บ่นว่าด้วยเสียงเบาไปคำหนึ่ง จิ้งอ๋องก็ดึงหยุนชางไปที่โต๊ะ รินน้ำชาหนึ่งถ้วย จุ่มน้ำชาในถ้วยชาแล้ววาดบนโต๊ะ "มีทหารยามสิบสองคนอยู่ใกล้ๆเซียงฝาง(เรือนด้านข้าง) แต่ว่าทั้งหมดต่างอยู่ไกลจากเซียงฝาง แบ่งกันอยู่ในสถานที่เหล่านี้" จิ้งอ๋องวาดให้หยุนชางเห็นได้ชัดเจน แล้วกล่าวอีกครั้งว่า "ข้างๆเซียงฝางของพวกเขาหลังนั้นไม่มีใครอยู่ เราวางคนสองคนอยู่ที่นี่ ให้องครักษ์ลับไปล่อทหารยามสองคนที่สามารถเห็นสถานการณ์ออกไป และข้ากับเจ้าเข้าไปที่ข้างๆเซียงฝางของพวกเขาอย่างเงียบๆ กำแพงของเซียงฝางนี้บางมาก สามารถรู้ความเคลื่อนไหวได้อย่างง่ายดาย "
หยุนชางพยักหน้า "ท่านอ๋องช่างคิดได้อย่างรอบคอบจริงๆ"
จิ้งอ๋องเรียกองครักษ์ลับมาสองคน สอนอย่างละเอียดถึงวิธีล่อทหารยามทั้งสองออกไป พอองครักษ์ลับทั้งสองถอยกลับ จิ้งอ๋องเดินไปที่ประตูดูสถานการณ์โดยรอบอย่างเงียบๆ หลังจากนั้นไม่นาน จิ้งอ๋องก็จูงมือหยุนชางและกล่าวว่า "ไป"
ทั้งสองก้าวเท้าอย่างเบาๆ ไปที่ด้านหน้าของเซียงฝางทางด้านซ้าย และเปิดประตูเซียงฝางอย่างรวดเร็ว เดินเข้าไปแล้วปิดประตูไว้
ข้างห้องดูเหมือนจะไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ หยุนชางขมวดคิ้ว และเดินไปที่ผนังเพื่อตั้งใจฟัง
หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้ยินเสียงหญิงสาวคนหนึ่ง พูดประจบประแจงเล็กน้อย และดูเหมือนอ่อนแรงเล็กน้อย ด้วยเสียงที่มีความหอบ "เตี๋ยเอ๋อร์ปรนนิบัติรัชทายาทได้ทรงพอพระทัยไหมเพคะ"
เสียงนี่ไม่เหมือนจิ่งเหวินซี น่าจะเป็นหญิงสาวที่องครักษ์ลับบอกมาว่าเข้าทางหลังบ้าน
ทันทีหลังจากนั้น ก็ได้ยินชางเจียคังหนิงพูดว่า "ประโยคที่แคว้นหนิงของพวกเจ้าที่ว่าอะไรนะ เข้าถึงกระดูก ใช่หรือไม่" หลังจากพูดแล้วเขาก็หัวเราะ "มันก็แค่ว่าเจ้าไม่แข็งแรง แค่สองครั้งก็ไม่ไหวแล้ว ข้าก็ยังไม่สนุกพอเลย"
"รัชทายาทได้โปรดทรงไว้ชีวิตหม่อมฉันเถอะเพคะ หม่อมฉันแทบจะมิไหวแล้ว" น้ำเสียงของหญิงสาวตกใจเล็กน้อย
หยุนชางตกตะลึงกับบทสนทนาที่ส่งออกมา ถอยหนึ่งก้าว และตกอยู่ในอ้อมกอดที่คุ้นเคย หยุนชางขมวดคิ้ว นึกถึงการสนทนาระหว่างทั้งสอง ราวกับว่า...เพิ่งจะทำเรื่องอย่างว่าเสร็จกัน
ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น ก็ได้ยินหญิงสาวคนนั้นหัวเราะเบาๆอีกครั้ง "รัชทายาทอย่าได้ลืมสิเพคะ ที่นี่มิใช่มีเพียงเตี๋ยเอ๋อร์ผู้เดียว หม่อมฉันได้เห็นว่า เมื่อครู่คุณหนูจิ่งมองมาที่เรา นางมีความหงุดหงิดเล็กน้อย ตอนนี้หม่อมฉันก็เหนื่อยแล้ว จะดีไหมเพคะที่จะให้คุณหนูจิ่งมารับใช้รัชทายาท"
ชางเจียคังหนิงดูเหมือนจะลังเล "หัวจิ้งและคุณหนูจิ่งมีความสัมพันธ์ที่ดี..."
ก่อนที่จะพูดจบ หญิงที่ชื่อเตี๋ยเอ๋อร์หัวเราะเสียงดัง "รัชทายาททรงไร้เดียงสาไม่รู้ถึงอารมณ์รักของหนุ่มสาว คุณหนูจิ่งได้ติดตามรัชทายาทมาที่วัดนี้ และยังให้หม่อมฉันและรัชทายาททำสิ่งนี้ต่อหน้านาง ความคิดของคุณหนูจิ่ง รัชทายาทยังมิทรงทราบหรือเพคะ"
เสียงของคังหนิงชางจือสั่นเล็กน้อย "ซีเอ๋อร์ มันเป็นเช่นนั้นจริงเหรอ?"
ดูเหมือนจะเสียงที่มีความเบาดังขึ้น เสียงเบาเกินไป หยุนชางไม่ได้ยินสิ่งที่นางพูด แต่ทันทีที่เสียงนั้นจบลง ก็มีเสียงเหมือนเก้าอี้ล้มลงบนพื้น ตามมาด้วยเสียงหญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่
"เร็วเข้า รัชทายาท เร็วหน่อยเพคะ..." เป็นจิ่งเหวินซี
หยุนชางตกใจมาก เดิมไม่ใช่ไม่ได้คิดว่าจิ่งเหวินซีและชางเจียคังหนิงอาจมีสถานการณ์เช่นนี้ แต่เพราะได้ยินองครักษ์ลับรายงานว่ามีหญิงสาวอีกคนหนึ่งเข้ามา ดังนั้นจึงปัดความคิดนั้นออกไป แต่ไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่า จะเป็นสถานการณ์ดังกล่าว
แต่ทำไมจิ่งเหวินซีถึงจงใจหลอกล่อชางเจียคังหนิง?
แต่ว่าการคาดเดาของจิ้งอ๋องนั้นถูกต้อง หยุนชางและจิ้งอ๋องอดทนรอเรื่องรักๆใคร่ๆที่ข้างห้องจบลง ทนกับจิ้งอ๋องที่คอยกลั่นแกล้งเป็นครั้งคราว จึงได้ยินจิ่งเหวินซีพูดอย่าหอบว่า "รัชทายาทช่างทรงพลังหาที่เปรียบมิได้เพคะ"
ชางเจียคังหนิงได้ยินคำโอ้อวดจากสาวงาม ในใจก็รู้สึกเหมือนกำลังลอยอยู่ เขาหัวเราะและพูดว่า "ร่างกายของซีเอ๋อร์ช่างสวยงามจริงๆ ซึ่งตรึงใจข้ายิ่งนัก และเสียงของเตี๋ยเอ๋อร์ก็ดีมากเช่นกัน ข้าไม่มีความสุขเช่นนี้มานานมากแล้ว"
หลังจากเงียบ ก็ได้ยินจิ่งเหวินซีหัวเราะและพูดด้วยน้ำเสียงที่มีเสน่ห์ว่า "แล้วรัชทายาทจะให้รางวัลกับซีเอ๋อร์ได้หรือไม่เพคะ"
"ได้สิ เพียงแค่เจ้าพูดมา" ชางเจียคังหนิงหัวเราะอย่างร่าเริง
"ซีเอ๋อร์อยาก อีกไม่กี่วันในงานพิธีแต่งตั้งฮองเฮา พาซีเอ๋อร์เข้าวังได้หรือไม่เพคะ ซีเอ๋อร์แค่อยากจะเข้าวังไปดู..." น้ำเสียงของจิ่งเหวินซีมีความขอร้องเล็กน้อย
เข้าวัง? หยุนชางขมวดคิ้ว แม้ว่าจิ่งเหวินซีจะถูกจักรพรรดิหนิงและจิ่งขุยทอดทิ้งเพราะคำทำนายเกี่ยวกับความชั่วร้ายที่จะเกิดในขึ้นในแผ่นดิน อย่างน้อยนางก็ปลอดภัยจนถึงพิธีแต่งตั้งฮองเฮา ในช่วงเวลานี้ ทูตของทุกประเทศอยู่ที่นั่น คำว่าแผ่นดินจะเกิดความอลหม่านมันง่ายที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งกัน เสด็จพ่อจะไม่ทำร้ายนางก่อนพิธีแต่งตั้งฮองเฮาเป็นแน่
ถ้านางต้องการเข้าวัง ทำไมนางไม่ไปขอพ่อของนางที่เป็นเสนาบดี กลับมาทำข้อตกลงในลักษณะนี้ แล้วให้ชางเจียคังหนิงพานางเข้าวังแทน?
ดูเหมือนเข้าใจความสงสัยของหยุนชาง จิ้งอ๋องจึงเอนกายแนบหูของหยุนชางและกระซิบว่า "หากนางตามพ่อนางเข้าวัง เหล่าสมาชิกหญิงสาวที่ขุนนางพาเข้าวังจะมีการจัดเลี้ยงลำพังในวังหลัง และในขณะพิธีแต่งตั้งฮองเฮานั้น เหล่าขุนนางไม่สามารถพาสาวใช้หรือเด็กรับใช้ไปด้วยได้ แต่ยกเว้นชางเจียคังนิง เขาเป็นทูตต่างประเทศ และเขาได้รับอนุญาตให้นำคนใช้อยู่เคียงข้างได้ จิ่งเหวินซีจึงสามารถปลอมเป็นผู้รับใช้แล้วตามเขาไป
เป็นเช่นนี้นี่เอง หยุนชางเดาในใจว่าจิ่งเหวินซีไม่ได้ตามพ่อของนางเข้าวัง ก็เพื่อหลีกเลี่ยงการไปร่วมงานเลี้ยงในวังหลัง แล้วนางไปที่ห้องโถงด้านหน้าต้องการจะทำอะไรกัน? ห้องโถงด้านหน้าเป็นสถานที่จัดพิธีแต่งตั้งตำแหน่งฮองเฮา... หรือว่า นางต้องการทำอะไรในระหว่างพิธี?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง
ทำไมถึงอ่านบทที่ 18 และอื่นๆต่อไปไม่ได้...