เมื่อตื่นมายามเช้า พลันได้ยินเสียงของจิ้งอ๋องดังเข้ามา ราวกับกำลังพูดคุยกับใครบางคนอยู่ หยุนชางพลางหลุบหัวเข้าไปในผ้าห่ม เมื่อผ่านไปชั่วครู่ จึงโผล่หัวออกมาจากผ้าห่มอีกครั้ง เสียงค่อย ๆ ดังขึ้นมาเรื่อย ๆ เสียงที่ดังจากข้างนอกเข้ามาเป็นเสียงของพ่อบ้าน "ตอนที่กระหม่อมอยู่บนถนน. พวกเขาก็กำลังพูดคุยถึงเรื่องนี้กันแล้ว เกรงว่าอีกไม่นาน ราษฏรทั่วแคว้นหนิงคงจะรู้เรื่องนี้เป็นแน่"
จิ้งอ๋องเงียบไม่พูดไม่จาอยู่นาน ในขณะที่หยุนชางกำลังคิดว่าเขาจะไม่เปิดปากพูดคุยนั้น พลันได้ยินน้ำเสียงเย็นชาดังออกมาว่า "ข้ายังคิดอยู่กลางดึกของเมื่อวาน. เหตุใดเขาถึงสนใจจะมาเล่นหมากรุกกลับข้า ที่แท้เป็นเพราะเรื่องของวันนี้นี่เอง ฉะนั้นจึงรู้สึกผิดต่อข้างั้นหรือ ? หรือว่าแต่เดิมอยากจะคุยเรื่องนี้กับข้าอยู่แล้ว แต่ไม่กล้าเปิดปากพูด? "
คำพูดของจิ้งอ๋องเต็มไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา หยุนชางจึงรู้สึกตื่นขึ้นมาเล็กน้อย มาหาเขาเพื่อวางหมาก ? เซี่ยหวนอวี่ ?
เซี่ยหวนอวี่ทำสิ่งใดกัน ?
ในขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น พลันเห็นเฉียนยินเดินเข้ามา กลับมองเห็นหยุนชางจ้องมองไปยังหัวเตียงด้วยสายตาที่เหม่อลอย. ตะลึงไปสักพัก แล้วจึงพูดออกมาว่า "หวางเฟยตื่นแล้วหรือ? อยากจะนอนต่อหรอเพคะ ? "
ข้างนอกเมื่อได้ยินเสียงของเฉียนยินที่พูดออกมาแล้ว พลันเงียบไปชั่วครู่ หยุนชางจึงได้ยินจิ้งอ๋องพูดขึ้นมาว่า "ไปที่ห้องตำรากับข้า "
หยุนชางจ้องไปยังหัวเตียงด้วยความว่างเปล่าอยู่หนึ่ง จึงเอ่ยปากถามว่า "วันนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น ?"
เฉียนยินขบริมฝีปากไปมา พร้อมเหลือบมองหยุนชางเป็นระยะระยะ มองเสียหยุนชางอดรู้สึกไม่ได้ที่จะรู้สึกอารมณ์เสียออกมา จึงพูดเบา ๆว่า "เกิดเรื่องใหญ่แล้วเพคะ"
เรื่องใหญ่? หยุนชางตกตะลึงไปสักพัก
"จักรพรรดิแคว้นเซี่ยวันนี้. ประกาศต่อหน้าผู้คนมากมายว่าท่านอ๋องคือบุตรชายของเขาที่หายสาบสูญไปนานหลายปี เขาคือองค์ชายใหญ่แห่งแคว้นเซี่ย" เฉียนยินพลันขมวดคิ้วลง"ได้ยินมาว่าข้างนอกเกิดความโกลาหลวุ่นวายเชียวเพคะ"
หยุนชางตกใจเป็นอย่างมาก พลางหันหน้าไปหาเฉียนยินว่า "อะไรหรือ ? "
อันที่จริงนางเข้าใจได้แต่แรกแล้ว เมื่อหยุนชางถามคำถามเสร็จพลันขบคิดเล็กน้อย นางนึกภาพออกได้ว่าข้างนอกวังนั้นจะวุ่นวายขนาดไหน จิ้งอ๋องเป็นบุคคลที่ราษฏรแคว้นหนิงให้ความเคารพมากมาย วันนี้กลับประกาศว่าจิ้งอ๋องเป็นท่านชายของแคว้นเซี่ยนั้น นี้มิใช่เรื่องน่าขันหรือ
นอกจากนี้ พรุ่งนี้จะเป็นวันพระราชพิธีแต่งตั้งฮองเฮาขององค์จักรพรรดิ เซี่ยหวนอวี่เลือกที่จะประกาศเรื่องราวออกไปในวันนี้ เขาคิดจะทำอันใดกัน ?
เฉียนยินจึงพูดเข้ามาว่า "ยังมีอีกเรื่องนึงเพคะ. แต่เดิมจักต้องเป็นท่านอ๋องที่ต้องบอกเรื่องนี้กลับท่าน หากแต่นู๋ปี๋เห็นว่าวันนี้จิ้งอ๋องคงจะไม่มีอารมณ์พูดคุยกับท่านเป็นแน่ เป็นนู๋ปี๋เล่าให้ท่านฟังเสียดีกว่า ท่านอ๋องได้จัดองครักษ์เงาให้ไปจับตาดูหัวจิ้งนั้น มีรายงานมาว่า มีข่าวคราวของหัวจิ้งแล้วเพคะ หัวจิ้งจะออกจากวิหารแคว้นหนิงและเดินทางเมืองหลวงวันนี้"
หยุนชางมิได้ถามถึงว่าเฉียนยินรู้ได้อย่างไร หากแต่ขมวดคิ้วขึ้นว่า "วิหารแคว้นหนิง? นางไปที่นั่นทำไมกัน ? วันก่อนนางก็พักอยู่ที่วิหารแคว้นหนิงงั้นหรือ? "
เฉียนยินพลันส่ายหัว"นู๋ปี๋มิรู้เรื่องนี้เช่นกันเพคะ หากแต่ได้ยินมาว่า นางจะกลับมายังเมืองหลวงวันนี้ นอกนั้นมิได้ถามสิ่งใดอีก"
วิหารแคว้นหนิง. หยุนชางพลันหลี่ตาลง ชั่วครูจึงพูดขึ้นมาว่า "ข้อมูลของเจ้า เป็นลั่วอี้ที่บอกเจ้าใช่หรือไม่ ?"
ใบหูของเฉียนยินพลันขึ้นสีขึ้นมา พูดด้วยน้ำเสียตะกุกตะกักว่า "ใช่ ใช่เพคะ "
หยุนชางมิได้คาดหวังถึงงานพระราชพิธีแต่งตั้งฮองเฮาพรุ่งนี้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เนื่องจากนางได้เตรียมการทุกอย่างไว้หมดแล้ว หากแต่ยังมีตัวแปรต่าง ๆ อีกมากมาย หยุนชางจึงถอนหายใจออกมาเบาๆ พลางหันหน้าไปหาเฉียนยิน พร้อมพูดว่า "เจ้าและลั่วอี้ไปเข้าวัง"
เฉียนยินตอบรับเสียงเบา พร้อมยิ้มตอบว่า " เรื่องง่าย ๆ เพคะ"
เมื่อเตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว หยุนชางพลันนึกขึ้นมาได้ว่า ยังมีเรื่องที่ต้องจัดการกับจิ้งอ๋องอีก มิเช่นนั้นจะเป็นการสั่นคลอนจิตใจของราษฏรแคว้นหนิงได้ หยุนชางพลันผ่อนลมหายใจออกมา เมื่อเดินมาถึงนอกตำหนักแล้ว พลางถามถึงยามที่เฝ้าประตูตำหนักว่า "ท่านอ๋องเล่า ? "
ยามเป้าหน้าประตูพลันรีบร้อนตอบกลับว่า "ท่านอ๋องรับแขกอยู่ที่ห้องตำราขอรับ"
รับแขก? ฝีเท้าของหยุนชางชะงักไปชั่วครู่ จึงหันกลับไปยังห้องของตน เกรงว่ารับแขกอยู่นั้นคงจะเป็นเซี่ยหวนอวี่เป็นแน่ จิ้งอ๋องสัญญากับนางแล้วว่าจะจัดการเรื่องนี้เป็นอย่างดี จะไม่ทำให้ชาติกำเนิดของตนมาทำให้แคว้นหนิงสั่นคลอนเป็นอันขาด เขาจะทำได้อย่างที่พูดเป็นแน่
พลันหัวค่ำ จิ้งอ๋องจึงยอมออกมาจากห้องตำรา หากแต่มิได้กลับมายังที่ห้อง พลันได้ยินข้ารับใช้พูดว่าเขาอยู่ที่ศาลาริมทะเลสาบ หยุนชางพลันขมวดคิ้ว วันนี้ทั้งวันเขาเดินไปมาอยู่แต่ในตำหนัก ทำให้นางเวินหัวเป็นอย่างมาก หากแต่ได้ยินว่าเขาไปอยู่ที่ศาลาริมทะเลสาบ จึงเดินไปหาเขาอย่างใจเย็น พลันหยุดริมฝีเท้าลง หันกายไปบอกเฉียนยินว่า "วันนี้ท่านอ๋องมิได้รับสำรับมาทั้งแล้ว จะทำให้ร่างกายแย่เอา เจ้าไปสั่งห้องเครื่องให้ทำโจ๊กมาเสีย"
เฉียนยินจ้องมองหยุนชางราวกลับกำลังจ้องมองผี จ้องหยุนชางอยู่นาน จึงเดินออกมาจากห้อง
หลังจากผ่านไปได้ครึ่งชั่วยามแล้ว ท่านอ๋องจึงกลับเข้ามาในตำหนัก พลันพาลมหนาวเข้ามาด้วย หยุนชางเหลือบมองเขา เกรงว่าเมื่อเช้าเขาจะรีบตื่นกระมัง เขาจึงยังสวมเสื้อเพียงแค่ตัวเดียวอยู่แล้ว จึงรีบร้อนเดินเข้าไปกุมมือ มือเย็นเสียจนหน้าตกใจ
หยุนชางพลันขมวดคิ้ว พลันรีบร้อนกลับเข้าไปในห้องพร้อมหยิบเสื้อคลุมขนสัตว์ขึ้นมาคลุมให้จิ้งอ๋อง จึงพูดออกมาอย่างเบา ๆว่า "แม้ท่านจะร่างกายแข็งแรง แต่ก็ไม่สามารถสวมใส่อาภรณ์เช่นนี้ได้ หากท่านป่วยขึ้นมาเล่า จะเป็นเช่นไร ? "เมื่อบ่นพึมพำแล้ว พลางพูดขึ้นมาอีกว่า "อีกทั้ง วันนี้ทั้งวันท่านยังมิได้กินข้าวเลย คิดว่าตนเองเป็นมนุษย์เหล็กหรือไงกัน ? ลั่วชิงเหยียน ท่าน "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง
ทำไมถึงอ่านบทที่ 18 และอื่นๆต่อไปไม่ได้...