หลิวเหวินอันตอบรับ เดินไปที่ด้านหน้าของทหารรักษาการณ์ รับสิ่งที่อยู่ในมือของเขา และถอนตัวออกจากตำหนักหารือ
หยุนชางยิ้ม ครุ่นคิดถึงทุกสิ่งในใจ และเงยหน้าขึ้นมองเซี่ยหวนอวี่ "ในบรรดาหลักฐานทั้งหมดเกี่ยวกับชิงกุ้ยเหรินและท่านชายน้อยมีเครื่องประดับที่หม่อมฉันปกติชอบไปซื้อในร้าน ปิ่นทองหุ้มหยกที่สาวใช้หวายหย่านำมาถวายในตอนเช้ามาจากหอเฉี่ยนสุ่ยอี้เหริน และต่างหูที่พบในห้องของเหยียนอวี่ก็เช่นกัน ปิ่นปักผมนั่นหม่อมฉันทำหายแล้วจริงๆ แต่ต่างหูนั่นหม่อมฉันสามารถให้คนนำออกมาได้ หม่อมฉันคิดว่า ทั้งหมดมาจากร้านนั้น เช่นนั้น ก็ลองเชิญเถ้าแก่ในร้านนั้นมาสอบถามก็ได้ บางทีอาจจะมีเบาะแสบางอย่างก็ได้เพคะ"
ดวงตาของเซี่ยหวนอวี่จับจ้องไปที่หยุนชางด้วยสายตาพิจารณา หลังจากครู่หนึ่ง เขาก็ตรัสว่า "ได้ ไปเชิญมาเถอะ"
หยุนชางยิ้มเบาๆ และเงยหน้าขึ้นมองที่ฮองเฮา ฮองเฮายังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ ดวงตาของนางจ้องไปที่หยุนชาง ขมวดคิ้วของนาง ดวงตาของนางครุ่นคิดเล็กน้อย
เมื่อเห็นหยุนชางจ้องมองนาง ฮองเฮาก็มองไปที่หยุนชาง หลังจากนั้นไม่นานนางก็หันกลับมามองเซี่ยหวนอวี่ "ฝ่าบาท หม่อมฉันขอตัวไปดูหยุนซีก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้างเพคะ"
เซี่ยหวนอวี่เงียบครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็พยักหน้า "ไปเถอะ"
ฮองเฮาก้มโค้งคำนับ แล้วเดินลงจากที่นั่งสูง ผ่านหยุนชาง และออกจากตำหนักหารือ
หมาจนตรอกแล้วจริงๆ หยุนชางยิ้มเล็กน้อย แต่นางโล่งใจเล็กน้อยในใจ กลัวแต่ว่านางจะไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ
สายตาของเซี่ยหวนอวี่ยังคงตกอยู่ที่หยุนชาง และการแสดงออกเล็กๆบนใบหน้าของนางไม่สามารถหลุดพ้นจากสายตาของเซี่ยหวนอวี่ได้ เซี่ยหวนอวี่สั่งให้นางกำนัลเตรียมชาก่อนจะตรัสเบาๆ ว่า "รากของตระกูลซูนั้นลึก และตอนนี้ยังไม่สามารถขยับได้"
หยุนชางตกตะลึง จู่ๆก็ลืมตาขึ้น แต่เห็นเซี่ยหวนอวี่ถือถ้วยชาราวกับว่าเขาไม่เคยอ้าปาก หยุนชางหันไปมองนางกำนัลที่ยืนอยู่ข้างๆ และนางกำนัลก็ก้มศีรษะมิได้มีท่าทีอะไร ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นเพียงความรู้สึกลวงของหยุนชาง
หยุนชางเงียบไปครู่หนึ่ง เกรงว่าเซี่ยหวนอวี่ต้องการเตือนนางว่าอย่าได้ขยับฮองเฮาด้วยความคิดของนาง หยุนชางก้มศีรษะลง ดวงตาก้มลงมองที่มุมกระโปรง และไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า "ก่อนหน้านี้ ใกล้กับตำบลฉีหลาน ผู้ที่ส่งคนไปลอบสังหารหม่อมฉันเป็นเสิ่นซู่เฟย หม่อมฉันต้องสูญเสียองครักษ์ลับที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีกว่ายี่สิบคน เฉี่ยนอินที่คอยปรนนิบัติข้างๆหม่อมฉัน นางก็ต้องเสียแขนเช่นกัน"
หลังจากคำพูดของหยุนชางหายไป ห้องโถงก็เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่หยุนชางจะได้ยินเสียงของเซี่ยหวนอวี่ตรัสว่า "ตามที่เจ้าต้องการ"
มุมปากของหยุนชางกระตุกเล็กน้อย นี่คือความรักของจักรพรรดิที่เรียกว่าการชั่งน้ำหนัก เมื่อพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียแล้ว หมากที่ไร้ประโยชน์ที่สุดสำหรับเขาก็คือ หมากที่ถูกทิ้งแล้ว แม้ว่าอยู่กับเขามานานแค่ไหน ไม่ว่านางจะให้กำเนิดลูกหรือไม่ก็ตาม เมื่อถูกทอดทิ้งก็คือถูกทอดทิ้ง มันคือ เด็ดขาดอย่างแท้จริง
ผ่านไปครู่หนึ่ง ฮองเฮาก็เสด็จเข้ามาอีกครั้ง สีหน้าของนางมิได้ดูแย่กว่าเมื่อครู่แล้ว แลดูนิ่งสงบลงมาก และนางต้องไปเตรียมการมามากพอควรแล้ว
หยุนชางยิ้มเบาๆ นางเอ่ยให้มีการเชิญเถ้าแก่หอเฉี่ยนสุ่ยอี้เหรินเข้าวังเพื่อให้ฮองเฮาทำเล่ห์เหลี่ยม แต่ไม่ว่าในกรณีใดฮองเฮาจะไม่มีทางรู้เลยว่า หยุนชางกำลังรอให้นางถูกโจมตี
ฮองเฮายังให้นางกำนัลเตรียมชาสักถ้วยและขณะดื่มชาก็รออย่างใจเย็น
หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วยาม ท้องฟ้าก็ค่อยๆมืดลง และทหารรักษาการณ์ก็เข้ามารายงานว่า "ฝ่าบาท เถ้าแก่หอเฉี่ยนสุ่ยอี้เหรินมาถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ"
เซี่ยหวนอวี่พยักหน้า วางถ้วยชาลงแล้วพูดด้วยเสียงอันดังว่า "เข้ามาได้"
เฉี่ยนสุ่ยได้ยินคำพูดนั้น ก้มศีรษะและหยิบปิ่นปักผมและต่างหูบนถาดขึ้นมา และหลังจากดูไปครู่หนึ่ง นางก็พูดว่า "ทูลฝ่าบาท เป็นของในร้านหม่อมฉันเพคะ"
เซี่ยหวนอวี่พยักหน้าและถาม "นอกจากพระชายารุ่ยแล้ว มีใครซื้อสองสิ่งนี้อีกบ้าง คู่นี้เป็นของพระชายารุ่ยหรือไม่?"
"ต่างหูนี้ได้ขายไปแล้วสี่คู่เพคะ มีฮูหยินของนายท่านหวังผู้มั่งคั่งที่สุดในเมือง ครั้งหนึ่งเคยมาที่ร้านเพื่อซื้อสองคู่ นางบอกว่าเป็นหนึ่งอันสำหรับลูกสาวในวัง หนึ่งอันสำหรับตันางเอง และมีคุณหนูสามจากจวนจินเคยมาซื้อหนึ่งคู่ และอีกคนหนึ่ง เกรงว่าสาวชาวบ้านที่มาซื้อ หม่อมฉันจำนางไม่ได้ จากที่มองดูชุดของนาง ดูไม่เหมือนคุณหนูจากจวนเพคะ ดูเหมือนสาวใช้ แต่ดูไม่เหมือนสาวใช้เลย หม่อมฉันมองที่มือของนางบอบบางและขาวราวกับนางไม่เคยทำในส่วนของงานสาวใช้เลยเพคะ" เฉี่ยนสุ่ยพูดมาทีละคน ไม่คลุมเครือ ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วส่ายหัว "อันนี้ ไม่ใช่ของพระชายารุ่ย พระชายารุ่ยเป็นลูกค้าประจำของร้านเรา หม่อมฉันได้ประดิษฐ์เป็นพิเศษ สร้างรอยประทับอันเป็นเอกลักษณ์ให้กับพระชายารุ่ย ณ ด้านล่างของต่างหูมีชื่อพระชายารุ่ยซึ่งเป็นตัวอักษร หยุน เพคะ"
หลังจากหยุดชั่วคราวแล้วนางก็พูดต่อว่า "ปิ่นปักผมนี้เป็นของพระชายารุ่ยเท่านั้น และยังมีที่ประทับตัวอักษรหยุน แต่ปิ่นปักผม ทำที่ร้านหม่อมฉันนั้นเป็นก้านเต็ม แต่ปิ่นปักผมนี้จงใจเจาะออก และเทคนิคการเจาะรูนี้ก็ดีด้วย ควรทำโดยผู้ที่มีความชำนาญในการทำปิ่นปักผม และตัดสินจากร่องรอยของโพรงนี้ คงทำเมื่อวานนี้หรือวันก่อนเพคะ"
เซี่ยหวนอวี่พยักหน้า ดวงตาของเขาจ้องไปที่เฉี่ยนสุ่ย และตรัสว่า "เจ้าบอกว่าต่างหูคู่สุดท้ายถูกซื้อโดยคนที่เจ้าไม่รู้จัก เจ้าช่วยวาดใบหน้าของคนนั้นได้หรือไหม?"
เฉี่ยนสุ่ยเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดว่า "หม่อมฉันสามารถวาดภาพเครื่องประดับได้ทุกประเภท ภาพวาดคนหม่อมฉันไม่ถนัดจริงๆ แต่หม่อมฉันจำรูปลักษณ์ของคนๆนั้นได้ หากมีจิตรกรที่มีทักษะที่ดีในวัง หม่อมฉันสามารถแจ้งรูปลักษณ์ของคนๆนั้นให้กับจิตรกรวาดออกมาได้เพคะ"
"ไปเรียกจางจื่อเฉียนมา" เซี่ยหวนอวี่ขึ้นเสียง องครักษ์ที่ประตูก็รีบออกไป
หยุนชางจ้องมองฮองเฮา ฮองเฮาดูกระสับกระส่ายเล็กน้อย หยุนชางยิ้มเล็กน้อย แม้ว่านางจะดึงฮองเฮาออกมาไม่ได้จริงๆ แต่ก็คุ้มค่ามากที่เห็นนางตื่นตระหนกเยี่ยงนี้
จิตรกรมาเร็วมาก เซี่ยหวนอวี่ให้คนเตรียมพู่กันกระดาษ จิตรกรเดินไปที่โต๊ะที่วางอยู่ข้างๆ เฉี่ยนสุ่ยตามไปและอธิบายลักษณะของบุคคลนั้นอย่างละเอียด จิตรกรชื่อจาง จื่อเฉียนได้วาดรูปคนออกมา เฉี่ยนสุ่ยดูแล้วแจ้งข้อคิดเห็น และสั่งให้จิตรกรปรับเปลี่ยนก่อนที่จะนำเสนอภาพวาดให้เซี่ยหวนอวี่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง
ทำไมถึงอ่านบทที่ 18 และอื่นๆต่อไปไม่ได้...