ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 672

"เฮอะ" ลั่วชิงเหยียนแค่นเสียงเย็น ใบหน้ามีรอยยิ้มบางๆ "สวามิภักดิ์ต่อข้า มิน่าล่ะ แม้ว่าหลี่เฉี่ยนโม่จะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้า แต่ปกติเขามักไม่กล้าติดต่อเจ้านัก ยามปกติก็มักจะปฏิบัติเฉกเช่นคนธรรมดา แต่วันนี้กลับเข้ามาทักทาย แม้ว่าเสิ่นซู่เฟยเห็นแล้วก็ต้องคิดว่าเขาก็แค่ทำตามคำสั่งของนางเท่านั้น"

"เสิ่นซู่เฟยไม่มีทางให้หลี่เฉี่ยนโม่ทำเช่นนี้โดยไร้สาเหตุ นางต้องมีจุดประสงค์บางอย่างแน่" หยุนชางมองลั่วชิงเหยียนอย่างครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วจึงกล่าวว่า "ไม่สู้พรุ่งนี้ท่านอ๋องเชิญหลี่เฉี่ยนโม่มาที่จวนเถอะเพคะ ที่ของพวกเราเองย่อมควบคุมง่ายขึ้นอีกหน่อย"

แต่ลั่วชิงเหยียนกลับส่ายหัวและยิ้มกว้าง "ข้านิสัยอย่างไรชางเอ๋อร์ยังไม่รู้อีกหรือ? หากข้าเชิญหลี่เฉี่ยนโม่เข้าจวนรวดเร็วเช่นนี้กลับจะกลายเป็นที่น่าสงสัย"

หยุนชางครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วจึงพยักหน้า เรื่องนี้นางปล่อยให้ลั่วชิงเหยียนจัดการเอาเองเสียจะดีกว่า หากเสิ่นซู่เฟยสั่งการคืบหน้าไปอีกขั้น หลี่เฉี่ยนโม่ย่อมต้องมารายงานให้นางรู้อย่างแน่นอน

เมื่อกลับมาถึงจวนรุ่ยอ๋องแล้ว หยุนชางก็ไปยังห้องที่เซียวหย่วนซานพักอาศัยอยู่ก่อนเพื่อทักทายเขาแล้วจึงกลับห้องของตนเอง

ฉินยีรออยู่ที่ห้อง เมื่อหยุนชางเข้าไปนางก็ยิ้มและเอ่ยว่า "พระชายาไปเที่ยวมาสนุกไหมเพคะ?"

หยุนชางยิ้มบางๆ และตอบว่า "ที่นานั้นโล่งกว้างดี ทั้งอากาศและบริเวณโดยรอบก็ดีกว่าในเมืองจิ่นมากนัก พอข้าเข้าเมืองมาก็รู้สึกว่ารอบกายถูกล้อมไปด้วยกำแพงอย่างไรอย่างนั้น"

ฉินยีจึงหัวเราะออกมา จากนั้นจึงยิ้มกว้างและพูดว่า "พระชายาไม่อยู่หนึ่งวัน หม่อมฉันมีข่าวสองเรื่องมารายงานเพคะ ข่าวดีหนึ่งข่าวร้ายหนึ่ง พระชายาอยากฟังข่าวไหนก่อนเพคะ?"

หยุนชางเลิกคิ้วขึ้นพลางเดินไปที่เบาะนุ่มแล้วเอนกายลงเงยศีรษะขึ้นมองฉินยี นางยิ้มแล้วตอบว่า "เช่นนั้นก็ฟังข่าวร้ายก่อนแล้วกัน ข้าอยากรู้นักว่าตอนนี้จะมีข่าวร้ายขนาดไหนกันเชียว"

รอยยิ้มของฉินยีกว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของหยุนชาง "ข่าวร้ายก็คือเช้าวันนี้ฮวากั๋วกงมาหาท่านอ๋องและพระชายาแต่เช้า แต่เมื่อได้ยินข้ารับใช้บอกว่าท่านอ๋องและพระชายาไปที่หยวนซานจวงแล้วก็ดูเหมือนจะโมโหเล็กน้อย และบอกว่าพรุ่งนี้เมื่อพวกท่านกลับมาแล้วให้รีบไปขอรับโทษที่จวนกั๋วกงเพคะ"

ฮวากั๋วกง...

หยุนชางครุ่นคิดเล็กน้อย อีกไม่นานฮวากั๋วกงก็จะต้องออกรบแล้ว เขามาที่จวนในเวลานี้เกรงว่าคงจะมีเรื่องต้องปรึกษากับพวกเขาจริงๆ

นางพยักหน้า "นี่จะเรียกว่าเป็นข่าวร้ายได้อย่างไรกัน หากท่านอ๋องอยู่ ไม่ว่าฮวากั๋วกงจะประชันหรือประชันอย่างอื่นก็เกรงว่าจะไม่มีทางเอาเปรียบท่านอ๋องได้"

เมื่อฉินยีและเฉี่ยนจั๋วได้ยินหยุนชางเอ่ยเช่นนี้ก็อดไม่ได้ที่จะปิดปากหัวเราะคิกคัก เมื่อหัวเราะเสร็จแล้ว ฉินยีจึงได้พูดต่อ "ข่าวดีก็คือสองวันก่อนท่านซูฮูหยินได้ไปขอยาจากยอดฝีมือโรคสตรีมาหลายคนเพคะ"

"โอ้?" หยุนชางเลิกคิ้วขึ้นแล้วยิ้มตาหยี "นางได้อะไรมาหรือเปล่า?"

"เรื่องสำคัญ?" ลั่วชิงเหยียนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย "ข้ายังจำได้ว่าเกือบทุกครั้งที่เขามาถึงที่นี่ด้วยตนเองก็แค่มาหาคนเดินหมากด้วย คราวที่แล้วก็มากับเพลิงโทสะ อ้อ เพื่อมารบกับราชครูเซียวบนผังทรายจำลอง"

หยุนชางหลุดขำและไม่ต่อความเรื่องนี้กับลั่วชิงเหยียนอีก เพียงแต่เช้าตรู่วันต่อมาก็ลากเขาไปที่จวนกั๋วกง

ลั่วชิงเหยียนหน้าบึ้งมาตลอดทาง หยุนชางที่เห็นเช่นนั้นก็อดรู้สึกขบขันไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้สนใจเขา เมื่อถึงด้านนอกจวนกั๋วกง เพิ่งลงจากรถม้ากลับเห็นพ่อบ้านลนลานวิ่งออกมา ทั้งยังสั่งให้คนเฝ้าประตูเตรียมรถม้าเสียงดัง สั่งเสร็จแล้วจึงเห็นว่าลั่วชิงเหยียนกับหยุนชางก้าวลงจากรถม้ามาจึงได้หยุดเตรียมรถม้าแล้วรีบวิ่งเข้ามาหาลั่วชิงเหยียน "ท่านอ๋อง นายท่านล้มป่วย ข้าน้อยกำลังจะไปส่งข่าวที่จวนท่านอ๋องพอดีเลยขอรับ"

ฮวากั๋วกงล้มป่วย? เมื่อหยุนชางและลั่วชิงเหยียนได้ยินเช่นนั้น คิ้วของพวกเขาก็ขมวดขึ้นพร้อมกัน หยุนชางรีบกล่าวว่า "เกิดอะไรขึ้น ข้าได้ยินคนบอกว่าเมื่อวานเขายังไปที่จวนรุ่ยอ๋องอยู่เลย เหตุใดจึงล้มป่วยลงได้?"

พ่อบ้านรีบตอบ "ข้าน้อยก็ไม่รู้เช่นกัน เพิ่งรู้เมื่อเช้านี้ นายท่านมีนิสัยชอบออกกำลังกายตอนเช้า แต่เช้าวันนี้เลยยามเฉินไปแล้วนายท่านก็ยังไม่ตื่น ข้าจึงคิดว่าช่างผิดปกตินัก เคาะประตูแล้วก็ไม่มีคนตอบ ข้าจึงรีบร้อนผลักประตูเข้าไปก็เห็นว่านายท่านสีหน้าซีดเผือด นอนหลับตาแน่นราวกับกำลังเจ็บปวด ร่างกายก็เย็นเยียบ อีกทั้งชีพจรก็อ่อนแรงมาก"

หยุนชางได้ยินเช่นนั้น หัวใจของนางก็บีบแน่น นางรีบตอบพ่อบ้านว่า "รบกวนเจ้านำทางด้วย ข้าจะไปดูเสียหน่อย"

พ่อบ้านรีบรับคำและพาหยุนชางเข้าจวนกั๋วกง เมื่อเดินไปประมาณสิบหน้านาทีก็มาถึงหน้าเรือนหนึ่ง พ่อบ้านพาหยุนชางและลั่วชิงเหยียนไปที่ห้องบนชั้นสอง เปิดประตูและพูดกับหยุนชาง "เชิญขอรับ"

ในห้องนั้นเงียบฉี่ ทันทีที่หยุนชางเข้าไปก็รู้สึกเช่นนั้น มีกลิ่นไม้จันทน์จางๆ ลอยปะทะมาที่ใบหน้าของนางภายนอกควรเป็นห้องหนังสือ เครื่องเรือนในห้องเป็นสีดำสนิทให้ความรู้สึกสงบมั่นคง กลับไม่เหมือนความรู้สึกที่แผ่ออกมาจากฮวากั๋วกง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง