ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ นิยาย บท 80

ซูหนานอียังคงมิได้หันหลังกลับไปมอง แต่กลับคงเดินอยู่ในตรอกอันมืดนี้

จู่ๆคนที่ด้านหลังของนางก็เอ่ยขึ้นว่า "คุณหนูใหญ่เจ้าคะ?"

เมื่อซูหนานอีได้ยินเสียงนี้ก็หันศีรษะไปทันที แสงจากดวงจันทร์ที่ส่องกระทบมาทำให้เห็นชัดว่าขอนี่ก็คือชุนหลิงนั่นเอง

"เจ้า? เหตุใดเจ้าจึงอยู่ที่นี่?" ซูหนานอีเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ

ชุนหลิงยกถุงกระดาษในมือขึ้นพลางเดินไปหานาง "บ่าวมาซื้อขนมให้แม่นางหลิ่วเจ้าค่ะ"

"เจ้าช่างเป็นบ่าวที่จงรักภักดียิ่งนัก" ซูหนานอีเยาะเย้ยเล็กน้อย "อยู่กับเจ้านายคนใหม่เป็นอย่างไรบ้าง?"

ดูเหมือนว่าชุนหลิงจะฟังไม่ออกถึงความหมาย นางจึงยิ้มแล้วกล่าวว่า "ดีทีเดียวเจ้าค่ะ ขอบคุณคุณหนูที่เป็นห่วงเป็นใย แม่นางหลิ่วมีนิสัยอ่อนโยนและปฏิบัติต่อสาวใช้ไม่เลวเลย"

ซูหนานอียังไม่ทันได้กล่าวอะไรออกมาอีก นางใช้เพียงความเงียบเข้าตอบโต้ และดูว่าชุนหลิงต้องการทำอะไรกันแน่

"คุณหนูเจ้าคะ เดิมทีบ่าวต้องการจะใช้เส้นทางลัดนี้ แต่ทว่าตอนนี้ท้องฟ้ามืดน่ากลัวเหลือเกิน บ่าวกลัว บ่าวขอติดตามกลับไปพร้อมคุณหนูไปด้วยได้หรือไม่?"

ซูหนานอีพยักหน้าเล็กน้อย "ได้สิ"

ชุนหลิงจึงรีบโค้งคารวะขอบคุณ แววตาของนางมีความโหดร้ายผ่านแวบเข้ามาเป็นประกาย

เมื่อเดินไปถึงตรงทางแยก จู่ๆชุนหลิงก็ลื่นไถลและล้มลงบนถนน

ซูหนานอีหยุดฝีเท้าและหันกลับมามองนาง "เป็นอะไรหรือ?"

"คุณหนูเจ้าคะ ดูเหมือนว่าบ่าวจะข้อเท้าเคล็ด……" ชุนหลิงสูดหายใจเข้า ดวงตาของนางเต็มไปด้วยน้ำตา

ซูหนานอีเอนตัวลงมาเพื่อต้องการดูว่านางได้รับบาดเจ็บอย่างไร ในขณะที่นางกำลังก้มศีรษะลงไปนั้นจู่ๆชุนหลิงก็โบกมือขึ้น หมอกควันสีชมพูจางระเบิดขึ้นต่อหน้านาง กลิ่นหอมหวานกระจายออกไปทั่วทันที! ท่ามกลางผงฝุ่นนั้น ซูหนานอีเห็นได้ชัดว่าแววตาของชุนหลิงเต็มไปด้วยความชั่วร้ายน่าสะพรึงกลัว และยังมีความเย่อหยิ่งอยู่ด้วย

แต่ทันใดนั้นชุนหลิงก็รู้สึกตกใจและสับสน ฝุ่นผงเริ่มจะจางหายไปท่ามกลางอากาศด้วยกลิ่นอันหอมหวาน มันจางหายไปอย่างรวดเร็วแต่ว่า……

ดูเหมือนซูหนานอียังคงมีสติดี! ดวงตาดำเข้มคู่นั้นยังคงเป็นประกายในยามค่ำคืนราวกับมีดคมที่ตัดเข้าไปยังขั้วหัวใจ

ความเย่อหยิ่งในดวงตาของชุนหลิงเมื่อสักครู่เปลี่ยนไปเป็นความตื่นตระหนก "ท่าน……"

นางกล่าวได้เพียงคำเดียว ก็พบว่าซูหนานอียกมือขึ้นจากนั้นนางก็รู้สึกเจ็บบริเวณท้ายทอยแล้วภาพตรงหน้าก็มืดมนไปทันที

ซูหนานอีหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น จากนั้นใช้มือเอื้อมไปค้นหาขวดกระเบื้องเล็กๆมา ด้านในเป็นยาเม็ดเล็กสีชมพู นางนำมันขึ้นมาดมแล้วขมวดคิ้วเข้าหากัน ก่อนจะหยิบมาสองเม็ดแล้วบีบปากชุนหลิงบังคับให้นางกลืนลงไป ในที่ไม่ไกลออกไปนักมีใครบางคนกำลังเข้ามาใกล้ๆ ชั่วพริบตาเดียวซูหนานอีก็ได้ปลดถุงใส่ตราหยกตรงเอวออกมาสับเปลี่ยนกับชุนหลิง ก่อนจะหลบซ่อนไปยังข้างทางอันมืดมิด

ผู้ที่เดินทางมานั้นเป็นชายสองคน พวกเขาก้มหน้าลงมองดูชุนหลิงที่สลบอยู่ก่อนจะตบหน้าของนางเบาๆ เมื่อสังเกตเห็นท่าทางของนาง ชายคนหนึ่งจึงได้ยิ้มออกมาเบาๆว่า Wช่างโหดเหี้ยมเสียจริง ยาเช่นนี้ยังให้นางกินได้ถึงสองเม็ด คืนนี้คงมิได้พักผ่อนกันพอดี"

ชายอีกคนหนึ่งหัวเราะออกมาอย่างมีเลศนัย "จะเป็นไรไปเล่า เรียกสหายมาอีกสักสี่ห้าคนก็ได้มิใช่หรือ?"

"จะว่าไปก็ถูก ไปเถอะ พวกเราไปหาความสุขกัน"

ทั้งสองคนนำชุนหลิงใส่ลงไปในกระสอบแล้วแบกขึ้นสู่อก เดินทางออกจากตรอกนั้นอย่างรวดเร็ว

สีหน้าของซูหนานอีมืดมนลงทันใด ดวงตาเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นและโมโห นี่ต้องการทำให้นางถึงแก่ชีวิตเลยหรือไร! นางมิลังเลและรีบติดตามพวกเขาไปท่ามกลางความมืด

ทั้งสองคนเดินไปถึงตรงซอยก็มีรถม้าจอดรออยู่ที่นั่น พวกเขานำกระสอบโยนเข้าไปบนรถ ก่อนจะขับรถม้าจากไปอย่างรวดเร็ว

ซูหนานอีพบว่าทิศทางที่พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปนั้นคือทางตรงข้ามกับหอเหมียนชุนก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่เมื่อหวนนึกดูดีๆ ชายหนุ่มสองคนเมื่อครู่ดูเหมือนจะมิใช่คนของหอเหมียนชุน

แม้ว่าในหอเหมียนชุนนั้นจะมีพวกลูกจ้างผู้ชายอยู่บ้าง แต่ทั้งสองคนนี้แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง ฟังจากน้ำเสียงการพูดจาและท่าทางอันกระฉับกระเฉง พวกเขา……มีรังสีโหดเหี้ยมอำมหิต

ในใจของนางสะดุ้งทันใด ขณะที่ต้องการติดตามไปนั้นจู่ๆก็พบร่างหนึ่งจากทางด้านหลังกระโดดลงมาจากต้นไม้ นางหันหลังกลับไปมองพบว่าเป็นเซี่ยหล่าน

"เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?" นางผ่อนคลายลงเล็กน้อย

เซี่ยหล่านเองก็มองนางด้วยสายตาประหลาดใจ Wข้าติดตามเจ้าสองคนนั่นมา บัดนี้มิมีเวลาอธิบาย ไว้ข้าจะไปหาเเล้วเล่าให้ฟังวันหลัง"

"ไม่ ข้าจะไปด้วย"

"คุณหนูเจ้าคะ ดึกมากแล้วควรรีบพักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ"

ซูหว่านเอ้อร์เดินไปเดินมารอบๆเรือน "มิได้ ถ้าจะพักผ่อนมิได้ ชุนหลิงเล่า? ยังไม่กลับมาหรือ?"

แม่บ้านชุยมองไปที่ประตูแล้วกระซิบว่า "คุณหนูเจ้าคะลืมไปแล้วหรือไร ชุนหลิงไปรับใช้แม่นางหลิ่วแล้ว นางจะมิกลับมาอีก"

สีหน้าของซูหว่านเอ้อร์ตึงเครียดขึ้นมาทันใด "แต่ค่ำคืนนี้ไม่เหมือนเดิม ข้ากำลังรอข่าวจากนางอยู่ นางกล้าดีอย่างไรที่ไม่มา!"

ใบหน้าของแม่บ้านชุยเต็มไปด้วยความเป็นห่วงกังวล "คุณหนูเจ้าคะ พักผ่อนก่อนเถิด เดี๋ยวรอให้ชุนหลิงมาแล้วบ่าวจะไปเรียกดีหรือไม่?"

ซูหว่านเอ้อร์เม้มริมฝีปากลง ทันใดนั้นดูเหมือนนางจะนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงได้หันกลับไปนั่งลงที่หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้งเพื่อส่องกระจกดู คนที่อยู่ในกระจุกนั้นทำให้นางอุทานออกมาด้วยเสียงอันดัง แล้วใช้มือปิดบังใบหน้า ปิดปากของตัวเองเอาไว้ ก่อนจะค่อยๆกางออกและแหวกผมช้าๆ แสงจันทร์ที่ส่องประกายมายังฉากนี้ทำให้คนที่พบเห็นชวนขนลุกเล็กน้อย

แม่บ้านชุยมองไปยังนางแล้วกดริมฝีปากตัวเองเอาไว้ แต่ภายในใจช่างรู้สึกมีความสุขนัก

ซูหว่านเอ้อร์จับไปยังใบหน้าของนางแล้วมองไปทางแม่บ้านชุยกล่าวถามขึ้นอย่างช้าๆว่า "ข้างามหรือไม่?"

แม่บ้านชุยรีบตอบกลับว่า "คุณหนูงดงามยิ่งเจ้าค่ะ"

ซูหว่านเอ้อร์ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก "แน่นอนว่าข้าสวยกว่านางซูหนานอี! ข้ามีชีวิตการเป็นอยู่และเสื้อผ้าที่สวมใส่ดีกว่านา! นางคิดว่าตนเป็นใครกัน? นางถูกข้าเหยียบย่ำตั้งหลายต่อหลายปีมา ตอนนี้…… ตอนนี้ก็แค่…… เรื่องบังเอิญเท่านั้นแหละ!"

"ข้าจะต้องแย่งเอาทุกสิ่งอย่างมาจากนาง!"

แม่บ้านชุยก้มศีรษะโน้มตัวลงกล่าวว่า "เจ้าค่ะ คุณหนูกล่าวได้ถูกต้องยิ่งนัก"

ทันใดนั้นเองก็ได้ยินเสียงดังขึ้นเบาๆตรงนอกประตูเรือน

ซูหว่านเอ้อร์กระโดดลุกขึ้นยืนทันที สายตาของนางมองออกไปด้านนอกหน้าต่าง แต่นับจากครั้งนั้นที่นางได้ฆ่าสาวใช้ของนางตายไปแล้ว นางก็ไม่กล้าออกไปที่ลานบ้านในตอนกลางคืนอีกเลย

"เจ้าจงไปดูว่าเป็นนังบ่าวชุนหลิวหรือไม่?"

"เจ้าค่ะ บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้" แม่บ้านชุยรีบรับคำสั่งและวิ่งไปที่ประตูเรือน ก่อนจะกระซิบถามเบาๆว่า "ผู้ใด?"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ