หยุนชางมองออกไปนอกตำหนัก ท้องฟ้าหลังฝนเป็นสีครามสดใส หลังจากเงียบไปนาน หยุนชางก็เอ่ยถามอย่างแผ่วเบา "มีคนเห็นว่าเฉี่ยนจั๋วเปิดประตูและฆ่าผู้คุมห้องขังเพื่อหนีกับตาหรือไม่?"
ฉีรุ่ยไห่ตกตะลึงและส่ายหัว "ไม่พ่ะย่ะค่ะ"
หยุนชางถอนสายตากลับมา "ดังนั้นที่ขันทีฉีกล่าวกับข้าล้วนเป็นเพียงการคาดเดาสุ่มสี่สุ่มห้าเท่านั้นหรือ? เหตุใดจึงไม่คาดเดาไปว่าคนร้ายที่สังหารหลิวเกิงยีฆ่าผู้คุมห้องขังและจับเฉี่ยนจั๋วออกจากคุกเพื่อสร้างสถานการณ์ว่าเฉี่ยนจั๋วกลัวความผิดจึงได้หนีเอาตัวรอดไปเล่า?"
ฉีรุ่ยไห่ตกตะลึงและไม่อาจหาคำพูดมาหักล้างหยุนชางได้จึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำหน้าบูดบึ้ง
หยุนชางเหลือบมองฉีรุ่ยไห่ก่อนที่จะลุกขึ้นยืน "ไม่สู้ขันทีฉีพาข้าไปดูที่คุกเสียหน่อยเพื่อดูว่ามีเบาะแสใดหลงเหลืออยู่บ้าง"
ฉีรุ่ยไห่ลังเลเล็กน้อย หยุนชางจึงทำหน้าบึ้ง "อ้อ ข้าลืมไปว่าเรื่องของหลิวเกิงยี ข้าก็น่าสงสัยเช่นกัน ขันทีฉีจึงให้ข้าไปไม่ได้ เช่นนั้นข้าไปขอร้องฝ่าบาทแล้วค่อยไปดีไหม?"
ฉีรุ่ยไห่ลนลานส่ายหัวและพูดว่า "ไม่ต้องพ่ะย่ะค่ะไม่ต้อง หากพระชายาต้องการดูก็ไปดูได้ทุกเมื่อ เพียงแต่หม่อมฉันเห็นว่าท่านกำลังตั้งครรภ์ไปที่นั่นเกรงว่าจะไม่เหมาะนัก"
หยุนชางไม่สนใจเขาและเดินออกไป
สถานที่ตั้งของกรมวังอยู่ที่ทางทิศตะวันตกของเขตพระราชฐานชั้นใน ฉีรุ่ยไห่นำหยุนชางตรงเข้าไปผ่านโถงชั้นนอก ผ่านลาน และผ่านห้องไปอีกสองสามห้องที่มีบันไดที่นำไปยังชั้นล่างซึ่งน่าจะเป็นห้องใต้ดิน
"ด้านนอกเห็นมีรอยเท้าหรือไม่?" หยุนชางถามเบาๆ
ฉีรุ่ยไห่ส่ายหัวและถอนหายใจเบาๆ "เมื่อคืนฝนตกทั้งคืน ทุกอย่างถูกชะล้างไปจนสิ้น จะมีรอยเท้าที่ไหนเหลือเล่าพ่ะย่ะค่ะ"
หยุนชางพยักหน้าเบาๆ และก้าวลงบันไดไป คบเพลิงสว่างไสว นางเห็นข้างในดูเหมือนห้องสอบปากคำ รอบด้วยมีเครื่องมือทรมานต่างๆ และยังมีโต๊ะและเก้าอี้สองตัว
เมื่อฉีรุ่ยไห่เห็นหยุนชางมองดูเครื่องมือทรมานเหล่านั้น เขาก็รีบพูดขึ้นว่า "หม่อมฉันไม่เคยทรมานแม่นางเฉี่ยนจั๋วแม้แต่น้อยพ่ะย่ะค่ะ"
หยุนชางพยักหน้าโดยไม่เอ่ยอะไร
ฉีรุ่ยไห่จึงพาหยุนชางเดินเข้าไปข้างใน สองด้านเป็นห้องขัง แต่ห้องเหล่านั้นล้วนว่างเปล่า ยังมีซากศพอยู่อีกสองสามศพอยู่บนทางเดินซึ่งพวกเขาน่าจะทำการคงสภาพสถานที่เกิดเหหตุไว้จึงไม่ได้ทำความสะอาด
หยุนชางนั่งยองลงเพื่อตรวจดูอย่างละเอียด มีผู้เสียชีวิตทั้งหมดสี่รายล้วนถูกของมีคมสังหาร บาดแผลของสองคนอยู่ที่ด้านหน้า อีกสองคนอยู่ที่ด้านหลัง ฟันครั้งเดียวถึงชีวิต
หยุนชางยืนขึ้นอย่างเงียบๆ และตามฉีรุ่ยไห่ไปหยุดอยู่ที่ห้องขังหนึ่ง "นี่คือห้องขังของแม่นางเฉี่ยนจั๋วพ่ะย่ะค่ะ"
ห้องนี้สะอาดกว่ามากและพื้นก็แห้งสนิท บนพื้นยังมีฟางแห้งและผ้าห่มวางอยู่ หยุนชางเห็นว่าฟางที่แต่เดิมกระจุกอยู่ที่มุมหนึ่งกระจัดกระจายอยู่บนพื้น
กุญแจถูกฟันออกอย่างไม่ต้องสงสัย อีกทั้งหน้าตัดยังเรียบร้อย
หยุนชางกวาดตามองสุ่มๆ แล้วจึงพูดว่า "เอาล่ะ ข้าดูเสร็จแล้ว จะกลับตำหนักเฉาเซี่ยก่อนล่ะ"
ฉีรุ่ยไห่ตกตะลึงและมองหยุนชางด้วยความประหลาดใจ "พระชายาพบเบาะแสอะไรหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?"
หยุนชางพยักหน้าเบาๆ เมื่อเห็นว่าฉีรุ่ยไห่จ้องมองมาที่นางก็พูดว่า "แต่ตอนนี้ข้ายังไม่ต้องการบอกเจ้าว่าข้าพบอะไร เจ้าสืบสวนก่อนเถอะแล้วค่อยนำผลมาบอกข้า"
ฉีรุ่ยไห่ยิ่งตะลึงงันยืนนิ่งมองดูหยุนชางเดินออกจากห้องขังไป จากนั้นจึงได้สติขึ้น ดวงตาของเขาเป็นประกายแล้วเขาจึงรีบปกปิดประกายนั้น เขาขมวดคิ้วมองศพสี่ศพบนพื้น "นำออกไปไว้ที่ห้องเก็บศพ"
ฉินยีพยักหน้าและเก็บขลุ่ยไป นางลุกขึ้นเกล้ามวยนางอัปสรให้หยุนชางและปักดอกไม้สีอ่อนสองสามดอกลงไปแล้วจึงปักปิ่นหยกขาวลง
หยุนชางยืนขึ้นแล้วจึงเดินออกจากตำหนักชั้นใน นางยิ้มและพูดกับหลิวเหินอันว่า "ให้เจ้าต้องรอนานแล้ว ข้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไปกันเถอะ"
หลิวเหวินอันพยักหน้าแล้วจึงนำหยุนชางไปยังตำหนักหารือ
"พระชายาเข้าวังมาสองวันแล้ว นอนหลับสบายหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?" หลิวเหวินอันเดินนำหน้าหยุนชางอยู่หนึ่งก้าวและถามนางเบาๆ "หากเตียงและผ้าห่มมีสิ่งใดที่ทำให้พระชายาไม่ถูกใจก็สั่งมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ"
หยุนชางยิ้มบางๆ ด้วยสีหน้าหม่นหมอง "ทุกอย่างในตำหนักเรียบร้อยดี ไม่มีอะไรที่ข้าไม่ถูกใจหรอก ไฉ่ยีที่ขันทีหลิวส่งมาให้ก็น่าพอใจและเป็นการเป็นงาน เพียงแต่เป็นเพราะเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานั้นทำให้ข้านอนไม่ค่อยหลับนัก"
หลิวเหวินอันได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวปลอบใจนาง "รุ่ยอ๋องเป็นคนดี สวรรค์ย่อมคุ้มครอง ต้องไม่เป็นไรแน่พ่ะย่ะค่ะ"
ไม่รู้ว่ามีกี่คนแล้วที่พูดกับนางแบบนี้ หยุนชางเพียงยิ้มน้อยๆ ให้เขาและกล่าวขอบคุณ "ขอบใจ"
หลิวเหวินอันยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาพาหยุนชางมุ่งหน้ายังตำหนักหารือ
ในตำหนักนั้นนอกจากเซี่ยหวนอวี้แล้วยังมีซูฉีและหลี่เฉี่ยนโม หยุนชางรีบย่อกายคำนับเซี่ยหวนอวี่ เซี่ยหวนอวี่โบกมืออย่างไม่ใส่ใจในห้องยืนขึ้น
เมื่อหยุนชางยืนขึ้นแล้ว เซี่ยหวนอวี่ก็ยื่นของในมือให้นาง หยุนชางตะลึงไปเล็กน้อยแล้วจึงเห็นว่าบนกระดาษนั้นเป็นลายมือที่นางคุ้นเคยเป็นที่สุด ตัวอักษรสีแดงสด หยุนชางยกกระดาษนั้นขึ้นมาดมก็ได้กลิ่นคาวเลือดเล็กน้อย ในใจจึงรู้สึกเจ็บปวด ครู่ใหญ่จึงได้มองอักษรนั้น อาจเป็นเพราะความเร่งรีบทำให้ลายมือค่อนข้างหวัด บนนั้นเขียนไว้ว่าชางเจียชิงซู ตะวันออกเฉียงใต้...
หลังจากคำว่าตะวันออกเฉียงใต้ก็ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างที่ยังไม่ได้เขียนและรอยคราบเลือดที่เปื้อนจนน่ากลัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง
ทำไมถึงอ่านบทที่ 18 และอื่นๆต่อไปไม่ได้...