ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 171

ฮองเฮา? หมดสติ? หยุนชางเงยหน้าขึ้นมองเฉี่ยนอิน ก็เห็นโทสะซ่อนอยู่ในดวงตาของนาง หยุนชางยกมุมปากขึ้นแล้วก้มลงมองถ้วยชาในมือนาง "นางเริ่มจะฉลาดขึ้นแล้ว"

การหมดสติไปเป็นเพียงการแสดงความอ่อนแอ ในสายตาของผู้คนจำนวนมากฮองเฮาผู้นี้เป็นผู้สูงส่งและหนักแน่น หรือกระทั่งอาจไม่มีหัวใจ ในหลายปีมานี้หลี่อี้หรานแสดงได้อย่างสมบทบาทเป็นอย่างดี แม้นางจะรู้ว่านางไม่สามารถให้กำเนิดลูกได้อีก แต่นางก็เพียงเสียอาการไปชั่วเวลาหนึ่งเท่านั้น ในชั่วพริบตานางก็เปลี่ยนเป็นฮองเฮาที่ดูราวกับไม่มีอารมณ์สุขเศร้าใดๆ

แต่ก็เป็นเพราะเหตุนี้เอง เมื่อนางหมดสติไปอย่างกะทันหันจึงทำให้คนอื่นๆ ไม่ทันตั้งตัว

หมิงไท่เฟยเพิ่งทำให้จักรพรรดิหนิงโมโห หัวจิ้งยังคงพักฟื้นอยู่ จวนมหาเสนาบดีก็สถานการณ์ไม่ค่อยจะดีนัก ในเวลานี้จู่ๆ ฮองเฮาก็ยังมาหมดสติไปอีก

หยุนชางกระตุกยิ้ม "ไปกันเถอะ ไปดูที่วังชีอู๋เสียหน่อย"

เมื่อมาถึงวังชีอู๋ก็พบว่ามีคนไม่น้อยอยู่ในห้องบรรทมของฮองเฮาอยู่แล้ว จักรพรรดิหนิง หมิงไท่เฟย หลี่ฝูยี หย่าผิน ฉินเมิ่งและยังมีนางสนมอีกสองสามคนที่นางไม่คุ้นเคย

หมอหลวงกำลังตรวจชีพจรอยู่ด้านข้าง บนใบหน้าของหมิงไท่เฟยเต็มไปด้วยความกังวล "ฮองเฮาเป็นอะไรไป?"

หมอหลวงรีบกล่าวว่า "ฮองเฮาทรงคิดมากเกินไป ทำให้ส่งผลร้ายต่อร่างกาย เกรงว่าอาจต้องรออีกประมาณหนึ่งชั่วยามจึงจะฟื้น เพียงแต่เดิมทีพระวรกายของนางก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว เช่นนี้เกรงว่าจะส่งผลร้ายไปจนถึงรากฐานของร่างกาย เมื่อนางฟื้นแล้วก็ต้องพักผ่อนอย่างสงบ หากยังคิดมากเป็นกังวลอยู่อีก เกรงว่า..." หมอหลวงส่ายหัว หมิงไท่เฟยก็รู้ดีว่าเขาหมายความว่าอย่างไร นางขมวดคิ้วมุ่นและไม่ได้พูดอะไรอยู่นาน

จักรพรรดิหนิงมองดูสีหน้าซีดเซียวของฮองเฮาที่กำลังนอนอยู่บนเตียง สายตาเขาลึกล้ำราวหยดหมึกและไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ผ่านไปครู่หนึ่งจึงหันมามองเหล่านางสนมที่อยู่ในห้องแล้วพูดว่า "ในเมื่อหมอหลวงบอกแล้วว่าฮองเฮาต้องพักรักษาตัวอย่างสงบ พวกเจ้าก็ไม่ต้องคอยอยู่รับใช้หรอก ไปเถอะ"

ทุกคนมองหน้ากัน ต่างก็พยักหน้าแล้วถอยออกไป

หยุนชางไม่ได้ตามไปด้วย เพียงแต่กระซิบว่า "อย่างไรเสด็จแม่ก็ต้องมีคนอยู่ดูแล เสด็จพ่อราชการยุ่งมาก เช่นนั้นก็ให้เป็นหน้าที่ของชางเอ๋อร์เถอะเพคะ"

จักรพรรดิหนิงเบนสายตามาที่หยุนชาง เมื่อกำลังจะเอ่ยปากก็ได้ยินเสียงของหมิงไท่เฟยดังขึ้น "ชางเอ๋อร์เป็นองค์หญิง จะดูแลใครเป็นได้อย่างไร อีกครู่ข้าจะหามามาที่มีประสบการณ์ส่งมาสักสองสามคน คนหนุ่มสาวอย่างพวกเจ้าไปทำเรื่องของตนเองเถอะ"

หยุนชางเงียบไปครู่หนึ่งแล้วตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แววตาน้อยใจเล็กน้อย หมิงไท่เฟยเห็นดังนั้นก็ให้หัวใจกระตุกวูบ หยุนชางผู้นี้หมายความว่าอย่างไรกันแน่? หรือว่าต้องการให้จักรพรรดิหนิงรู้สึกว่านางปฏิบัติต่อหยุนชางไม่ดี? ช่างเป็นอุบายอะไรเช่นนี้! หมิงไท่เฟยกัดฟัน ในใจของเธอเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ข้าอยากจะดูนักว่านางจะแสร้งทำเป็นน่าสงสารและไร้เดียงสาไปได้อีกนานแค่ไหน

จักรพรรดิหนิงหันศีรษะมาและมองไปยังฮองเฮาที่แพขนตาสั่นเล็กน้อย ในใจปรากฏยิ้มเย็นและเอ่ยคำเสียงดังต่อผู้คนด้านนอก "ตอบท่านอัครมหาเสนาบดีกลับไปว่าตอนนี้ฮองเฮาวิตกกังวลและต้องการพักผ่อน ไม่ให้ใครเข้ามาเยี่ยมเยียนชั่วคราว รอนางอาการดีขึ้นแล้วจะเชิญท่านอัครมหาเสนาบดีมาเยี่ยมอีกที แต่คงเป็นเพราะฮองเฮาคิดถึงองค์หญิงหัวจิ้งมากเกินไปจนเป็นเหตุ ไปรับองค์หญิงหัวจิ้งมาที่วังเถอะ ส่วนองค์ชายสามนั้นบอกว่าฮองเฮาสบายดี ไม่ต้องทรงเป็นกังวล"

รอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากของหยุนชาง นางรู้ว่าเสด็จพ่อเกลียดการถูกบังคับข่มขู่มากที่สุด

รอยยิ้มของหมิงไท่เฟยที่อยู่ด้านข้างไม่ทันได้เก็บ นางยิ้มแข็งค้างอยู่บนใบหน้า ผ่านไปครู่ใหญ่จึงได้ยินนางกล่าวว่า "ท่านมหาเสนาบดีเป็นบิดาของฮองเฮาและเขาคงเป็นห่วงนางมาก ถ้าเขาไม่ได้พบนางก็คงจะร้อนใจมาก"

จักรพรรดิหนิงยิ้มอย่างเย็นชา ร้อนใจหรือ? ตระกูลหลี่คิดว่าเขาโง่หรือไง? ฮองเฮาเพิ่งจะล้มป่วย แม้แต่หมอหลวงในวังก็เพิ่งตรวจชีพจรเสร็จ คนในจวนของมหาเสนาบดีกลับรู้แล้ว นี่ไม่ใช่การบอกเขาหรอกหรือว่าอัครมหาเสนาบดีมีคนคอยสอดส่องเรื่องในวัง? "ในเมื่อหมอหลวงบอกว่าฮองเฮาคิดมากเกินไป คิดว่าคงเป็นเพราะเรื่องมากมายในพระราชวังแห่งนี้ แม้ว่าช่วงนี้เสด็จแม่จะเป็นผู้ดูแล แต่ท่านก็อายุมากแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะช่วยเจิ้นดูแลวังหลังไปได้ตลอด ฮองเฮาเองก็จะเหนื่อยมากไม่ได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เรื่องของวังหลังให้หย่าผินเป็นผู้ดูแลชั่วคราวก็แล้วกัน แม้ว่านางจะยังเยาว์วัยและเข้าวังมาได้ไม่นาน แต่นางก็เป็นคนรอบคอบระมัดระวัง และยังมีความฉลาดเช่นท่านจอหงวนอยู่บ้าง เช่นนั้นให้นางฝึกเสียหน่อย เสด็จแม่ก็คอยช่วยนางก็ข้างๆ ก็พอแล้ว มีเสด็จแม่คอยกำกับคงไม่เกิดอะไรผิดพลาดขึ้นแน่"

หากบอกว่าเมื่อครู่สีหน้าของหมิงไท่เฟยไม่ค่อยพอใจแล้ว เช่นนั้นสีหน้าตอนนี้ของนางก็บึ้งตึงลงหลายส่วน เหตุใดพูดไปพูดมาแล้วจึงกลายมาเป็นเรื่องของอำนาจดูแลวังหลังไปเสียได้ นางคิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อครู่จักรพรรดิหนิงบอกว่านางปรักปรำหยุนชาง แต่ก็ไม่ได้ริบอำนาจของนางกลับ ตอนนี้ไม่รู้ว่าทำไมเขาจึงได้ตัดสินใจเช่นนี้

ในใจของหยุนชางยินดีเป็นอย่างยิ่ง คำกล่าวที่ว่าขโมยไก่ไม่ได้แล้วยังเสียข้าวสารอีกกำมือ* ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง (*สำนวนจีน เปรียบเปรยว่าฉวยโอกาสไม่ได้แล้วยังต้องขาดทุนอีก)

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง