ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 579

กั๋วกงฮูหยินถอนหายใจเบา ๆ "เป็นเวลาสิบวันแล้วตั้งแต่เกิดเรื่องกับชิงเหยียน จนตอนนี้ก็ยังไม่มีเบาะแสใดๆเลย น่าเป็นห่วงเสียจริง องครักษ์ตามหามาสองวันแล้ว แล้วเราจะพบเบาะแสเมื่อไหร่กัน?"

หยุนชางกังวลใจเป็นอย่างมากเช่นกัน แต่เมื่อเห็นว่ากั๋วกงฮูหยินกังวลจนขมวดคิ้วอย่างหนัก นางจึงเอ่ยปากปลอบโยนว่า "ท่านอ๋องไปด้วยตัวเอง วันนั้นที่ไปเขาตั้งใจทิ้งสายลับเอาไว้ แสดงว่าเขาต้องมั่นใจอย่างมากจึงกล้าที่จะเสี่ยง ท่านยายมิต้องเป็นห่วงหรอกเพคะ ข้าเชื่อว่าไม่นานก็จะมีเบาะแสอย่างแน่นอน"

กั๋วกงฮูหยินตบมือหยุนชางเบาๆและพยักหน้า " หวังว่าจะเป็นเช่นนี้นะ ชิงเหยียนยังไม่รู้ว่าเขากำลังจะได้เป็นพ่อคน หากว่าเขาทราบเรื่องนี้แล้ว เขาต้องมีความสุขมากอย่างแน่นอน"

หยุนชางได้ยินกั๋วกงฮูหยินกล่าวเช่นนี้นางก็เริ่มหวังขึ้นมา นางรู้สึกเหลือเชื่อกับการมาของเด็กคนนี้อย่างมาก แต่นางก็รู้สึกมีความสุขอย่างมากเช่นกัน แต่ด้วยความที่ข่าวดีเช่นนี้ไม่สามารถแบ่งปันให้ใครทราบแล้ว จึงรู้สึกมีความสุขน้อยลง หากว่าลั่วชิงเหยียนทราบเรื่องนี้แล้ว เขาคงจะมีความสุขอย่างมากกระมั้ง ก่อนหน้านี้เขาเองก็อยากมีลูก

กั๋วกงฮูหยินจ้องไปที่หยุนชางครู่หนึ่งแล้วจึงยิ้มและกล่าวว่า "ก่อนหน้านี้ข้าทราบว่าเจ้าตั้งครรภ์ อีกทั้งยังแอบออกจากเมืองจิ่นไป ข้าเป็นห่วงอย่างมาก ตอนนี้เจ้าสบายดีทุกอย่างมาก เด็กในครรภ์แข็งแรงดีข้าเองก็สบายใจแล้ว ข้ามิได้กลับจวนกั๋วกงมาหลายวันแล้ว รู้ประเดี๋ยวข้าจะเก็บข้าวเก็บของกลับไปที่จวนกั๋วกง แต่ข้าว่าจวนรุ่ยอ๋องใหญ่เช่นนี้ เจ้านายก็มีแค่เจ้าคนเดียว คงไม่มีเพื่อนคอยคุย เจ้ากลับไปที่จวนกั๋วกงพร้อมข้าดีหรือไม่? ข้ารู้สึกว่าเจ้าเข้ากับหลานสะใภ้ของข้าได้เป็นอย่างดี.........."

หยุนชางหครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงส่ายหัวอย่างตั้งใจ กล่าวพร้อมยิ้มว่า "ข้าต้องรออยู่ที่นี่ รอท่านอ๋องกลับจวนเพคะ หากว่าท่านอ๋องกลับมาแล้วไม่เจอใครเลย เขาจะเสียใจเพียงใด"

"ก็ดี เจ้าแสนดีต่อหลานชายสุดเย็นชาของข้าอย่างมาก เช่นนั้นข้าจะไปเห็นข้าวของกลับไปที่จวนกั๋วกงแล้ว แต่ถึงอย่างไรข้าไม่มีกระไรทำอยู่แล้ว ข้าจะมาเยี่ยมเจ้าบ่อยๆ" กั๋วกงฮูหยินยืนขึ้นขณะที่พูด จากนั้นสาวใช้ก็พยุงนางออกจากห้องไป

หยุนชางเห็นว่าเวลาเดิน ขาของนางแข็งเล็กน้อย จึงเดินออกไปพร้อมนางและกล่าวว่า "ตอนนี้อากาศเย็นลงเรื่อยๆแล้ว อีกสองวันหากมีเวลาว่างชางเอ๋อร์จะจัดยาบำรุงร่างกายให้ท่านยายเล็กน้อย ท่านยายเอาไปต้มกินเสีย แม้ว่าอากาศจะหนาวเพียงใดก็จะช่วยให้ไม่ปวดข้อเข่านัก"

กั๋วกงฮูหยินหันไปมองหยุนชางและกล่าวพร้อมยิ้ม "ตาเจ้าแหลมคมยิ่งนัก ข้าเดินไปมาอยู่จวนกั๋วกงทุกวันไม่มีใครสังเกตเห็นเลย แต่ข้าเดินอยู่หน้าเจ้าไม่กี่ก้าวเจ้าก็สังเกตเห็นแล้ว เช่นนั้นก็ดี ได้ยินมาว่าทักษะการรักษาของเจ้าดีเยี่ยม ข้าจะรอดู"

หยุนชางส่งกั๋วกงฮูหยินกลับไปที่ลานข้างๆ และดูสาวใช้เก็บของให้นางเป็นเพื่อนนาง หยุนชางสั่งให้คนใช้ไปเตรียมรถม้า และให้คนใช้วางเบาะขนสุนัขจิ้งจอกหนาๆไว้บนเก้าอี้รถม้า จากนั้นก็ให้คนใช้นำเตาถ่านไปใส่ในรถม้าให้รถม้าอุ่นขึ้นมาก่อน

กั๋วกงฮูหยินมองดูหยุนชางออกคำสั่งอยู่ข้างๆ เมื่อเห็นสีหน้าท่าทีที่ตั้งใจของนางแล้ว นางจึงอมยิ้มขึ้นมา

เนื่องจากมีคนจำนวนมากจ้องมองอยู่ข้างนอก หยุนชางจึงส่งกั๋วกงฮูหยินถึงแค่หน้าบ้าน จากนั้นตนก็กลับเข้าลานบ้านไป ทันทีที่ก้าวเข้ามาในลานบ้านก็พบว่าพ่อบ้านกำลังเดินไปมาอยู่ในห้อง ราวกับว่ากำลังรอนางอยู่

"พ่อบ้านมีเรื่องกระไรหรือ?" หยุนชางเดินผ่านพ่อบ้านแล้วเข้าไปในห้อง แล้วยื่นเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอกให้เฉี่ยนจั๋ว จากนั้นก็เดินไปนั่งที่เบาะนุ่ม แล้วยิ้มแก้วชาขึ้นมาอุ่นมือ แล้วจึงเงยหน้ามองไปที่พ่อบ้าน

พ่อบ้านรีบกล่าวว่า "ข้าน้อยสั่งคนไปตามขอทานน้อยแล้วขอรับ และจ้างช่างวาดแล้วขอรับ เพียงแต่ว่าขอทานน้อยจำรูปลักษณ์ของผู้หญิงคนนั้นไม่ค่อยได้ขอรับ ไม่ว่าช่างวาดจะถามอย่างไร เขาก็นึกไม่ออกขอรับ หม่อมฉันเกรงว่าวิธีนี้คงไม่ได้ผลขอรับ"

หยุนชางพยักหน้า ซึ่งเหตุการณ์นี้อยู่ในความคาดเดาของนาง ฉะนั้นนางจึงมิได้หวังกระไรมากนัก

"เช่นนั้นมิต้องถามแล้ว บอกกับขอทานน้อยนั่นว่า หากว่าพบผู้หญิงคนนั้นก็ให้มาบอกพวกเรา ตอนนี้ปล่อยเขากลับไปเถิด" หยุนชางก้มหน้าลงแล้วปาดฟองที่อยู่ให้แก้วออกอย่างบรรจง และกล่าวด้วยเสียงเบา

พ่อบ้านพยักหน้าและกำลังจะถอยออกไป หยุนชางพูดขึ้นมาอีกว่า "อีกเรื่องหนึ่ง เจ้าส่งคนไปสืบมาว่าวันที่หลิ่วฮูหยินมาจวนเรา ท่านไปที่ใดมาบ้าง แล้วพบใครมาบ้าง"

พ่อบ้านตอบอย่างรวดเร็ว หยุนชางเงยหน้าขึ้นมองดูพ่อบ้าน ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เหมือนว่าไม่มีเรื่องกระไรต้องสั่งการแล้ว จึงโบกมือให้เขาถอยออกไป

เสิ่นซู่เฟย? ชื่อนี้ไม่ได้ยินมานานแล้ว หยุนชางขมวดคิ้วแล้วพูดพร้อมยิ้มว่า "ใครกันที่ยังเห็นแก่ความสัมพันธ์ที่เคยมีต่อนาง เสิ่นซู่เฟยเข้าตำหนักเย็นมานานเช่นนี้แล้ว ไม่คาดคิดว่าจะยังมีคนคิดถึงนางอยู่"

เฉี่ยนอินส่ายหัว "ช่วงที่ผ่านมานี้พระราชวังได้มีการคุ้มกันที่แน่นหนา ข่าวนี้คุณพี่เฉี่ยนเฉี่ยนเป็นคนส่งมาเพคะ คุณพี่เฉี่ยนเฉี่ยนกล่าวว่าคนที่มาเยี่ยมนางปิดหน้าเอาไว้ เขามีวิชาตัวเบาที่ยอดเยี่ยมมาก สายลับตามไปไม่ทันเพคะ แต่ดูเหมือนว่าคนคนนั้นจะคุ้นเคยกับพระราชวังอย่างมาก ฉะนั้นอาจจะเป็นคนในวังเพคะ"

หยุนชางยิ้มมุมปากและกล่าวเบาๆว่า " ถ้าเป็นจิ้งจอกจริงๆ สักวันเราก็จะเห็นหางมันเอง เฝ้าดูต่อไป ตอนนี้เราไม่มีเวลาไปสืบว่าคนที่มาเยี่ยมเสิ่นซู่เฟยคือใคร"

หลังจากพูดจบ นางก็จิบชาและเงยหน้าขึ้นมองไปที่เฉี่ยนอิน " ว่าแต่ หลิ่วฮูหยินเสียชีวิตไปกี่วันแล้วหรือ? ได้จัดขบวนแห่ศพรึยัง?"

เฉี่ยนอินเอียงศีรษะและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตอบว่า "ห้าวันแล้วเพคะ ยังไม่เสร็จสิ้นเพคะ ได้ข่าวว่าทางแคว้นเซี่ยมักจะจัดขึ้นหลังเสียชีวิตเจ็ดวันเพคะ"

"เช่นนั้นก็คงเป็นมะรืนนี้" หยุนชางพึมพำ

เฉี่ยนอินได้ยินเช่นนี้จึงรีบถาม "พระชายาคิดจะทำกระไรเพคะ? ตอนนี้พระชายาตั้งครรภ์อยู่ อย่าได้ไปดูขบวนแห่ศพนั่นเลย ไม่เป็นสิริมงคลเพคะ ไม่ว่างอย่างไรตอนนี้คนทั้งเมืองจิ่นทราบแล้วว่าภาวะครรภ์ของพระชายาไม่คงที่เท่าไหร่นัก และต้องพักผ่อนให้ดี หากว่าคนของตระกูลหลิ่วเชิญท่าน ก็ใช้เหตุผลนี้เป็นข้ออ้างนี้การปฏิเสธพวกเขาไปเถิด"

ได้ยินเช่นนี้หยุนชางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา "ไม่เป็นมงคลกระไรกัน อีกทั้งข้ายังมิได้บอกเลยว่าข้าจะไป ข้าแค่ถามไปเท่านั้น ก่อนหน้านี้ท่านยายกล่าวแล้วว่า ไปหาสาวใช้ของนางมาแล้วถามเรื่องของหลิ่วฮูหยินได้ ข้าคิดว่าวันแห่ขบวนศพคงวุ่นวายอย่างมาก ข้าจึงคิดว่าจะสามารถส่งคนไปพาตัวสาวใช้ที่รับใช้หลิ่วฮูหยินออกมาได้หรือไม่?"

เฉี่ยนอินรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยเมื่อหยุนชางกล่าวเช่นนี้ นางจึงกล่าวอย่างรวดเร็วว่า "หม่อมฉันจะไปจัดการประเดี๋ยวนี้เพคะ ว่าแต่ หม่อมฉันอยู่นอกจวนเคยได้ยินข่าวลือของชาวบ้านเรื่องสาเหตุการเสียชีวิตของหลิ่วฮูหยินมาเพคะ เขาลือกันว่าสองสามวันก่อนที่หลิ่วฮูหยินจะเสียชีวิต หลิ่วซือถูเคยทะเลาะกับหลิ่วฮูหยินเพคะ และการทะเลาะครั้งนั้นแทบจะทำให้หลิ่วฮูหยินโกรธจนเกือบจะเป็นลมไปเพคะ"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง