือเซี่ยชื่อแล้วรีบวิ่งไป
เซี่ยชื่อตกใจเกรงว่าจะทำให้คนพวกนั้นตกใจ เซี่ยเถาเอ่ยเสียงเบาด้วยน้ำเสียงโมโห "เจ้าดูสิเจ้าสั่งสอนลูกสาวของเจ้ายังไงถึงได้กลายเป็นอย่างนี้ แผนที่วางไว้ดิบดี ถูกนางทำพังหมด!"
เซี่ยชื่อก็รู้สึกโมโหเหมือนกัน ในใจยิ่งร้อนรน "ตอนนี้อย่าพึ่งพูดเรื่องนี้เลย พานางกลับไปก่อนค่อยว่ากัน"
เซี่ยเถาสะบัดแขนเสื้อ: "ข้าไม่สน เจ้าหาวิธีของเจ้าเองก็แล้วกัน" จากนั้นเขาก็กันหลังเดินออกไป
ซูหนานอียังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นทางนี้ เหลือบมองแม่นางแซ่หลิ่ว ฝืนยิ้มให้กับนาง
ซูหนานอีไม่ชอบเซี่ยชื่อ แต่ก็ไม่ได้มองหญิงที่พึ่งมาได้สองวันด้วยท่าทีเย่อหยิ่ง "ต้องจัดการอย่างรอบคอบ"
แม่นางแซ่หลิ่วกำลังจะเอ่ยปากแก้ต่าง ทันใดนั้นซูหนานอีก็ลุกขึ้น
นางได้แต่มองหลังของซูหนานอีด้วยสีหน้าสงสาร แววตาขี้ขลาดก็พลันหายไปมีเพียงแววตาแววขึ้น
ซูหนานอีคิดจะกลับเรือนไปดูหยุนจิ่ง เดินยังไม่ถึงครึ่งทางก็มีบ่าวรับใช่วิ่งเข้ามาขวาง "คุณหนูขอรับ โปรดหยุดก่อน!"
"คุณหนู นายท่านให้มาเชิญคุณหนูไปหาสักหน่อยขอรับ เพราะทางจวนอ๋องได้ส่งคนนำสินสอดมาให้"
ซูหนานอีรู้สึกเซ็ง เดินตามเขาไปยังไม่ถึงหน้าประตูก็มองเห็นกลุ่มคนหมู่มากอัดกันอยู่ในนั้น และมีพวกหีบ กล่องต่างๆ วางเรียงรายล้นออกมาจนถึงนอกเรือน มีพวกบ่าวรับใช้ของตระกูลซูแอบมองอยู่ไกลๆ อย่างอยากรู้อยากเห็น
ซูหนานอีเห็นอย่างนั้นก็ตกใจ แล้วก็มองเห็นเซี่ยชื่อกับซูหว่านเอ้อร์ที่ยืนหลบอยู่หลังต้นไม้ด้วย
นางเดินเข้าไปในเรือนด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เดินผ่านพวกหีบเหล่านั้นเข้ามาในเรือน ซูซืออวี้กำลังพยักหน้าคุยกับคนแก่ท่านหนึ่งอยู่
ซูหนานอีเคยไปที่จวนอ๋องหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เคยเจอผู้เฒ่าคนนี้มาก่อน เลยเดินเข้าไปคารวะ
ซูซืออวี้ใบหน้ายิ้มแย้ม แววตาวาว "หนานอี นี่คือสินสอดที่ส่งมาจากจวนอ๋อง"
เขาพูดพร้อมกับยื่นรายการมาให้ ตามหลักแล้วเรื่องอย่างนี้ไม่จำเป็นต้องส่งต่อหน้าแม่นาง แต่มีการกำชับจากจวนอ๋องมาว่าจะต้องส่งถึงมือคุณหนูซูถึงจะได้
ซูหนานอีอ่านดูรายการจนตาลาย ผู้เฒ่าที่นั่งอยู่ด้านข้างถึงกับหัวเราะแล้วเอ่ย: "คุณหนูซูทำให้ท่านอ๋องรักถึงเพียงนี้ ไท่เฟยก็ยิ่งโปรดปราด มีบัญชาให้ข้าน้อยให้ส่งของเหล่านี้มาให้ เดิมทีควรจะส่งมาถึงตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อนแล้ว แต่มีของบางอย่างยังต้องทำอย่างประณีต เลยมาช้า"
ซูหนานอีเก็บรายการไว้ "หนานอีขอบพระทัยไท่เฟย และขอบพระทัยท่านอ๋อง ลำบากท่านผู้เฒ่าแล้ว"
ท่านผู้เฒ่าก็ยิ้ม: "คุณหนูซูเกรงใจเกินไปแล้ว"
ซูหนานอีครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่แล้วเอ่ยถาม "แล้วสินสอดก่อนหน้านี้เล่า จะต้องคืนหรือไม่"
ที่จริงแล้วทางฝั่งไท่เฟยไม่ได้ตรัสเอ่ยถึงเรื่องนี้ ที่จวนก็ไม่ได้ขาดสิ่งของของพวกนี้ ข้าไม่สามารถตอบได้
ซูหนานอีพยักหน้ารับรู้แล้วเอ่ยถามต่อ "เมื่อสองวันก่อนข้าไปจวนอ๋อง ได้ยินไท่เฟยเอ่ยถึงบ้านเกิดของไท่เฟยเกิดอุทกภัย ไท่เฟยรู้สึกเป็นกังวลมาก ที่จริงถ้าจะคืนสินสอดก็คงจะไม่เป็นมงคล ถ้าอย่างนั้นนำของเหล่านี้ส่งไปที่บ้านเกิดของไท่เฟย เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบอุทกภัย และถือว่าทำให้ไท่เฟยวางใจ ให้พวกเขาได้รู้ว่าไท่เฟยไม่ได้ลืมพวกเขา"
ผู้เฒ่าตาวาวขึ้น พยักหน้าทันที ซูหนานอีมีสีหน้าเหนียมอาย "หนานอีเพียงคิดว่าจะทำให้ไท่เฟยคลายความกังวลได้บ้าง"
"วิธีของแม่นางซูนี้ดีทีเดียว" ผู้เฒ่าระเบิดหัวเราะออกมา "หากไท่เฟยทรงทราบจะต้องพอพระทัยแน่"
พูดก็ถูก สินสอดเหล่านี้หากเอาคืนกลับไปที่จวนเอ๋อ ระหว่างทางมีคนเห็นคงไม่ดีแน่ หากไม่นำกลับไป คุณหนูซูใช้หรือไม่ใช้ ล้วนมรรูปโฉมงามอยู่แล้ว
ท่านผู้เฒ่ามองไปทางซูซืออวี้ "ท่านซู ถ้าอย่างนั้นรบกวนท่านรับสินสอดนี้ไป แล้วนำสิ่งของครั้งก่อนออกมาคืนด้วยเถิด!"
เหล่าทองใบ แท่งเงิน ซูหว่านเอ้อร์บอกว่าใช้ไปอย่างน้อยพันตำลึง ตอนนี้จำเป็นต้องให้เซี่ยชื่อชดใช้คืนให้นาง เงินที่เก็บหอมรอมริบมาก็มีไม่ได้มาก
คนของจวนอ๋องรอที่จะตรวจสอบ สุดท้ายมีเครื่องประดับไม่กี่รายการที่ไม่ตรง ซูหว่านเอ้อร์ก็หาออกมาไม่ได้ ตอนนี้สถานการณ์เคร่งเครียดมาก
ตอนนี้หน้าซูซืออวี้ชุ่มไปด้วยเหงื่อ ท่านผู้เฒ่าดื่มชาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขาพูดกับซูหนานอีด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่กับคนอื่นไม่ใช่
"ของอย่างนี้ก็ทำหายได้อย่างนั้นหรือ คุณหนูรองหาผลประโยชน์เข้าตัวเกินไปแล้ว"
หน้าซูซืออวี้แดงก่ำไม่รู้จะพูดยังไงต่อ หันไปหาซูหนานอีให้นางช่วยพูดอะไรสักหน่อย
ซูหนานอีเอ่ย: "ท่านผู้เฒ่า ท่านว่าอย่างนี้ดีหรือไม่ ของเหล่านี้พอถึงตอนนั้นก็ต้องไปแลกเป็นเงิน ถ้าอย่างนั้นสิ่งของที่หายไปตีเป็นเงินออกมา ท่านคิดว่าอย่างไร"
สีหน้าของท่านผู้เฒ่าถึงดีขึ้นมาหน่อย ขณะที่กำลังคิดไตร่ตรองอยู่นั้น หยุนจิ่งได้ยินข่าวก็รีบมาทันที "ท่านอาหรง ทำตามที่เหนี่ยงจื่อว่าเถอะ!"
ท่านผู้เฒ่าตกใจที่หยุนจิ่งก็อยู่ที่นี่ด้วย รีบลุกขึ้นก้าวออกไปคารวะ : "โอ๊ะ ท่านอ๋องท่านมาได้อย่างไร"
"ข้าเอาผลไม้เย็นมาส่งให้เหนียงจื่อ มาตั้งนานแล้ว เจ้ารีบเร็ว ทางนี้เสร็จเรื่องแล้วข้าจะได้ไปกินผลไม้เย็นกับเหนียงจื่อแล้วออกไปเที่ยวข้างนอก!" หยุนจิ่งพูดด้วยน้ำเสียงหมดความอดทน
"ขอรับๆ " ท่านผู้เฒ่าไม่กล้าเชื่องช้า ทำตามที่ซูหนานอีบอก นำของมาตีเป็นราคาเงิน ซูซืออวี้จ่ายออกมาสามพันกว่าตำลึง ถือว่าชดใช้ได้แล้ว
ซูซื้ออวี้รู้สึกโมโหซูหว่านเอ้อร์อยู่ในใจที่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย!
หลังจากจัดการเรื่องเสร็จ ซูหนานอีนั้นไม่อยากสนใจเรื่องเหล่านี้แล้ว ปล่อยเรื่องนี้ไว้ให้ซูซืออวี้จัดการเอง นางกับหยุนจิ่งกลับไปที่เรือนแล้วนำผลไม้เย็นกับกล่องยาออกมา แล้วไปที่เรือนเล็ก
ระหว่างทางตอนผ่านน้าประตูที่ว่าการจิงจ้าวหยุนจิ่งก็กระซิบ: "เหนียงจื่อ ที่นี่แหละ หญิงคนนั้นถูกคนพามาที่นี่ ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง"
และประจวบเหมาะกับใต้เท้าจ้าวนั่งเกี้ยวกลับมาพอดี ซูหนานอีมองดูเขาที่มีท่าทีเร่งรีบเดินเข้าประตูไป พ่นลมหายใจออกมาเบาๆ ใต้เท้าเจ้าท่านมีเรื่องยุ่งแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ