เฉี่ยนหยุนรีบกล่าวว่า "เป็นพระชายาที่สั่งให้หม่อมฉันทำเช่นนี้ เมื่อยากล่อมนิทราออกฤทธิ์แล้วก็ไม่รู้ว่าจะก่อเรื่องอะไรขึ้นบ้าง พระชายากลัวว่าจะเป็นเรื่องใหญ่จึงได้ขอให้หม่อมฉันทำให้นางหมดสติไป แม้ว่าฤทธิ์ยานั้นจะแรงมากแต่ก็จะออกฤทธิ์เพียงไม่นาน ครึ่งชั่วยามก็น่าจะหมดฤทธิ์แล้วเพคะ"
ลั่วชิงเหยียนเดินเข้าไปในตำหนักอย่างรีบร้อนและเห็นหยุนชางนอนหลับอยู่บนเบาะ บนหน้าผากของนางเต็มไปด้วยเหงื่อบางๆ ลั่วชิงเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วดึงนางเข้าสู่อ้อมแขนพลางเงยหน้าขึ้นมองเฉี่ยนหยุน "เกิดอะไรขึ้น? ทำไมพระชายาจึงกินยากล่อมนิทราเข้าไปได้?"
เฉี่ยนหยุนรีบตอบ "ยานี้ถูกใส่ลงในชาของพระชายาเพคะ หากเป็นในยามปกติพระชายาต้องพบแน่ เพียงแต่เมื่อครู่ที่ตำหนักเว่ยยางนั้น ฮองเฮาเข้าไปในห้องด้านในเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและให้พระชายาช่วยดูแลท่านชายน้อย นางกำนัลนำขนมเกาลัดมา ในขณะที่กำลังเสวยอยู่นั้นเสิ่นซูเฟยก็มาถึง เมื่อมาถึงก็ถามพระชายาว่าที่ท่านชายน้อยกำลังกินนั้นคือขนมเกาลัดใช่หรือไม่ ความสนใจของพระชายาจึงถูกดึงไปอยู่ที่เสิ่นซูเฟยและท่าชายน้อยและไม่ได้สังเกตว่าชาของนางถูกคนแตะต้อง เมื่อดื่มไปเล็กน้อยจึงรู้สึกผิดปกติและรีบส่งสัญญาณให้หม่อมฉันแกล้งทำให้ถ้วยชาคว่ำเพื่อมาเปลี่ยนชุดที่ตำหนักเซียงจู๋เพคะ"
"แล้วที่เจ้าบอกว่ามีคนปลอมตัวเป็นนางกำนัลเข้ามาทำร้ายพระชายานั่นเป็นเรื่องอะไรกัน?" ลั่วชิงเหยียนยกมือขึ้นเล็กน้อยเพื่อเช็ดเหงื่อบนหน้าผากของหยุนชางและถามเสียงต่ำ
เฉี่ยนหยุนตอบว่า "เมื่อครู่พระชายาขอให้หม่อมฉันไปหาท่านอ๋องที่ตำหนักไท่จี๋ หม่อมฉันจึงได้ส่งคนไปตามท่านอ๋องมา แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีชายปลอมตัวเป็นหญิงบอกว่าฮองเฮามีราชโองการให้พระชายาและเข้ามาด้านในตำหนัก เขาคิดจะเปลี่ยนเสื้อผ้าในพระชายา แต่โชคดีที่พระชายาพยายามฝืนต้านทานฤทธิ์ยาไว้จึงยังคงมีสติอยู่ นางพบว่ามีบางอย่างผิดปกติจึงรีบตะโกนออกมา... "
ลั่วชิงเหยียนกำหมัดแน่น เขาแค่นเสียงอย่างเย็นชา ดวงตาฉายแววอาฆาต เฉี่ยนหยุนถูกแววตาอาฆาตนั้นทำให้ตกตะลึงก้าวถอยหลังไปสองก้าวและก้มหน้าก้มตาไม่กล้ามองลั่วชิงเหยียนอีก
"พวกเจ้าเฝ้าอยู่ด้านนอกเถอะ ข้าจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นางเอง" เฉี่ยนหยุนก้มศีรษะขานรับแล้วรีบออกไป
ลั่วชิงเหยียนถอดเสื้อผ้าของออก ตาของเขาจับจ้องไปยังแขนที่กลายเป็นสีแดงเพราะถูกลวก คิ้วของเขาขมวดขึ้นอีกครั้ง เขายื่นมือเพื่อไปแตะเบาๆ แต่เมื่อเกือบจะถึงรอยแผลนั้นเขาก็ชักมือกลับแล้วถอนหายใจเบาๆ พลางหยิบเสื้อผ้าที่วางอยู่ด้านข้างมาเปลี่ยนให้หยุนชาง
เมื่อเฉี่ยนหยุนถูกเรียกเข้ามาอีกครั้ง นางก็เห็นลั่วชิงเหยียนกำลังขมวดคิ้วจ้องมองรอยแผลบนแขนของหยุนชาง เฉี่ยนหยุนรีบหยิบขวดยาสีน้ำเงินมาจากชั้นด้านข้างและยื่นให้ลั่วชิงเหยียนทันที "ท่านอ๋อง นี่คือยาทารักษาแผลน้ำร้อนลวก..."
ลั่วชิงเหยียนรับคำอย่างเรียบเฉยแล้วจึงรับมา เขาเทยาออกมาทาแผลให้หยุนชางอย่างระมัดระวังก่อนที่จะวางขวดยาไว้ด้านข้าง
มีคนเข้ามาจากด้านนอกอย่างรีบร้อน "กุ้ยผินส่งคนมาถามว่าพระชายาเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จหรือยังเพคะ? เมื่อครู่ฮองเฮาเพิ่งถามถึง"
เฉี่ยนหยุนเหลือบมองดูหยุนชางที่ยังไม่ได้สติและพานางกำนัลผู้นั้นไปอีกด้าน "ยังไม่เสร็จ"
นางกำนัลผู้นั้นเงยหน้าขึ้นดูสถานการณ์ในตำหนักก็พยักหน้าแล้วพูดว่า "กุ้ยผินบอกว่าหากนางยังไม่ฟื้น รออีกสักครู่ก็ให้ตรงไปที่ตำหนักไท่จี๋เลย ฮองเฮาเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว นางน่าจะตรงไปยังตำหนักไท่จี๋เลย"
เฉี่ยนหยุนพยักหน้าและให้นางกำนัลผู้นั้นออกไป ส่วนนางก็ยืนรอรับใช้อยู่ที่ทางเข้าตำหนัก
ผ่านไปครู่หนึ่งหยุนชางก็ส่งเสียงครางในลำคอและฟื้นขึ้น นางขมวดคิ้วมองไปที่ลั่วชิงเหยียน จากนั้นจึงร้องออกมาด้วยความสงสัยเล็กน้อย "ท่านอ๋อง?"
ลั่วชิงเหยียนจับมือของหยุนชางและพยักหน้า "ดีขึ้นแล้วหรือไม่? ยังปวดหัวอยู่ไหม?"
หยุนชางฟังคำพูดของเฉี่ยนหยุนก็รู้ได้ว่าไม่ใช่เพียงแค่ฮองเฮาเท่านั้นที่มา แต่มีคนมาด้วยมากมาย ไม่รู้ว่าใครเป็นคนต้นคิด
ขณะที่นางกำลังคิดเรื่องนี้อยู่นั้นก็ได้ยินเสียงของหนิงเชียนดังขึ้น "พระชายาเพียงแค่เสื้อผ้าสกปรกและมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเท่านั้น ฝ่าบาทรออยู่ที่ตำหนักไท่จี๋ ฮองเฮาเพคะ ทำไมพวกเราไม่ไปที่นั่นกันก่อนล่ะเพคะ?"
เมื่อสิ้นเสียงของหนิงเชียน เสิ่นซูเฟยก็พูดต่อทันที "แค่เปลี่ยนเสื้อผ้าคงไม่ต้องใช้เวลานานขนาดนี้หรือเปล่า? นี่เกือบจะหนึ่งชั่วยามแล้ว พระชายาคงไม่ได้เป็นอะไรไปใช่หรือไม่? นอกจากนี้ไหนๆ พวกเราก็มากันแล้ว รอพระชายาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปด้วยกันเถอะ"
เมื่อหยุนชางได้ยินคำพูดของเสิ่นซูเฟยก็ยิ้มเย็น ในใจนางคิดว่าเรื่องนี้แม้เสิ่นซูเฟยจะไม่ได้เป็นผู้ลงมือแต่เกรงว่านางจะรู้เรื่องราวอยู่ก่อนแล้ว
"นานไปหน่อยแล้ว ขนาดข้ายังเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วและยังเดินทางมาจากตำหนักเว่ยยางอีก นางยังไม่เสร็จอีกหรือ? ให้คนเข้าไปดูหน่อยเถอะ" ฮองเฮาเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
หนิงเชียนก้มศีรษะลงแล้วเงยหน้าขึ้นมองเฉี่ยนหยุนและรับคำ "เพคะ"
เมื่อนางรับคำก็ได้ยินเสียงชายคนหนึ่งดังมาจากในตำหนัก ทุกคนที่อยู่ด้านนอกต่างก็ตกตะลึง ผ่านไปครู่ใหญ่ฮองเฮาก็ขมวดคิ้ว "พวกเจ้าได้ยินหรือเปล่า?"
มีหลายคนพยักหน้า ฮองเฮายิ้มเย็น "ไม่ได้บอกว่ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าหรือ? ไปกันเถอะ ข้าอยากดูนักว่าพระชายาเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างไร?" นางพูดพลางสาวเท้าก้าวเข้าไปในตำหนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง
ทำไมถึงอ่านบทที่ 18 และอื่นๆต่อไปไม่ได้...