เมื่อหยุนชางได้ยินดังนั้นก็หัวเราะออกมา "สายตาของเจ้าไม่เลวเลย ข้ามีรางวัลให้ เงินที่เหลือจากการซื้อของข้าขอมอบให้เจ้า"
เหออวิ้นทำความเคารพ "ขอบพระทัยเพคะ พระชายา"
"ข้ากินอิ่มแล้ว เก็บข้าวเก็บของ เตรียมตัวกลับจวนกันเถอะ" เหออวิ้นพยักหน้า นางปิดฝากล่องไม้แกะสลัก ถือเดินตามหลังหยุนชางลงมาชั้นล่าง
เมื่อกลับมาถึงจวนแล้ว เฉี่ยนอินที่คอยอยู่ก็รับเอากล่องมาจากในมือของเหออวิ้น แล้วจึงตามหยุนชางเข้าไปในห้องด้านใน "พระชายาเพคะ ตามที่พระชายาให้คนจากหอยวี่หมั่นมาแจ้งข่าวให้หม่อมฉัน ตอนนี้หม่อมฉันได้นำตัวนักเลียนเสียงคนนั้นมาที่จวนเรียบร้อยแล้วเพคะ"
หยุนชางถอนหายใจ "ตอนนี้มีคนคอยจับตามองข้าอยู่ จะลงมือทำสิ่งใดก็ไม่ง่ายเลย กว่าจะกันคนกลุ่มที่คอยจับตามองข้าให้อยู่แต่ด้านนอก ไหนจะแอบส่งข่าวกลับมาที่จวนอย่างระมัดระวังอีก ข้าว่าผมหงอกของข้าจะงอกออกมาก็คราวนี้ล่ะ"
เฉี่ยนอินได้ฟังเช่นนั้นก็หัวเราะชอบใจ "โถ พระชายา ลำบากจริงๆเลยนะเพคะ แต่ตั้งแต่ที่พระองค์เสด็จออกไปข้างนอก คนที่คอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของพระองค์ก็เหลืออยู่ในจวนแค่ไม่กี่คน ทำให้หม่อมฉันทำงานได้สะดวกขึ้น เอาแบบนี้ดีไหมเพคะ เวลาที่พระชายาว่าง ลองออกไปข้างนอกจวนบ่อยๆ ไปเดินชมตลาด ซื้อผ้า ซื้อขนม อะไรก็ได้เพคะ"
หยุนชางเห็นท่าทีเจื้อยแจ้วของนางก็ทั้งรำคาญและทั้งเอ็นดู นางยกมือขึ้นส่งสัญญาณบางอย่าง เฉี่ยนอินรีบหลีกทางให้ แล้วถามนางว่า "จะเสด็จไปพบนักเลียนเสียงคนนั้นหรือเพคะ?"
หยุนชางตอบ "ลองไปดูเสียหน่อยละกัน เสด็จพ่อสั่งให้ข้าไปตามสืบเรื่องนี้มาให้ได้ ภายในระยาเวลาระหว่างที่ฮ่องเต้แห่งแคว้นเย้หลางเสด็จมาที่วังหลวง ตอนนี้ข้าก็มีเวลาเหลืออยู่ไม่มากแล้ว" พูดจบนางก็ลุกขึ้น "ไปกันเถอะ เจ้าพาเขาไปไว้ที่ไหนล่ะ?"
เฉี่ยนอินนำหยุนชางไปที่ยังสถานที่แห่งหนึ่งภายในเขตจวนซึ่งอยู่ลับหูลับตาผู้คน มันดูเหมือนเป็นสถานที่รกร้าง "พ่อบ้านบอกว่า ที่นี่เป็นที่พักของบ่าวไพร่ แต่ว่าบ่าวไพร่ในจวนมีไม่มากนัก ยังมีบางห้องที่ว่างอยู่ หม่อมฉันจึงได้ใช้ห้องห้องหนึ่งเพคะ" เฉี่ยนอินพูดพลางผลักประตูออก ภายในห้องมีหญิงสาวที่แต่งตัวเหมือนสาวใช้นั่งอยู่ เมื่อพวกนางเห็นเฉี่ยนอินก็รีบทำความเคารพ แล้วจ้องมองมาที่หยุนชางด้วยแววตาสงสัยใคร่รู้
เฉี่ยนอินเห็นดังนั้นก็หัวเราะ "ท่านนี้เป็นนายใหญ่ของพวกเจ้า จะมาจ้องมองนายใหญ่แบบนี้ไม่ได้นะ"
เมื่อสองคนนั้นได้ยินก็ตื่นเต้นดีใจ "ที่แท้ท่านก็คือนายใหญ่นั่นเอง นึกไม่ถึงเลยว่านายหญิงจะยังอายุน้อยและมีรูปโฉมงดงามเช่นนี้" หญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยขึ้น นางยังคงจ้องมองหยุนชางด้วยความชื่นชม
หยุนชางส่งยิ้มให้กับพวกนาง "ชมเกินไปแล้ว หน้าข้าแดงหมดแล้ว เห็นหรือไม่"
เฉี่ยนอินเองก็พลอยยิ้มตามไปด้วย "พวกเจ้าถอยออกไปก่อน นายหญิงมีเรื่องจะคุยกับเขาคนนั้น"
สองคนนั้นรับคำแล้วเดินออกไปรอด้านนอก หยุนชางเดินเข้าไปภายในห้อง แล้วนางก็ได้พบกับชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง เขากำลังเหม่อมองออกไปด้านนอกหน้าต่าง
แล้วเขาก็ได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาใกล้ เขาจึงหันมาแล้วได้พบกับหยุนชาง เขาตกใจเล็กน้อยแต่ก็มิได้ส่งเสียง
เฉี่ยนอินเดินไปเช็ดเก้าอี้ตัวหนึ่งแล้วเชิญหยุนชางนั่งลง หยุนชางมองไปที่ชายวัยกลางคนผู้นั้นแล้วยิ้มออกมา "ได้ยินว่า ท่านมีพรสวรรค์ในด้านการเลียนเสียงผู้คน ไม่ทราบว่าหากเป็นเสียงของสตรี ท่านจะเลียนเสียงได้หรือไม่?"
ชายผู้นั้นนิ่งไปสักพัก แล้วจึงตอบคำถาม "ก็พอได้อยู่" คำตอบ 4 พยางค์ทำให้หยุนชางตาลุกวาว คำตอบ 4 พยางค์นั้นเป็นเสียงของสตรี และยังเป็นเสียงที่ฟังดูคุ้นหูยิ่งนัก เสียงที่ออกมาเมื่อครู่นั้น คือเสียงที่เลียนแบบเสียงของหยุนชางนั่นเอง
หยุนชางปรบมือ "สมดั่งคำที่เขาเล่าลือจริงๆ"
แล้วหยุนชางก็ถามต่อไปว่า "ท่านทราบหรือไม่ เมื่อคืนก่อนท่านเกือบจะไม่รอดชีวิตแล้ว เพราะท่านได้ลอกเลียนเสียงของคนคนหนึ่งที่หอยวี่หมั่นเมื่อไม่กี่วันมานี้ ท่านรู้หรือไม่ว่าเสียงที่ท่านเลียนแบบนั้นเป็นเสียงของผู้ใด?"
"มีพ่ะย่ะค่ะ เป็นชายอายุราวๆ 30 เขาเป็นคนเสียงใหญ่ สำเนียงการพูดของเขาก็ไม่เหมือนกับคนแคว้นหนิง ดูจากการแต่งกาย น่าจะเป็นคนแคว้นเย้หลาง ต่อมา หลังจากที่หม่อมฉันได้รับฟังเรื่องราวของจิ้งอ๋อง หม่อมฉันจึงได้รู้ว่า ชายผู้นั้นก็คือองค์รัชทายาทแห่งแคว้นเย้หลางพ่ะย่ะค่ะ"
หยุนชางสะดุดกับคำกล่าวตรงนี้เป็นพิเศษ นางพยายามเชื่อมโยงเหตุการณ์ "ความหมายของท่านก็คือ ที่ชั้นบนของหอยวี่หมั่น ท่านได้เห็นเขาแล้ว และเขาก็เห็นท่านเช่นกันใช่หรือไม่?"
ชายผู้นั้นผงกหัวทันที "ใช่พ่ะย่ะค่ะ ตอนที่เขาเดินลงมาจากชั้นบน ก็ผ่านห้องที่หม่อมฉันพักอยู่ เขาสอดส่องสายตาเข้ามาภายในห้องของหม่อมฉันและจ้องมองหม่อมฉันอยู่สักครู่ จากนั้นเขาก็ได้พูดกับหม่อมฉันเบาๆว่าไม่เลวด้วยพ่ะย่ะค่ะ"
หยุนชางขมวดคิ้ว ตอนนั้นนางเข้าใจว่าชางเจียคังหนิงไม่รู้ว่าคนบนหอยวี่หมั่นนั้นไม่ใช่จิ้งอ๋อง แต่ความจริงแล้วชางเจียคังหนิงรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว และยังเป็นผู้คอยจัดฉากอยู่เบื้องหลังอีกด้วย แสดงว่า ชางเจียคังหนิงคงอยากจะเล่นงานจิ้งอ๋อง คำว่าจิ้งอ๋อง ซึ่งเป็นเสียงที่ชางเจียคังหนิงตะโกนออกมาก่อนตาย ก็อาจจะเป็นเสียงของเขาเอง แต่ชางเจียคังหนิงคงนึกไม่ถึงว่า นักฆ่าผู้นั้นจะลงมือกับเขาเข้าจริงๆ
"ข้อเท็จจริงต่างๆ หม่อมฉันก็ได้กราบทูลไปน่าจะหมดสิ้นแล้ว พระชายายังทรงต้องการถามสิ่งใดอีกหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?" ชายผู้นั้นมองไปที่หยุนชาง ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนได้ปลดเปลื้องความหนักใจออกมาบ้างแล้ว "ขอให้พระชายาตามหาตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังตัวจริงให้ได้ในเร็ววัน เมื่อถึงเวลานั้น หม่อมฉันก็คงจะรู้สึกโล่งใจขึ้นมากเลยพ่ะย่ะค่ะ"
หยุนชางลุกขึ้นยืน นางยิ้มให้กับเขา "ได้ ท่านวางใจเถิด"
เมื่อพูดจบ นางก็แสดงความเคารพต่อชายวัยกลางคนผู้นั้น แล้วจึงเดินจากไป
"พระชายา พอได้เบาะแสอะไรเพิ่มเติมหรือไม่เพคะ?" เฉี่ยนอินถามนางเบาๆ
หยุนชางมิได้ตอบคำถามแต่อย่างใด นางได้มอบหมายงานงานหนึ่งให้กับเฉี่ยนอิน "ส่งคนไปสืบดูว่า ช่วงนี้ชางเจียคังหนิงได้ไปพบผู้ใดมาบ้าง"
เฉี่ยนอินพยักหน้าแล้วเอ่ยว่า "เหตุใดคนคนนั้นจะต้องเอาชีวิตชางเจียคังหนิงด้วยนะ ไหนจะเล่นงานจิ้งอ๋องอีก โทษฐานฆ่าองค์รัชทายาทคงจะเป็นปัญหาไม่รู้จบสำหรับเขาแน่นอนเลยเพคะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง
ทำไมถึงอ่านบทที่ 18 และอื่นๆต่อไปไม่ได้...