เมื่อหยุนชางได้ยินคำพูดแบบเด็กๆ ของเขาก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ "ยังเร็วไปนัก จะโตเร็วขนาดนั้นได้อย่างไร"
"ท่านแม่บอกว่าทารกจะโตสิบเดือนแล้วจะกระโดดออกมา" เด็กชายตัวน้อยอีกคนที่ตามหลังของเหยียนเอ๋อร์มาพูดด้วยท่าทางราวกับอาจารย์น้อย
เหยียนเอ๋อร์หันไปเหลือบมองเขา "หมิงเอ๋อร์ สิ่งที่เจ้าพูดเป็นความจริงหรือ? ทำไมท่านแม่ไม่เคยบอกข้า สิบเดือนนั้นนานเท่าไหร่กัน?" เขาพูดพลางหันกลับมาเอาหน้าซบเข่าหยุนชางและเงยหน้ามอง "ท่านอา สิบเดือนนานหรือไม่?"
หยุนชางยิ้มน้อยๆ "สิบเดือนหรือ รอให้วันอากาศร้อนเช่นนี้ผ่านไป เจ้าจับจิ้งหรีดและจักจั่น หลังจากผ่านสารทฤดูที่มีน้ำผึ้งหอมหวานและขนมกุ้ยฮวาแล้ว เจ้าก็จะได้เจอน้องชายน้องสาวแล้ว"
"หา? นานขนาดนั้นเลยหรือ?" เหยียนเอ๋อร์มุ่ยปากราวกับไม่ยินดีนักแล้วจึงเดินกลับไปหาเสิ่นอี๋หลานอย่างเศร้าสร้อย
หมิงเอ๋อร์เดินตามหลังเขามาพลางพึมพำ "หนึ่งเดือนมีสิบวัน สิบเดือนก็เป็นสามร้อยวัน เจ้านับเลขทุกวัน นับถึงสามร้อยเมื่อไหร่นั่นก็คือสิบเดือน"
หยุนชางได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง "หมิงเอ๋อร์ฉลาดจริงๆ"
การอวยพรปีใหม่นั้นไม่ใช่เพียงการทำพอเป็นพิธีไปเท่านั้น วันหนึ่งต้องไปเยือนหลายจวน คนจากจวนฮวาเมื่อมาอวยพรปีใหม่ให้หยุนชางแล้วและนั่งคุยกันครู่หนึ่งก็จากไป
หยุนชางให้พ่อบ้านไปส่งพวกเขาแล้วจึงหันไปยิ้มให้ลั่วชิงเหยียน "เหยียนเอ๋อร์ร่าเริง หมิงเอ๋อร์คงแก่เรียน ไม่เลวเลย เด็กทั้งสองช่างตลกดีเสียจริง"
เมื่อครู่ฮวาอวี้ถงก็สนทนากับคนสกุลฮวาอยู่ครู่หนึ่ง นางดูราวกับจะเพิ่งกลับมาจากบทสนทนาเมื่อครู่ นางพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ลูกของพระชายาจะต้องโดดเด่นมากแน่"
หยุนชางยกมือขึ้นลูบท้องที่ยังไม่นูนขึ้นมาแล้วยิ้มว่า "ดูลูกๆ ของบ้านอื่นบ้างก็ร่าเริงบ้างก็ฉลาด แต่สำหรับลูกๆ ข้านั้น ข้าไม่ขอเรียกร้องอะไรมาก ขอเพียงเขาปลอดภัยและมีความสุขก็พอ"
เพราะฐานะของรุ่ยอ๋องนับว่าสูงส่งในราชสำนักจึงมีขุนนางมากมายถือรุ่ยอ๋องเป็นบุคคลที่ต้องมากล่าวอวยพรในอันดับต้นๆ ตั้งแต่คนของจวนฮวาจากไปก็มีคนเข้ามาอวยพรอย่างต่อเนื่อง
เมื่อถึงยามใกล้เที่ยงก็สงบลงเล็กน้อย หยุนชางรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยจึงยืนขึ้นและพูดกับพ่อบ้านว่า "ให้คนอื่นเตรียมอาหารกลางวันเถอะ ข้าเหนื่อยเล็กน้อย ไปถามคุณชายหลิ่วและใต้เท้าหลี่เสียหน่อยว่าสืบสาวเรื่องราวไปถึงไหนแล้ว หลังอาหารข้าอยากจะไปงีบสักหน่อย"
ลั่วชิงเหยียนพยักหน้าเบาๆ และสั่งให้พ่อบ้านไปหาหลิ่วหยินเฟิงและหลี่เฉี่ยนโม่
หลังจากนั้นไม่นานหลี่เฉี่ยนโม่และหลิ่วหยินเฟิงก็เข้าในห้องโถงรับรองกับคู่สามีภรรยาสกุลหลิ่ว คู่สามีภรรยาสกุลหลิ่วทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ในขณะที่หลิ่วหยินเฟิงและหลี่เฉี่ยนโม่กลับดูสงบมาก
หยุนชางยิ้มสั่งให้ข้ารับใช้รินน้ำชาให้ทั้งสี่คน จากนั้นจึงเอ่ยพูดแผ่วเบา "ทั้งสี่เข้ามาตรวจดูในจวนกว่าครึ่งวันแล้ว พบอะไรหรือไม่?"
หยุนชางยืนขึ้นพลางยิ้มและกล่าวว่า "เดิมทีพวกเจ้าต้องการตรวจค้นจวนรุ่ยอ๋อง ข้าและท่านอ๋องสามารถปฏิเสธได้โดยตรง แม้ว่าจะเป็นกรมอาญา จวนรุ่ยอ๋องก็ไม่ใช่ที่ที่พวกเจ้าอยากจะค้นก็ค้นได้ ทว่าข้าคิดว่าวันปีใหม่นี้หากเกิดเรื่องที่ไม่น่ายินดีก็คงจะไม่ดีและข้าก็ไม่ต้องการไปรบกวนฝ่าบาท แม้ว่าคำขอของพวกเจ้าจะหยาบคาย แต่ข้าก็เข้าใจได้ว่าคนของพวกเจ้าประสบพบเจอเรื่องเช่นนั้นย่อมร้อนใจ ตอนนี้จวนก็ค้นเสร็จแล้ว อวยพรก็อวยเสร็จแล้ว พวกเจ้ายังมีเรื่องอะไรอีกหรือไม่?"
สีหน้าขององค์ชายเจ็ดและจนจากจวนหลิ่ววทั้งสองต่างก็ไม่สู้ดีนักและเพียงยืนขึ้นเงียบๆ "รบกวนท่านแล้ว ขอตัว"
"พ่อบ้าน ส่งแขกแทนข้ากับท่านอ๋องด้วย" หยุนชางกล่าวขึ้นด้วยเสียงอันดัง
ก่อนที่ทุกคนจะเดินออกจากห้องโถงไป หยุนชางก็หันไปพูดกับลั่วชิงเหยียน "นั่งอยู่นานเช่นนี้ ข้าง่วงเสียแล้ว... "
ลั่วชิงเหยียนยิ้มและยืนขึ้น "ถ้าอย่างนั้นก็กลับไปงีบที่ห้องสักครู่เถอะ ถ้ามีใครมาอวยพรปีใหม่ก็ให้พ่อบ้านรับรองไว้ก็แล้วกัน" จากนั้นเขาก็ช่วยพยุงหยุนชางเดินกลับห้องไป
เมื่อเข้าไปในห้องแล้วหยุนชางก็นั่งลงบนเบาะและยิ้มเย็น "วันนี้อ๋องเจ็ดจะรังแกกันเกินไปแล้ว วันมงคลปีใหม่เช่นนี้กลับนำความอัปมงคลมาให้"
ลั่วชิงเหยียนยิ้มและเดินไปนั่งลงข้างนางพลางปลอบอย่างแผ่วเบา "เรื่องนี้ต้องโทษที่เราไม่รอบคอบ ไปขวางทางพวกเขาเข้าจึงได้อาศัยช่องโหว่มาเล่นงาน"
หยุนชางพยักหน้าและถอนหายใจเบาๆ "มีกับดักและอันตรายอยู่ทุกหนทุกแห่งจริงๆ หากไม่ระวังอาจไม่มีชีวิตอีก จะประมาทไม่ได้เลย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง
ทำไมถึงอ่านบทที่ 18 และอื่นๆต่อไปไม่ได้...