ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 776

อากาศในเดือนหกร้อนอบอ้าวเล็กน้อย หยุนชางจึงสวมเพียงชุดบางๆ อ่านหนังสืออยู่บนเบาะ รออากาศเย็นลงอีกเล็กน้อยจึงไปอาบน้ำและนอนลง

ราตรีค่อยๆ คืบคลานเข้ามา ช่วงนี้หยุนชางยิ่งง่วงเหงาหาวนอนยิ่งกว่าแต่ก่อน เมื่อเอนกายลงบนเตียงแล้วไม่นานก็หลับไป

"ตึง ตึง ตึง ตึง!" เสียงตีบอกเวลาดังขึ้นสี่ครั้ง ในจวนกลับมีเสียงกรีดร้องดังขึ้น เฉี่ยนจั๋วได้สติเป็นคนแรก นางเด้งตัวลุกขึ้นจากที่นอนทันที จากนั้นจึงเห็นว่าในห้องสว่างขึ้น น่าจะเป็นสายลับในจวนที่จุดคบเพลิงขึ้นมา หากสายลับมักจะทำเช่นนี้ยามเมื่อเกิดเรื่องขึ้น

เฉี่ยนจั๋วรีบลุกขึ้น นางเดินไปจุดไฟที่โต๊ะ เพิ่งจุดไฟก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอก "พระชายา พระชายา..."

" รอเดี๋ยว" เฉี่ยนจั๋วรีบเดินไปเลิกผ้าม่านที่เตียงขึ้นแล้วจึงปลุกหยุนชางเบาๆ "พระชายา พระชายา..."

หยุนชางลืมตาอย่างสะลึมสะลือ ดวงตาฉายแววงุนงง "หือ?"

เฉี่ยนจั๋วรีบบอกว่า "พระชายา เกิดเรื่องขึ้นแล้วเพคะ สายลับมาหาพระชายา..."

"เกิดเรื่อง?" แม้ว่าจะเพิ่งตื่น เพียงได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้นนางก็ได้สติขึ้นอย่างรวดเร็ว นางรีบลุกขึ้นนั่งพลางนวดขมับและเอ่ยถามเบาๆ "เกิดอะไรขึ้น?"

"หม่อมฉันก็ไม่รู้เพคะ เพียงแต่เมื่อครู่ได้ยินเสียงกรีดร้องก็เห็นว่าไฟในลานสว่างขึ้น จากนั้นก็มีสายลับมาหาพระชายา" เฉี่ยนจั๋ววางโคมแก้วไว้บนม้านั่งแล้วจึงรีบหาเสื้อคลุมจากหีบด้านข้าง

ฉินยีเปิดประตูเข้ามาแล้ว เมื่อเห็นว่าหยุนชางตื่นแล้วก็รีบรับเสื้อคลุมในมือของเฉี่ยนจั๋วมาสวมให้หยุนชาง แล้วจึงรีบหยิบหวีมาเกล้าผมให้หยุนชาง

หยุนชางมองเห็นฉินยีกำลังเกล้าผมให้นางผ่านทางกระจกก็พูดแบบไม่มีเสียงออกมาสองคำ

หยุนชางก้มศีรษะลง มุมปากยกขึ้นยิ้มเย็น

เมื่อเรียบร้อยแล้วนางจึงเดินออกไปจากห้องด้านในอย่างเชื่องช้า เมื่อเดินออกไปถึงห้องรับรอง สายลับด้านนอกก็รออยู่นานแล้ว หยุนชางเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้แล้วจึงเอ่ยถามอย่างเนิบนาบ "มีอะไร? เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?"

สายลับรีบตอบว่า "ข้าน้อยจับผู้ที่ใช้นกพิราบสื่อสารส่งข่าวออกไปด้านนอกได้..."

"หือ? เป็นผู้ใด?" หยุนชางมีคำตอบในใจอยู่แล้วแต่ก็ยังอยากจะยืนยันอีกครั้ง

"เป็นข้ารับใช้คนสนิทของพระชายา แม่นางเฉี่ยนหลิ่ว" สายลับตอบเบาๆ

เป็นไปตามที่หยุนชางคาด รังสีเย็นชาแผ่ออกจากมุมปากของหยุนชางยิ่งกว่าเดิม กลับเป็นเฉี่ยนจั๋วที่ตั้งตัวไม่ทัน "เฉี่ยนหลิ่ว? เป็นไปได้อย่างไร? พวกเจ้าไม่ได้ผิดแน่นะ?"

หยุนชางเงยหน้าขึ้นมองเฉี่ยนจั๋ว สายตาร้อนรนและเป็นห่วงนั้นไม่เหมือนกับแสร้งทำ อย่างไรทั้งสองก็เป็นราวกับพี่น้องที่เข้ามาพร้อมกัน หากไม่เชื่อก็เป็นเรื่องปกติ

"จดหมายนั้นสกัดไว้ได้หรือไม่? ขอข้าดูหน่อย" หยุนชางหันมาพูดกับสายลับ

สายลับรีบรับคำและยื่นจดหมายในมือให้หยุนชาง หยุนชางคลี่ออกอ่านแล้วจึงยื่นให้เฉี่ยนจั๋ว "เฉี่ยนจั๋ว เจ้าก็อ่านเถอะ"

เฉี่ยนจั๋วยังคงไม่ค่อยเข้าใจนัก นางจึงรีบรับจดหมายนั้นมาอ่านอย่างรวดเร็ว เมื่ออ่านจบแล้วก็นิ่งเงียบไปอย่างน่าประหลาดและไม่พูดอะไรออกมาอยู่นาน

หยุนชางแค่นหัวเราะ "คนที่ข้าส่งคนไปคอยตามจับตาดูมีเพียงซูฉีเท่านั้น เมื่อรู้ว่าซูฉีส่งคนไปที่คังหยางเพื่อตามรอยข้า ข้าจึงรู้ว่าคนข้างกายข้าต้องเป็นหนอนบ่อนไส้ เพราะเรื่องที่ไปคังหยางนั้นนอกตากคนสนิทไม่กี่คนก็ไม่มีใครอื่นรู้อีก"

"ข้าก็เพียงสงสัยเท่านั้น แต่วันนี้ฉินยีบอกว่าเจ้าถูกซูฉีมองออกเป็นเพราะความผิดพลาดของเจ้า เฉี่ยนหลิ่ว ข้ารู้จักเจ้ามากกว่าที่เจ้าคิด เจ้าเป็นคนมั่นคงย่อมต้องไม่มีทางหุนหันพลันแล่นเช่นนั้นแน่ ข้าจึงได้เกิดความสงสัยในตัวเจ้า วันนี้ข้ารู้ว่าเฉี่ยนจั๋วและเจ้ามีสัมพันธ์อันดีต่อกันจะต้องบอกเจ้าเรื่องที่คังหยางแน่ หากเจ้าเป็นหนอนบ่อนไส้จริงๆ ย่อมต้องมีการเคลื่อนไหว ข้าหวังว่าข้าจะเดาผิด หวังว่าคืนนี้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ข้าไม่อยากจะเชื่อว่าเจ้าทรยศข้า แต่ว่า เฉี่ยนหลิ่ว เจ้าทำให้ข้าผิดหวังยิ่งนัก..." หยุนชางขมวดคิ้ว นัยน์ตาของนางไม่สงบนัก

เฉี่ยนหลิ่วเงียบอยู่ตลอด จากนั้นจึงเอ่ยว่า "หม่อมฉันทรยศพระชายา หากท่านจะฆ่าแกงข้าก็เชิญเถิด" เมื่อพูดจบนางก็หลับตาลงช้าๆ ราวกับยอมรับในโชคชะตา

หยุนชางครุ่นคิดอยู่นานจึงเอ่ยอย่างราบเรียบ "เหตุผลล่ะ ข้าคิดว่าที่เจ้าทำเช่นนี้ย่อมมีเหตุผล..."

"เหตุผล?" เฉี่ยนหลิ่วยังคงหลับตาแต่กลับค่อยๆ ยิ้มออกมา รอยยิ้มนั้นกว้างขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายจึงกลายเป็นรอยยิ้มเคล้าน้ำตา

ผ่านไปครู่ใหญ่ เฉี่ยนหลิ่วจึงเงยหน้าขึ้นมองหยุนชางอย่างเชื่องช้า นางยิ้มและกล่าวว่า "เหตุผล หม่อมฉันก็อยากได้เหตุผลเช่นกัน หม่อมฉันอยากถามท่านอ๋องว่าครอบครัวของหม่อมฉันมีความผิดอะไร ท่านอ๋องจึงได้สังหารพวกเขาจนหมด"

หยุนชางได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น นางมองเฉี่ยนหลิ่วอย่างประหลาด "ครอบครัว? ครอบครัวอะไร?"

เฉี่ยนหลิ่วหัวเราะขึ้น "หม่อมฉันไม่เหมือนกับสายลับทั่วไป หม่อมฉันมีครอบครัว พ่อแม่ก็ยังแข็งแรง พี่น้องก็มีจำนวนไม่น้อยเลย เพียงแต่เพราะว่ามารดาของหม่อมฉันเป็นนางคณิกา ไม่ได้รับการยอมรับในจวนนัก ตอนที่หม่อมฉันอยู่ที่นั่นก็ได้รับความอยุติธรรมไม่น้อยจึงได้หนีออกมา ถูกสายลับของพระชายาเก็บมาเลี้ยงนึกว่าเป็นเด็กกำพร้า ตอนนั้นหม่อมฉันคิดว่าในเมื่อในจวนไม่ต้อนรับนาง เป็นสายลับไปเสียก็ดีเหมือนกันจึงได้ปกปิดตัวตน หลายปีมานี้แม้ว่าหม่อมฉันจะออกจากบ้านมาแล้วแต่ก็ยังติดต่อกับท่านแม่อยู่"

"คนในบ้านของเจ้าคือใคร? ทำไมท่านอ๋องจึงได้สังหารจนหมด? นี่มันเรื่องอะไรกัน?" หยุนชางมองเฉี่ยนหลิ่วด้วยแววตาที่ค่อยๆ สงบลง

ริมฝีปากของเฉี่ยนหลิ่วสั่นเล็กน้อย นางเงียบไปอยู่นาน บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มที่น่าเกลียดยิ่งกว่ายามร้องไห้ ครู่ใหญ่นางจึงยอมเปิดปาก "เดิมหม่อมฉันแซ่โจว อาศัยอยู่ที่เหมืองชางหนาน บิดาคือแม่ทัพรักษาการณ์เมืองชางหนาน เดือนก่อนตอนที่ท่านอ๋องไปถึงเมืองชางหนานเห็นว่าเห็นชีวิตของบิดาหม่อมฉันเป็นผักปลา เมื่อไม่ยอมฟังคำสั่งของท่านอ๋องจึงได้ชักกระบี่สังหารเขาบนหลังม้าและสังหารผู้ชายในตระกูลจนหมด ส่วนผู้หญิงก็ขายไปเป็นทาส..."

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง