ทั้งสองสนทนากันอยู่ครู่หนึ่ง สนมซู่ก็กลับไป ฉินยีเดินเข้ามาดวงตาของนางมองไปรอบๆตำหนัก
"ฉินเมิ่งล่ะ?" หยุนชางเอ่ยปากถาม
"นางบอกว่าจะไปเตรียมเครื่องเสวยให้องค์หญิงเจ้าค่ะ และรีบเดินออกไปทันทีเจ้าค่ะ หม่อมฉันรู้สึกว่านางอาจจะไปส่งข่าวให้นายหญิงของนางแล้วแน่ๆเจ้าค่ะ อีกเรื่องหนึ่งเจ้าคะ ในเมื่อองค์หญิงทราบแล้วว่าซู่เฟยเหนียงเหนียงเป็นคนของคนคนนั้น แล้วเหตุใดองค์หญิงจึงไม่บอกกับท่านโดยตรงว่าอยากเจอคนคนนั้นเจ้าคะ?" ฉินยีหรี่ตาและถามเบา ๆ
หยุนชางยิ้มเล็กน้อย "ไม่ว่ายังไง มันก็เป็นแค่การคาดเดาของข้าเอง แม้ว่าข้าจะมั่นใจในเรื่องนี้อย่างมาก แต่ข้าก็กลัวเหมือนกันว่าถ้าหากข้าเดาผิด และพูดออกมาโดยไม่ต้องคะนึงถึงเรื่องอื่นใด ข้าจะเดือดร้อนเอา แล้วจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ข้าทำเช่นนี้แม้ว่าจะอ้อมค้อมไปหน่อย แต่ก็ปลอดภัยกว่า หากว่าสิ่งที่หนิงเชียนสืบมาเป็นเรื่องจริง อีกไม่นานก็คงจะมีการเคลื่อนไหว"
"องค์หญิงคิดได้รอบคอบอย่างมากเจ้าค่ะ ถ้าอย่างนั้นหม่อมฉันขอลานะเจ้าคะ หม่อมฉันจะไปทำตามการที่องค์หญิงสั่งเจ้าค่ะ" ฉินยียืดตัวขึ้น ช่วยหยุนชางห่มผ้าให้ดีจากนั้นก็ถอยออกไป
แต่ว่า หลังจากที่รอมาทั้งวัน กลับไม่ได้เห็นภาพที่หยุนชางอยากเห็น ฉินยีเองก็ไม่กล้าที่จะอยู่นอกตำหนักชิงซินนานเกินไป นางจึงกลับมารับใช้หยุนชางที่ตำหนัก เมื่อเสวยพระกระยาหารค่ำเป็นที่เรียบร้อย หยุนชางเตรียมตัวจะพักผ่อน ก็ได้ยินเสียงอุทานดังจากด้านนอกว่า "เจ้าขวางทางทำไม? ยังไม่รีบหลีกไปอีก จิ้งอ๋องเข้าวังมา ท่านจะเสวยปลาออสแมนทัสที่สดใหม่ที่สุด หากว่าข้าล่าช้าไปเพราะเจ้า ระวังหัวของเจ้าไว้แล้วกัน"
ฉินยีซึ่งนั่งอยู่ข้างพระแท่นบรรทมของหยุนชางก็ตาเป็นประกาย ยืนขึ้นและพูดกับฉินเมิ่งว่า " ตายแล้ว ก่อนหน้านี้ซู่เฟยเหนียงเหนียงบอกว่าท่านต้มซุปบำรุงร่างกายที่วังของท่าน และขอให้ข้าไปนำมาให้องค์หญิง ข้าลืมไปแล้ว"
หยุนชางตกตะลึงพยักหน้าและกล่าวว่า "ไปเถอะ ระวังตัวด้วย อย่าได้ทำให้ซู่เฟยเหนียงเหนียงโกรธเคืองเชียวนะ ส่วนที่นี่ก็ให้ฉินเมิ่งดูแลก็พอแล้ว"
ฉินยีตอบกลับอย่างรวดเร็วและรีบออกไป หยุนชางยกมือขึ้นและลูบหน้าผากของตน " เป็นหวัดครั้งนี้ ข้าปวดหัวอย่างมาก ฉินเมิ่งเจ้ามานวดให้ข้าที"
ฉินเมิ่งเฝ้าดูฉินยีออกจากตำหนักไป และรู้สึกงุนงง แต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงของหยุนชาง นางรีบตอบกลับอย่างรวดเร็วและเดินไปที่ข้างพระแท่นบรรทม " ให้บ่าวไปนำซุปขิงมาให้องค์หญิงดีหรือไม่เจ้าคะ? ก่อนหน้านี้หม่อมฉันไม่สบาย ท่านแม่ของหม่อมฉันก็จะต้มซุปขิงให้ทาน แม้ว่ารสชาติไม่ค่อยดีนัก แต่ว่าได้ผลดีอย่างมากเจ้าค่ะ" "
หยุนชางส่ายหน้า "คนธรรมดากินแล้วอาจมีผลดี แต่ร่างกายของข้าเสวยามิได้ ขิงเป็นตัวอันตราย เสวยโดยพลการมิได้ เจ้ามานวดให้ข้าเถิด สักพักก็คงหาย "
ฉินเมิ่งขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนี้ แต่ก็เปลี่ยนสีหน้ายิ้มแย้มทันที และเข้าไปนวดให้หยุนชาง
ตำหนักฉินเจิ้ง จักรพรรดิหนิงกำลังสนทนาอย่างมีความสุขกับจิ้งอ๋อง "หลายปีที่ผ่านมานี้น้องคงลำบากมากตอนอยู่ที่ชายแดนใช่หรือไม่ เจิ้นได้ยินขันทีรอบข้างของเจ้ากล่าวว่า เจ้ามีบาดแผลเพิ่มขึ้นมากมาย อาการสาหัสหรือไม่?"
จิ้งอ๋องยิ้ม "มิใช่เรื่องใหญ่ขอรับ เป็นเพียงบาดแผลเล็กน้อยขอรับ"
"ถ้าเป็นเช่นนั้นย่อมดี ว่าแต่ว่าเจิ้นทำให้เจ้าเสียโอกาสที่ดีในการอภิเษกสมรสไปหรือไม่ เจิ้นให้เจ้าไปเฝ้าอยู่ที่หน่วยรักษาชายแดนตั้งแต่อายุสิบกว่าปี ตอนนี้เวลาผ่านไปโดยเร็ว เจ้าก็อายุยี่สิบเจ็ดแล้ว เจ้าดูสิ ลูกสาวของเจิ้นอภิเษกสมรสกันหมดแล้ว แต่เจ้าก็ยังไม่ได้อภิเษกสมรสเลย เจ้ามีหญิงสาวที่โปรดปรานหรือไม่? หากว่ามี เจิ้นจะเสกสมรสให้ทันที " จักรพรรดิหนิงตบไปที่บ่าของจิ้งอ๋อง เขามองไปที่ชายหนุ่มรูปหล่อตรงหน้า มีความภาคภูมิใจเล็ก ๆ " พระอนุชาทรงรูปหล่อเช่นนี้ และยังเป็นวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่เสียอีก ในพระราชวังนี้คงมีหลายคนหมายปอง แต่ไม่ทราบว่าเจ้าโปรดปรานหญิงสาวตระกูลไหนหรือ?"
จิ้งอ๋องที่กำลังนั่งเสวยปลาออสแมนทัสบนโต๊ะอย่าเงียบๆก็ยิ้มมุมปากขึ้นมา เมื่อได้ยินจักรพรรดิหนิงเดินไปมาและดุว่าหมอหลวงเช่นนี้ ผ่านไปนาน เขาจึงยืนขึ้นและตรัสว่า " เสด็จพี่ขอรับ ก่อนหน้านี้กระหม่อมเคยบาดเจ็บสาหัส หัวใจและปอดได้รับความเสียหายเล็กน้อย กระหม่อมจึงได้เชิญ หมอเทวดาเสวี่ยเหยียนที่อาศัยอยู่บนภูเขาฉางไป๋มารักษากระหม่อมที่จวนของกระหม่อมขอรับ กระหม่อมเห็นว่าเสด็จพี่นั้นห่วงใยองค์หญิงฮุ่ยกั๋วอย่างยิ่ง และพระวรกายขององค์หญิงทรงอ่อนแอมาก กระหม่อมแนะนำว่าให้องค์หญิงฮุ่ยกั๋วมาอาศัยที่จวนของหม่อมสักระยะ ให้หมอเทวดานั้นลองตรวจดูดีหรือไม่ขอรับ? "
"หมอเทวดาเสวี่ยเหยียน? " จักรพรรดิหนิงตกใจ " นั่นคือหมอเทวดาเสวี่ยเหยียนที่ลือกันว่าต้องอยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยหิมะน้ำแข็งเท่านั้นจึงจะมีชีวิตอยู่รอดได้ใช่หรือไม่?"
จิ้งอ๋องพยักหน้า "ตอนนั้นหม่อมได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้ว่าจะมีชีวิตรอดได้ แต่ได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคมาตลอดหลายปี คราวนี้ได้โอกาสกลับมาที่พระราชวัง กระหม่อมคิดว่าได้มีโอกาสอยู่พักผ่อนช่วงหนึ่ง จึงได้อันเชิญหมอเทวดาเสวี่ยเหยียนมาขอรับ ตลอดการเดินทางนั้นต้องใช้ความพยายามอย่างมาก เดิมทีกระหม่อมจะไปพบท่านที่ภูเขาฉางไป๋ แต่ด้วยเหตุยุ่งงาน จึงหาเวลามิได้สักทีขอรับ และอีกไม่นานกระหม่อมก็คงต้องไปที่ชายแดนอีก จึงได้หาทุกวิถีทางอันเชิญหมอเทวดานั้นมา หลายวันนั้นหมอเทวดาได้อาศัยอยู่ในคลังน้ำแข็งใต้ดินของจวนอ๋องมาตลอดขอรับ ... "
"ว่ากันว่าหมอเทวดานี้รักษาได้ทุกโรค เป็นเรื่องจริงหรือ?" จักรพรรดิหนิงถามอย่างเร่งรีบ
จิ้งอ๋องยิ้มออกมา "ข่าวลือเหล่านี้ก็มีจริงมีเท็จบ้างขอรับ ถึงแม้จะไม่สามารถรักษาทุกโรคได้ ไม่สามารถทำให้คนเสียชีวิตฟื้นขึ้นมาได้ แต่ทว่าทักษะของหมอเทวดานั้นยอดเยี่ยมยิ่งกว่าหมอทั่วไปอยู่มาก…"
จักรพรรดิหนิงพยักหน้า "เยี่ยมเสียจริง เจิ้นจะสั่งให้คนของเจิ้นส่งองค์หญิงไปยังจวนอ๋องของเจ้า เจิ้นขอให้พระอนุชาทรงดูแลองค์หญิงของเจิ้นแล้วกัน ถ้าหากสามารถรักษาพระโรคของชางเอ๋อร์ให้หายได้ เจิ้นจะขอบพระทัยพระอนุชาอย่างแน่นอน"
จิ้งอ๋องพยักหน้าซ้ำ ๆ "เสด็จพี่ทรงเกรงพระทัยกระหม่อมมากเกินไปขอรับ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง