ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 157

สีหน้าของทุกคนในตำหนักค่อนข้างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทุกคนรู้ดีถึงพระราชโองการพระราชทานสมรสในคืนวันส่งท้ายปีเก่า เพียงแต่...

สายตาของทุกคนมองไปที่จิ้งอ๋อง แต่กลับเห็นเพียงใบหน้าเย็นชาไม่แยแสของเขาเท่านั้น แล้วยังคงยกน้ำชาขึ้นมาจิบ ตั้งแต่ต้นจนจบเขาไม่ได้มองชางยางอวี้เอ๋อร์เลยด้วยซ้ำ เมื่อหันไปมองที่องค์หญิงหยุนชางที่อยู่อีกด้านหนึ่ง องค์หญิงที่ยามปกติไม่ชอบความวุ่นวายก็ดูสงบเช่นกัน มุมปากของนางดูราวกับจะมีรอยยิ้มจางๆ

จักรพรรดิหนิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มและกล่าวว่า "แม่นางชางยางช่างสายตาเฉียบแหลม แต่เจิ้นได้ให้องค์หญิงฮุ่ยกั๋วหมั้นหมายไว้กับจิ้งอ๋องแล้ว แม้ว่าจะยังไม่ได้แต่งงาน แต่ราชโองการก็ออกไปเสียตั้งนานแล้ว กษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำ หรือว่าแม่นางชางยางต้องการให้เจิ้นตระบัดสัตย์อย่างนั้นหรือ?"

ชางยางอวี้เอ๋อร์ดูไม่แปลกใจ นางเพียงย่อกายด้วยกิริยางดงาม ใบหน้าแดงก่ำ "อวี้เอ๋อร์ไม่สนใจเพคะ ตราบใดที่สามารถอยู่กับจิ้งอ๋องได้ แม้เป็นชายารองอวี้เอ๋อร์ก็เต็มใจ"

จักรพรรดิหนิงหุบยิ้ม ดวงตาฉายแววครุ่นคิด "ยามจักรพรรดิองค์ก่อนยังมีชีวิตอยู่เคยบอกว่าการแต่งงานของจิ้งอ๋องให้เขาเป็นผู้ตัดสินเอง พระราชโองการสมรสของเขากับชางเอ๋อร์เป็นเขาที่มาขอเจิ้นด้วยตนเอง หากแม่นางชางยางต้องการเป็นชายารองของเขา เกรงว่าคงต้องฟังความเห็นของจิ้งอ๋องเสียหน่อย หากจิ้งอ๋องไม่มีความเห็นอื่นใด เจิ้นย่อมทำตาม"

ชางยางอวี้เอ๋อร์ได้ยินเช่นนั้นก็ดวงตาเป็นประกาย นางยิ้มแล้วยื่นชามเหล้าให้เขาอีกครั้ง "อวี้เอ๋อร์ชมชอบจิ้งอ๋องมานานแล้ว ไม่รู้ว่าจิ้งอ๋องเต็มใจจะรับน้ำใจของอวี้เอ๋อร์หรือไม่"

ในใจของชางยางอวี้เอ๋อร์เต็มไปด้วยความมั่นใจ นางรู้ว่าในแคว้นหนิงการมีภรรยาหลายคนเป็นเรื่องปกติ นางมั่นใจในรูปร่างหน้าตาของนางมาโดยตลอด สาวงามที่ยื่นถึงมือเช่นนี้ ใครจะปฏิเสธลงได้?

จิ้งอ๋องเงยหน้าขึ้น แต่แทนที่จะมองไปที่ชางยางอวี้เอ๋อร์ เขากลับมองไปที่หยุนชางที่อยู่ตรงข้าม เมื่อเห็นเขามองมาที่ตนเอง นางก็เลิกคิ้วและยกจอกเหล้าโบกไปมาให้เขา

จิ้งอ๋องอ่านแววล้อเลียนในดวงตาของหยุนชางออก นางราวกับกำลังพูดว่า โชคด้านสาวงามของเสด็จอาช่างดีเสียจริง เมื่อคิดถึงน้ำเสียงและท่าทางของนางยามพูดประโยคนี้ จิ้งอ๋องก็ยิ้มบางๆ ที่มุมปากอย่างช่วยไม่ได้ แต่กลับทำให้หัวใจของชางยางอวี้เอ๋อร์กระตุก ยิ่งเต็มไปด้วยความมั่นใจ

ยามที่นางกำลังแอบจินตนาการอย่างลับๆ ว่าต่อไปในอนาคตบุรุษเช่นนี้จะเป็นของนาง ก็ได้ยินเสียงใหญ่ระคนแหบแห้งดังขึ้น ราวกับเอาขนนกมาปัดที่ปลายหัวใจ ทำให้หัวใจของนางยิ่งเต้นรัวขึ้น รีบคุมสติฟังเขาอย่างตั้งใจ แต่กลับได้ยินเขาพูดว่า "เมื่อครู่ข้ากำลังคิดถึงเรื่องอื่นๆ อยู่ ไม่ได้ยินว่าแม่นางผู้นี้กล่าวอะไร เพียงแต่..." จิ้งอ๋องหันศีรษะไปมองจักรพรรดิหนิงผู้ประทับอยู่เบื้องสูง นัยน์ตาฉายแววสงสัยเล็กน้อย "ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ทราบว่านางรำคนหนึ่งจะสามารถใช้ท่าทางเช่นนี้สนทนากับหม่อมฉันได้?"

ทุกคนอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง อะไรนะ? จิ้งอ๋องบอกว่าเขากำลังคิดเรื่องอื่นอยู่และไม่รู้ว่าชางยางอวี้เอ๋อร์กำลังพูดอะไรกับเขา? ยิ่งไปกว่านั้นยังบอกว่านางเป็นเพียงนางรำ?

ชางยางอวี้เอ๋อร์ก็อึ้งไปเช่นกัน รอยยิ้มบนใบหน้าฝืดเฝื่อนลง

จักรพรรดิหนิงก็ตกตะลึงไปเช่นกัน เมื่อนึกดูแล้วชางยางอวี้เอ๋อร์ก็มีสิ่งทำให้ผู้คนไม่พอใจอยู่ด้วยจริงๆ ในเมื่อจิ้งอ๋องหมั้นหมายกับชางเอ๋อร์แล้ว แม้นางจะรู้แล้วแต่ก็ยังปรารถนา นั่นเป็นเพียงการคิดทำให้ชางเอ๋อร์อับอายเท่านั้น ชางเอ๋อร์เป็นถึงธิดาของเขาเชียวนะ จักรพรรดิหนิงอดหัวเราะออกมาไม่ได้ "จิ้งอ๋องสามารถบอกทุกคนได้หรือไม่ว่ากำลังคิดอะไรอยู่? แม่นางที่อยู่ตรงหน้าเจ้าคือชางยางอวี้เอ๋อร์ บุตรีราชครูแห่งแคว้นเย้หลาง"

จิ้งอ๋องไม่ตอบ หยุนชางเห็นว่าเรื่องนี้ดำเนินมาพอประมาณแล้ว นางจึงเงยหน้าขึ้นกล่าวด้วยรอยยิ้ม "แม่นางชางยางเป็นเพียงสตรีอ่อนแอเท่านั้น เสด็จอาทำท่าทางเช่นนี้ ถ้าแพร่ออกไปจะถูกผู้คนครหาว่าเรารังแกแขกจากแดนไกลเสียเปล่าๆ"

ดวงตาแฝงแววเย็นชาของจิ้งอ๋องมองที่ชางยางอวี้เอ๋อร์อยู่ชั่วครู่ ผ่านไปอยู่นานจึงจะเงยหน้าขึ้นมองหยุนชาง "ที่ชางเอ๋อร์พูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง แม้ว่านางจะเป็นเพียงบุตรสาวบุญธรรมแต่ก็เป็นถึงทูตที่แคว้นเย้หลางส่งมา อีกทั้งเหตุผลที่ว่ายามสงครามไม่อาจสังหารทูต ข้าก็เข้าใจดี เช่นนั้นก็ยกโทษให้นางเสียก็แล้วกัน แต่หากมีครั้งหน้าก็อย่าโทษว่าข้าไม่เตือน" เขากล่าวพลางเงยหน้ามองชางเจียชิงซู "แคว้นหนิงเป็นแคว้นใหญ่ ไม่ได้ไร้กฎเกณฑ์อย่างเช่นแคว้นเย้หลาง ไม่มีกฎเกณฑ์ก็ไม่สามารถทำอะไรให้สำเร็จได้ แม่นางชางยางเป็นแขก เดิมข้าไม่ควรเข้มงวดมากนัก เพียงแต่ข้าคิดว่าในที่นี้ไม่ได้มีเพียงคนของแคว้นหนิงแต่ยังมีทูตจากแคว้นเซี่ยด้วย หากข้าปล่อยปละละเลยไป เกรงว่าชื่อเสียงของแคว้นเย้หลางจะเสื่อมเสีย หวังว่าองค์ชายสามจะให้อภัย"

ชางเจียชิงซูคลายหมัดที่กำแน่นของเขาออกแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า "สิ่งที่จิ้งอ๋องกล่าวมานั้นถูกต้องแล้ว ข้าจะกล่าวโทษท่าได้อย่างไร" หลังจากพูดแล้วเขาก็หันศีรษะไปหาชางยางอวี้เอ๋อร์แล้วขมวดคิ้ว "ยังไม่รีบออกไปอีก?"

ชางยางอวี้เอ๋อร์ขบกรามแน่น ย่อกายทำความเคารพแล้วจึงรีบออกไป

เมื่อจักรพรรดิหนิงเห็นว่าสถานการณ์คลี่คลายลงแล้ว เขาก็รีบหยิบจอกเหล้าขึ้นมาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า "เป็นเพียงอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ หวังว่าทุกท่านจะให้อภัย ทูตทั้งสองจะมาที่แคว้นหนิงนั้นย่อมเป็นเกียรติของแคว้นหนิง ในอีกสามวันในเมืองหลวงเจิ้นจะจัดงานล่าสัตว์ขึ้นที่ทางตะวันออกของเมืองเพื่อเฉลิมฉลองมิตรภาพของเราสามแคว้นให้ยิ่งยืนนาน"

"ชางเจียชิงซูและอ๋องเจ็ดแห่งแคว้นเซี่ยรีบส่ายหัวอย่างรวดเร็ว "ฝ่าบาททรงเกรงใจเกินไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง