"ถามสิ ย่อมต้องถามอยู่แล้ว" หยุนชางให้เฉี่ยนซินพามามาอีกคนเข้ามา
มามาผู้ที่เข้ามาใหม่นี้รูปร่างอ้วนท้วมสมบูรณ์ ใบหน้ายิ้มแย้มดูท่าทางใจดี
"นี่คือหวังมามา ก่อนหน้านี้รับใช้ไทเฮาเพคะ" หนิงเชียนกล่าวเบาๆ
"โอ้... ไทเฮาหรือ?" หยุนชางนึกถึงไทเฮาผู้ใจแข็งเด็ดขาดแล้วจึงยิ้ม ผ่านไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยขึ้นอย่างเนิบนาบ "เมื่อครู่ข้าจับชีพจรให้เซียงเฟย ชีพจรลื่นของนางยังคงอ่อนนัก หนึ่งเดือนเต็มแล้วก็ยังเป็นเช่นนี้ แม้ว่าข้าจะรู้เรื่องวิชาการแพทย์มาบ้าง แต่เรื่องตั้งครรภ์ของสตรีข้ากลับไม่มีประสบการณ์เลย หวังมามารู้หรือไม่ว่านี่อาจเป็นเพราะเหตุใด?"
เมื่อหวังมามาได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มขึ้น "หากหมอหลวงบอกว่าไม่มีอะไรร้ายแรง เซียงเฟยก็ไม่ต้องกังวลไป ผู้หญิงทุกคนมีร่างกายที่แตกต่างกัน ชีพจรก็อาจจะแตกต่างกันเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ยามมีระดูเซียงเฟยรู้สึกปวดท้องหรือไม่?"
หนิงเชียนไม่เข้าใจว่าทำไมหยุนชางจึงได้ถามเช่นนี้ เมื่อกำลังจะตอบก็ได้ยินเสียงของหลิวเหวินอันดังมาจากข้างนอก "เซียงเฟยเหนียงเหนียง หม่อมฉันเอาหยกแขวนมาให้พ่ะย่ะค่ะ"
หนิงเชียนขมวดคิ้วและมองออกไปนอกตำหนัก ข้างนอกยังมีมามารออยู่อีกสองคนและยังมีนางกำนัลคอยเฝ้าอยู่อีกมาก เหตุใดเมื่อหลิวเหวินอันมาแล้วกลับไม่มีคนรายงาน
ดูเหมือนหยุนชางจะไม่ได้แปลกใจมากนัก นางตบหลังมือของหนิงเชียนเบา หนิงเชียนจึงได้กลับมารู้สึกตัวและพูดกับนางกำนัลด้านข้างว่า "ยังไม่รีบเปิดประตูและให้เขาเข้ามาอีก"
นางกำนัลจึงรีบเปิดประตู หลิวเหวินอันเดินเข้ามา เขากวาดตามองในห้องเรียบๆ จากนั้นก็ยิ้มให้หนิงเชียนและหยุนชางแล้วจึงนำหยกแขวนคืนนาง
หนิงเชียนรับมาพร้อมรอยยิ้มกว้าง "ขอบใจเจ้ามาก เมื่อครู่หลังจากที่ข้ากลับตำหนักมาแล้ว นางกำนัลก็บอกข้าว่ามีรายงานด่วนจากชายแดน ฝ่าบาทกลับตำหนักไท่จี๋ไปแล้ว"
หลิวเหวินอันพยักหน้า "เช่นนั้นหม่อมฉันทูลลาพ่ะย่ะค่ะ"
หนิงเชียนพยักหน้าและให้เฉี่ยนซินไปส่งหลิวเหวินอันที่ประตูตำหนักไป หยุนชางหัวเราะเล็กน้อย "ในเมื่อหลี่มามาและหวังมามาต่างก็บอกว่าไม่มีอะไรร้ายแรง เช่นนั้นก็คงเป็นเรื่องจริง เจ้าก็ไม่ต้องกังวลมากเกินไป"
หนิงเชียนอึ้งไปแล้วจึงหัวเราะขึ้น นางเหลือบมองหวังมามาและหันไปหาหยุนชาง "ดูแล้วคงเป็นข้าที่ตื่นตูมไปเอง"
หยุนชางยิ้มและยืนขึ้น "นี่ก็ดึกแล้ว ประตูวังกำลังจะปิด ข้าจะกลับจวนก่อน"
หนิงเชียนมองดูหวังมามาที่ยืนอยู่ข้างๆ และไม่ลุกขึ้นส่ง นางเพียงมองหยุนชางออกจากประตูตำหนักไปเท่านั้น สาวใช้ถือร่มให้หยุนชางเดินออกไปแล้วจึงทำสีหน้าเย็นชาและกล่าวว่า "เรียกนางกำนัลมาทั้งหมด"
ฝนที่ตกอยู่ข้างนอกไม่ได้ตกสักเท่าไหร่แล้ว เพียงแต่ยังมีลม เดินด้วยร่มค่อนข้างจะไม่สะดวกนัก หยุนชางสั่งให้สาวใช้เก็บร่มและสวมเสื้อคลุม ก้าวช้าๆ ไปยังประตูวัง
รถม้าของจวนรุ่ยอ๋องจอดรออยู่ที่หน้าประตูวังอย่างเงียบๆ ฉินยีและเฉี่ยนจั๋วเปิดประตูรถและช่วยหยุนชางขึ้นรถม้า เมื่อนางกำลังจะขึ้นรถก็เห็นประตูรถม้าปิดลงอย่างแรง
สาวใช้ตกใจทันที เมื่อกำลังจะลงมือก็ได้ยินเสียงของหยุนชางเอ่ยว่า "พวกเจ้าตามมาข้างๆ เถอะ" น้ำเสียงของนางแฝงแววจนปัญญา แต่กลับฟังดูยินดีอย่างปิดไม่มิด
เมื่อลั่วชิงเหยียนได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะขึ้นช้าๆ "ดี เจ้าบอกวิธีของเจ้ามา ข้าจะดูว่าทำได้หรือไม่"
ได้ยินเช่นนั้นหยุนชางก็ลุกขึ้นนั่งตัวตรง นางบอกแผนการของนางแก่เขาทั้งหมด ลั่วชิงเหยียนฟังอย่างเงียบๆ บนรถม้ามีเพียงเสียงนุ่มนวลของหยุนชาง...
วันต่อมาเป็นวันพระราชพิธีหมื่นพรรษา ตรุษจีนเพิ่งผ่านพ้นไป ในเมืองกลับคึกคักไปด้วยเสียงร้องรำทำเพลงอีกครั้ง เซียวหย่วนซานเข้าวังแต่เช้า ตามธรรมเนียมแล้ว ในยามอู่ของวันนี้เซี่ยหวนอวี่จะจัดงานเลี้ยงในตำหนักไท่จี๋ หยุนซางเป็นสตรีจึงไม่ต้องไปร่วมงานเลี้ยงนั้น เพียงแต่งานเลี้ยงในตอนเย็นนางจะต้องไปเข้าร่วมเสียหน่อย ลั่วชิงเหยียนใช้ข้ออ้างที่เขาถูกพิษหมดสติยังไม่ฟื้นจึงไม่ต้องไปร่วมงาน
มีเสียงประทัดดังขึ้นจากถนนด้านนอก หยุนชางสั่งให้ฉินยีปิดหน้าต่างจึงได้เงียบลง
เฉี่ยนจั๋วแหวกม่านประตูเข้ามา นางขมวดคิ้วแล้วพูดว่า "เหตุใดจึงรู้สึกว่าหูตาด้านนอกจวนนั้นเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย"
หยุนชางกำลังเดินหมากกับลั่วชิงเหยียน เมื่อนางได้ยินเช่นนั้นมือที่ถือตัวหมากก็ชะงักไปเล็กน้อย นางเงยหน้าขึ้นมองเฉี่ยนจั๋วแล้วถึงเอ่ยถามเบาๆ "เพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่หรือ?"
"น่าจะสักสี่สิบห้าสิบคนได้ราวกับล้อมจวนไว้แล้ว" เฉี่ยนจั๋วตอบเบาๆ
หยุนชางพยักหน้าเบาๆ และวางหมากลง "เจ้าอาศัยโอกาสนี้ส่งสายลับสองสามคนไปที่แคว้นหนิงดูว่าเสด็จแม่ของข้ายังปลอดภัยดีหรือไม่ จากนั้นให้กลับมารายงานข้า"
เฉี่ยนจั๋วขมวดคิ้ว เมื่อวานตอนอยู่ในวังพระชายาบอกว่าจิ่นกุ้ยเฟยจะไม่เป็นอะไร แต่นางก็เพียงเก็บความสงสัยไว้ในใจพลางรีบรับคำหันหลังออกจากประตูไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง
ทำไมถึงอ่านบทที่ 18 และอื่นๆต่อไปไม่ได้...