ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 161

หยุนชางอมยิ้ม รอยยิ้มของนางเย็นชาเล็กน้อย "ชางเอ๋อร์ทรงม้าไม่ค่อยถนัดนัก แต่ชางเอ๋อร์ไม่ทราบว่า เหตุใดเสด็จพี่จึงอยู่หลังชางเอ๋อร์เสียอีกเพคะ? ชางเอ๋อร์ได้ยินมาว่าท่านมหาเสนาบดีหลี่เป็นคนสอนทักษะการทรงม้าให้เสด็จพี่โดยตนเองมิใช่หรือเพคะ......"

หัวจิ้งตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์ นางรู้สึกรำคาญหยุนชางอย่างมาก แต่ก็ทราบดีว่าหากตนสร้างความขัดแย้งกับนางในตอนนี้ สุดท้ายแล้วก็เป็นตนที่ต้องลำบาก นางจึงขมวดคิ้วและกล่าวว่า "วันนี้ข้าไม่ค่อยสบายนัก ม้าวิ่งขึ้นมาข้าก็ปวดหัวทันที ม้าที่ชางเอ๋อร์ทรงนั้นคือท่าหยุนของจิ้งอ๋องใช่หรือไม่? หากว่าเจ้าแพ้ขึ้นมาก็คงไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่นัก"

"หึหึ เสด็จพี่ก็ทราบดีมิใช่หรือว่าหยุนชางไม่เก่งด้านการทรงม้า เมื่อสักครู่นี้เป็นเพราะม้าตัวนี้เป็นม้าดี ม้าวิ่งด้วยตัวเองมาเรื่อยๆ แต่เมื่อเข้ามาในป่านี้ทึบนี้แล้ว ม้าก็ไม่ฟังข้า และหยุดอยู่ตรงนี้ไม่ยอมขยับไปไหน และนี่ก็เป็นม้าชั้นยอดของเสด็จอา ชางเอ๋อร์ไม่สามารถตีหรือดุได้ ดังนั้นจึงทำได้แค่รออยู่ที่นี่ให้มันเดินเองเพียงเท่านั้น " หยุนชางขมวดคิ้วและตบม้าเบา ๆ ท่าหยุนก็ยังไม่ขยับไปไหน และม้าก็เงยหน้าขึ้นดูเหมือนดื้อรั้นเล็กน้อย

หัวจิ้งมองไปที่หยุนชางด้วยความเยาะเย้ยเล็กน้อย และกล่าวว่านางอยู่ภายในว่า "คนไม่เอาไหน"

แต่ใบหน้าของนางก็แสร้งทำเป็นเห็นอกเห็นใจมากและพูดด้วยรอยยิ้มว่า " ถ้าอย่างนั้นชางเอ๋อร์ก็พักผ่อนอยู่ที่นี่สักครู่แล้วกันนะ พี่ขอตัวลาไปก่อน"

หยุนชางพยักหน้า "เสด็จพี่ไปเถิดเพคะ หากว่าเสด็จพี่ชนะ เสด็จแม่และท่านตาคงจะดีใจอย่างมากเพคะ"

หัวจิ้งหรี่ตาลง นางรู้ดีว่าผลการแข่งในวันนี้ของนางอาจไม่ดีนัก อาจทำให้เสด็จแม่และท่านตาต้องเสียหน้า แต่ทว่า.........หัวจิ้งถอนหายใจหนักๆ แล้วทรงม้าตรงไปข้างหน้าอย่างช้าๆ

หลังจากที่เงาร่างของหัวจิ้งค่อยๆ หายจากสายตาไปแล้ว ผู้หญิงชุดดำก็ปรากฏตัวขึ้นอยู่หน้าหยุนชาง "นายหญิงเจ้าคะ เตรียมการเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ"

ความเย็นชาปรากฏขึ้นในดวงตาของหยุนชาง นางยิ้มและกล่าวว่า " ดีมาก แล้วชางยางอวี้เอ๋อร์และจิ่งเหวินซีอยู่ที่ใด"

หญิงชุดดำกล่าวด้วยความไม่สบอารมณ์ "ไอ้สารเลวสองคนนั้น คิดอยากจะวางกับดักไว้ระหว่างทางที่นายหญิงต้องเดินทางผ่าน อีกทั้งยังโปรยถั่วดำของโปรดของม้าเหงื่อโลหิตไว้ในป่าอีกด้วย ในถั่วดำนั้นมีปริมาณของยาสลบอยู่ไม่น้อย ข้าน้อยดูทรงแล้ว เหมือนว่าพวกเขายังมีแผนอื่นๆอีก แต่ด้วยเหตุที่คุณหญิงหวังตามพวกนางทัน แล้วอยู่ข้างๆพวกนางโดยตลอด จับตามองพวกนางเป็นอย่างดี พวกนางจึงไม่มีโอกาสได้ลงมือเจ้าค่ะ"

"โอ้?" หยุนชางยิ้มเล็กน้อย "ไม่คาดคิดว่าพวกนางจะคาดการณ์ได้ว่าจิ้งอ๋องจะนำท่าหยุนของท่านมาให้ข้า"

หญิงชุดดำพยักหน้าและกล่าวว่า "สองสามวันก่อนนี้ ท่านจิ้งอ๋องได้รวบรวมรายชื่อของคุณหญิงที่ทรงม้าเป็น และม้าที่เตรียมไว้ก็เตรียมเท่าจำนวนรายชื่อ พวกนางคงจะคาดการณ์จากจุดนี้ จึงคิดว่าถ้าหากพวกนางกล่อมองค์หญิงให้เข้าร่วมการแข่งขันนี้ได้ ท่านจิ้งอ๋องก็จำเป็นต้องนำเอาม้าของท่านมาให้องค์หญิงใช้เจ้าค่ะ"

หยุนชางพยักหน้า "จิ้งอ๋องทรงโปรดปรานม้าตัวนี้เปรียบเสมือนชีวิตของตน หากว่าท่านทราบว่ามีคนคิดอยากจะลงมือกับม้าของท่าน ท่านคงพิโรธอย่างมาก ไปกันเถิด พาท่าหยุนไปกินของอร่อยกันเถอะ"

เมื่อหญิงชุดดำได้ยินเช่นนี้ มุมปากของนางก็กระตุก และเดินตรงไปข้างหน้าพร้อมหยุนชาง

มีเสียงดังขึ้นมาอย่างแผ่วเบาอยู่ข้างหน้า หญิงชุดดำสั่นสะท้าน แล้วหันหน้าไปมองหยุนชางพร้อมกล่าว "นายหญิงเจ้าคะ มาแล้วเจ้าค่ะ"

"โอ้?" หยุนชางส่งเสียง ท่าหยุนก็เร่งวิ่งตรงไปข้างหน้า หัวจิ้งทรงม้าขาวของตนและวิ่งอยู่ข้างหน้า สีขาวเป็นสีที่สว่างที่สุดในป่าทึบนี้

มีเสียงแปลก ๆ ดังมาจากระยะไกลๆ เมื่ออยู่ในป่าทึบเช่นนี้ หากมิใช่คนที่อยู่ในป่าทึบมาเป็นเวลานานหรือว่ามีศิลปะการต่อสู้ระดับสูง ก็ยากที่จะสัมผัสมันได้ หยุนชางหรี่ตาลง มองไปที่หญิงสาวขี่ม้าที่สวมเสื้อสีม่วงอยู่บนตรงหน้า แล้วแววตาแห่งการสังหารก็วิ่งผ่านดวงตาของนา

"หัวจิ้ง คราวนี้แหละ ข้าจะทำให้เจ้าเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างแน่นอน"

หยุนชางยิ้มมุมปาก ได้เวลาแล้วล่ะ

นางยิ้มอยู่ในใจ แล้วเด็ดใบไม้ไปหนึ่งใบ และโยนออกไปในตอนที่หลี่เย่าฉีดึงคันธนูอีกครั้ง เงาร่างสีดำใหญ่ก็ล้มลง แต่มันแค่บาดเจ็บและดิ้นรนที่จะลุกขึ้น หยุนชางก็ได้ยินเสียงกีบม้าดังขึ้นอยู่หลายตัว หยุนชางหรี่ตาลงและพบว่ามีชายตามมาอีกสองสามคน นำขบวนโดยชางเจียชิงซู

ชางเจียชิงซูเห็นสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าก็ตกตะลึงอย่างมาก จึงกล่าวอย่างเร่งรีบว่า "นี่มันเกิดอะไรขึ้น?"

สีหน้าของหลี่เย่าฉีดูแย่เล็กน้อย เขากล่าวพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำว่า "หมีดำตัวนี้เป็นหมีที่ข้าและคุณชายของรองเจ้ากรมทหารแย่งชิงกัน เรายิงธนูใส่มันคนละหนึ่งธนู แต่ไม่คาดคิดว่ามันจะบ้าคลั่งขึ้นมา แล้ววิ่งไปทางด้านนอกนี้ พวกเราตามมันมา แล้วก็พบว่าสัตว์เดรัจฉานตัวนี้กำลังโจมตีองค์หญิงหัวจิ้งขอรับ"

หมีดำตัวนั้นยืนขึ้นอีกครั้งอย่างโซเซ ชางเจียชิงซูก็กระโดดพุ่งเข้าหาหมีดำ แล้วหยิบมีดสั้นออกจากรองเท้าแล้วแทงเข้าใส่หมีดำอย่างแรง หมีดำคร่ำครวญอย่างเจ็บปวดแล้วล้มลงกับพื้น

หยุนชางยิ้มมุมปากขึ้นมา แล้วขารีบกลับไปหาท่าหยุน เมื่อสักครู่นั้นชางเจียชิงซูถูกหมีดำดึงดูดความสนใจไป มิเช่นนั้นหากว่าเขาอยู่ที่นั่นด้วย ตนก็คงยากที่จะซ่อนตัวไว้ได้ เมื่อหยุนชางกลับไป นางเห็นหญิงชุดดำยืนอยู่หลังต้นไม้คอยเฝ้าท่าหยุน หยุนชางยิ้มและโดดขึ้นหลังม้า "ทำได้ดีมาก ถั่วดำนั่นอยู่ที่ใด พาข้าไปดูหน่อย…"

หญิงชุดดำพาหยุนชางไปยังที่ที่คนพวกนั้นหว่านถั่วดำไว้ ท้าหยุนหยุดดมแล้วแต่ไม่กิน หยุนชางหัวเราะและกล่าวว่า "สองคนนั้นช่างโง่เขลาเสียจริง เจ้าเห็นหรือไม่ว่าถั่วดำที่ผสมกับยาสลบนี้ ท่าหยุนไม่มีท่าที่ที่จะกินเลย"

หญิงชุดดำอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้ว จากนั้นก็เห็นหยุนชางก้มลงหยิบถั่วดำมาหนึ่งกำมือแล้วส่งไปที่ปากของท่าหยุน ท่าหยุนถอดหายใจ และกินถั่วดำไปสองสามเม็ดด้วยความลำบากใจ และไม่ยอมต้องกินมากไปกว่านี้

หยุนชางโดดขึ้นหลังม้า ขี่ท่าหยุนไว้แล้วค่อยๆเดินออกไปด้านนอก อีกไม่นานเราก็จะได้เห็นฉากสนุกๆแล้วล่ะสิ ตนจะพลาดได้อย่างไร?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง