ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 470

"กู้ฮูหยิน?" เสิ่นอี๋หลานขมวดคิ้ว นางมองมาที่หยุนชาง ในมือของนางถือพัดคอยวีไปมา "ชื่อเสียงเรียงนามของนางไม่ค่อยดีเท่าไรนัก หม่อมฉันรู้ว่าคำบอกเล่าจากปากคนอาจจะไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด แต่สุภาษิตท่านว่าไว้ ไม่มีลมก็ไม่มีคลื่น แม้สิ่งที่ผู้คนเล่าลือกันอาจจะไม่ใช่ความจริงๆ แต่ก็คงมีบางส่วนที่เป็นความจริงอยู่บ้างนะเพคะ กู้ฮูหยินมิใช่คนดีอย่างที่พระชายาทรงคิดหรอก ครอบครัวของนางเป็นชนชั้นกลาง น่าเห็นใจนางที่ต้องสูญเสียมารดาและถูกรังแกจากญาติพี่น้อง ได้มาเป็นฮูหยินรองของกู้เฉาเกอก็ใช่ว่าพวกเขาจะออกเรือนกันด้วยความรัก แต่ก็คงดีกว่าอยู่กับแม่เลี้ยงของนาง หม่อมฉันได้ยินมาว่า แม่เลี้ยงของนางนั้นจะยกนางให้ออกเรือนกับชายแก่อายุราวๆ 50 เชียวนะเพคะ"

"เป็นเช่นนี้นี่เอง" หยุนชางนิ่งอึ้ง "ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เหตุใดนางจึงต้องมาขอร้องให้ข้าช่วยนางด้วยล่ะ?"

เสิ่นอี๋หลานเห็นสาวใช้ยกถาดผลไม้เข้ามา นางก็ได้หยิบองุ่นผลกลมใสส่งให้กับหยุนชาง "ลองชิมดูสิ องุ่นพวกนี้เพิ่งส่งมาถึงเมืองจิ่น สดมากเลยนะเพคะ หม่อมฉันให้คนนำน้ำแข็งแช่เอาไว้สักครู่แล้ว รีบกินตอนนี้กำลังดีเลยเพคะ"

หยุนชางรับองุ่นมา เสิ่นอี๋หลานก็พูดต่อไปอีกว่า "คงเป็นเพราะชีวิตหาได้สวยหรูดังจินตนาการ กู้เฉาเกอจึงอยากได้ภรรยามาสร้างความรื่นรมณ์ แต่เขาสอดส่องดูแลผู้หญิงที่เขาเลือกมาไม่ดี ดังนั้น สิ่งที่นางพูดก็อาจจะเป็นความจริงเพคะ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หม่อมฉันก็อยากจะขอบอกท่านเอาไว้เสียหน่อย แม่นางหนูซีนั่น หากท่านคิดว่านางมีประโยชน์ ก็พูดคุยกับนางต่อไป แต่ถ้าหากคิดว่าไม่มีประโยชน์แล้ว ก็ควรอยู่ห่างๆนางเข้าไว้นะเพคะ"

หยุนชางพยักหน้า "ข้าเข้าใจแล้ว แต่ว่าที่นางมาบอกข้าเรื่องที่จะมีคนมาทำการตรวจค้นนั้น ข้าคิดว่า ท่านเตรียมการรับมือเรื่องนี้ไว้บ้างก็จะดีนะ"

เสิ่นอี๋หลานยิ้มและพยักหน้า "เรื่องนี้ไว้หม่อมฉันไปรายงานต่อท่านฮูหยินและท่านแม่ หม่อมฉันไม่จำเป็นต้องเป็นกังวลเรื่องนี้เลยเพคะ" นางพูดอย่างสบายใจ "น่าเสียดายที่วันนี้ท่านเสด็จมาโดยมิได้บอกล่วงหน้า ท่านฮูหยินก็เลยไปไหว้พระเสียแล้ว มิเช่นนั้น นางคงดีใจที่ได้พบท่านนะเพคะ" พูดจบก็เห็นเหยียนเอ๋อร์เอื้อมมือมาคว้าองุ่น เสิ่นอี๋หลานหันไปถามสาวใช้ "เขากินองุ่นไปเยอะเท่าไรแล้ว? จะให้กินมากไม่ได้เด็ดขาด ประเดี๋ยวจะไม่สบายท้องเอาได้"

สาวใช้รับทราบ เหยียนเอ๋อร์ทำปากจู๋แสดงความไม่พอใจ แล้วจึงนำองุ่นชูไปตรงหน้าของหยุนชาง "ท่านน้ามากินองุ่นสิครับ กินองุ่นแล้วภรรยาของข้าจะได้สวยๆเหมือนกับท่าน"

"พูดจาเหลวไหล" เสิ่นอี๋หลานดุและทำท่าจะตีเหยียนเอ๋อร์ เหยียนเอ๋อร์ทำหน้าเย้าแหย่ แล้ววิ่งเล่นไปรอบๆ

"เท่าที่หม่อมฉันจำได้ ท่านกับท่านอ๋องแต่งงานกันมาได้ปีกว่าๆแล้วกระมัง" เสิ่นอี๋หลานหันมาพูดกับหยุนชาง

หยุนชางพยักหน้า "ได้ปีกว่าๆแล้ว"

เสิ่นอี๋หลานมองไปที่ท้องของหยุนชางแล้วก็ยิ้มออกมา "เช่นนั้นท่านก็น่าจะรีบมีเด็กสักคนได้แล้วนะเพคะ แม้เด็กเล็กจะซุกซนไปตามประสา แต่บางครั้งก็สนุกดีนะเพคะ ยิ่งท่านสวยและใจดีเช่นนี้ ส่วนท่านอ๋องก็รูปงามและสุขุม เด็กที่คลอดออกมาคงจะรูปงามและบุญหนักศักดิ์ใหญ่"

หยุนชางหัวเราะ "ข้าเพิ่งจะอายุ 16 เองนะ"

เสิ่นอี๋หลานโต้กลับ "ท่านอายุ 16 แต่ท่านลืมไปแล้วหรือว่า ท่านอ๋องจะอายุ 29 แล้วนะเพคะ หากท่านอ๋องรีบแต่งงานมีลูกไปก่อนหน้านี้ ลูกของเขาก็คงจะอายุราว 10 ขวบได้ ท่านก็คิดแทนเขาดูบ้างแล้วกันนะเพคะ อีกอย่าง การมีลูก ดีทั้งต่อเขาและตัวท่านเอง และยิ่งดีต่อจวนรุ่ยอ๋องอีกนะเพคะ"

สารถีไม่ตอบ แต่ก็แว่วเสียงเสียงหนึ่งพูดขึ้นมาว่า "ข้าผ่านมาทางนี้ บังเอิญเห็นรถม้าของพระชายารุ่ยอ๋อง จึงแวะมาถามไถ่ ไม่ทราบว่าช่วงนี้พี่สะใภ้สบายดีหรือไม่?"

หยุนชางเลิกคิ้ว นางกำมือแน่นพลางส่งสายตาบอกให้เฉี่ยนอินเปิดประตูรถม้า เมื่อนางมองออกไปนอกรถม้า ก็ได้พบกับรถม้าที่จอดขวางอยู่อีกคันหนึ่ง อ๋องเจ็ดยืนอยู่ด้านหน้ารถม้า เขามองมาที่หยุนชางและส่งยิ้มมาให้

"ที่แท้ก็ท่านอ๋องเจ็ดนี่เอง" หยุนชางยิ้ม นางรู้ว่าตอนนี้ฟ้ามืดลงแล้ว บนถนนในตอนนี้ไม่ค่อยมีผู้คนผ่านไปผ่านมา เขาจึงใจกล้าทำเรื่องเช่นนี้ "ข้าสบายดี ขอบคุณท่านมากที่เป็นห่วงข้า"

อ๋องเจ็ดยิ้มอย่างมีเลศนัย "เสด็จพี่ได้เขียนจดหมายส่งข่าวมาให้พี่สะใภ้บ้างหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ? ไม่รู้เลยว่าตอนนี้เสด็จพี่ทรงเป็นอย่างไรบ้างแล้ว หม่อมฉันรู้สึกเป็นห่วงยิ่งนัก"

"ท่านอ๋องทรงมีราชกิจที่ต้องสะสาง คงจะไม่มีเวลามาห่วงหน้าพะวงหลัง ก่อนหน้านี้ข้าก็ได้กำชับกับเขาไว้แล้วว่าไม่ต้องเป็นห่วงข้า ไม่ต้องเขียนจดหมายมา การไปปฏิบัติภารกิจไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ก่อนหน้านี้ท่านอ๋องเจ็ดก็เคยใช้ชีวิตในสนามรบที่แคว้นหนิงมาแล้ว แต่ว่าท่านคงจะคอยบัญชาการอยู่แต่เบื้องหลัง จึงไม่เคยรับรู้ว่าผู้ที่อยู่ด่านหน้าแท้ที่จริงแล้วต้องยุ่งวุ่นวายเพียงใด" เมื่อหยุนชางได้ฟังท่าทางการพูดของเขาแล้ว นางก็รู้ว่าเขาต้องการมาหยั่งดูสภาพจิตใจของนาง นางยิ้ม นั่งตัวตรง ใบหน้าไม่แสดงอาการใดๆออกมา

"เช่นนี้นี่เอง" อ๋องเจ็ดมองมาที่หยุนชาง เขานึกบางอย่างขึ้นมาได้ "มีแต่คนชมว่าพี่สะใภ้หน้าตาสะสวยปานเทพธิดา ก่อนหน้านี้หม่อมฉันหาได้มีโอกาสได้สังเกตใกล้ๆไม่ วันนี้ได้มีโอกาสมองหน้าท่านใกล้ๆแล้ว ช่างงดงามสมคำเล่าลือจริงๆ มือก็งาม ผิวก็ดี คอระหง ฟันเรียงสวย คิ้วคมเข้ม รอยยิ้มทรงเสน่ห์ ดวงตา......" พูดยังไม่ทันจบ พลันเกิดเสียงคมดาบถูกชักออกจากฝัก แสงดาบสีเงินเงาวับ ดาบนั้นพุ่งออกไปจากรถม้า ไปปักยังจุดที่เฉียดคอของอ๋องเจ็ดไปเล็กน้อย

อ๋องเจ็ดตะลึงเป็นอย่างมาก เขาพูดกับหยุนชางว่า "พี่สะใภ้ สาวใช้ของท่านดูจะโหดเหี้ยมเกินไปหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง