ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 802

หากต้องการเข้าไปในเมืองก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพราะผู้ใต้บังคับบัญชาของหยุนชางและลั่วชิงเหยียนล้วนเป็นคนมีฝีมือขั้นสูง ไม่จำเป็นต้องเข้าไปในเมืองผ่านทางประตูเมือง ในยามวิกาล เพียงมองหากำแพงเมืองตำแหน่งที่มิได้มีการคุ้มกันที่หนาแน่นมากนักก็สามารถเข้าไปในเมืองได้อย่างสบายๆแล้ว

เมื่อเข้ามาในเมืองได้แล้ว ยังไม่ทันที่พวกเขาจะทำลายร่องรอยการเดินทางของตนเอง พวกเขาก็ได้มุ่งหน้ามาสู่จวนรุ่ยอ๋อง

เมื่อมาถึงจวนรุ่ยอ๋องก็เป็นเวลาร่วมสองยามได้ พ่อบ้านได้รับรายงานเรื่องการเสด็จมาของคนทั้งสองก่อนหน้านี้แล้ว เขาถือโคมไฟมายืนรอที่ประตูทางเข้า เมื่อเห็นลั่วชิงเหยียนและหยุนชางแล้ว สีหน้าของเขาก็เปี่ยมไปด้วยความปรีติยินดี พลางกุลีกุจอต้อนรับพวกเขาเสด็จเข้าไปในจวน

เมื่อมาถึงเรือนหนานย่วนแล้ว ทั้งสองคนก็รีบนอนเอาแรงแล้วตื่นตามสบาย หลังจากตื่นนอนแล้ว ทั้งสองก็สวมชุดสำหรับเข้าวัง แล้วจึงเดินทางไปที่พระราชวังด้วยกัน

เนื่องจากเซี่ยหวนอวี่มิได้ประทับอยู่ในวังหลวง ความเคร่งครัดในวังหลวงจึงดูลดน้อยลงไปบ้าง ลั่วชิงเหยียนมิอาจเข้าไปในวังส่วนในได้ เขาจึงไปที่ตำหนักหารือ

ส่วนหยุนชางก็ได้พาเฉี่ยนจั๋วและฉินยีมุ่งหน้าไปที่วังซู่หย่า

เมื่อมาถึงประตูทางเข้าของวังซู่หย่า หยุนชางก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักดังแว่วออกมา หยุนชางหรี่ตา วังซู่หย่าดูจะคึกคักมากเลยทีเดียว เสียงที่นางได้ยิน ฟังดูเหมือนว่าสนมซู่ได้เรียกเหล่าสนมคนอื่นๆมาชมดอกไม้ด้วยกัน หยุนชางมาได้จังหวะพอดี

เมื่อขันทีนำหยุนชางเข้ามาด้านในแล้ว นางจึงได้พบว่า วังซู่หย่านอกจากจะมีเหล่าสนมแล้ว ยังมีเหล่าองค์ชายและองค์หญิงอีกจำนวนหนึ่ง ทุกคนกำลังพูดคุยและเล่นกันอย่างสนุกสนาน

สนมซู่กำลังนั่งมองดูกลุ่มคนพากันชมดอกไม้ในอุทยาน เมื่อนางเห็นขันทีเดินนำหยุนชางเข้ามาด้านในก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย นางรีบลุกขึ้นยืนพลางเอ่ยขึ้นว่า "พระชายารุ่ยอ๋องมาแล้วหรือ?" เมื่อพูดจบก็เดินเข้ามาหาหยุนชางพลางส่งยิ้มให้ "เหตุใดจึงมิให้คนมาบอกข้าก่อน ข้าจะได้ให้คนเตรียมเสลี่ยงไปรอรับ พระครรภ์ใหญ่ถึงเพียงนี้แล้ว ยังต้องเดินจากประตูวังมาถึงที่นี่ คงจะเหนื่อยน่าดู"

หยุนชางยิ้มแล้วตอบกลับว่า "หม่อมฉันมิได้สูงส่งถึงเพียงนั้นหรอกเพคะ"

เหล่านางสนมที่พระยศต่ำกว่าหยุนชางได้เข้ามาคารวะนาง สนมซู่สั่งให้คนไปนำเก้าอี้มาให้หยุนชางนั่ง แล้วจึงเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า "กลับมาตั้งแต่เมื่อใด?"

"เมื่อคืนนี้ราวๆสองยามจึงมาถึงจวนเพคะ" หยุนชางตอบ

"ดึกขนาดนั้นเชียวหรือ?" สนมซู่ตกใจเล็กน้อย แล้วจึงส่ายหน้าพลางพูดต่อไปว่า "นี่เจ้าก็ตั้งครรภ์มาได้ 8 เดือนแล้ว ไยไม่ถนอมร่างกายเสียบ้าง หามีหญิงตั้งครรภ์คนไหนรีบเร่งเดินทางดึกๆดื่นๆเช่นนี้หรอกนะ"

หยุนชางยิ้ม "คงเป็นเพราะว่าหม่อมฉันตั้งครรภ์จึงทำให้นอนหลับดีเป็นพิเศษเพคะ ไม่เว้นแม้แต่บนรถม้า วันหนึ่งๆหม่อมฉันนอนหลับไปมากถึง 7-8 ชั่วยาม จึงไม่รู้สึกเหนื่อยเลยเพคะ"

สนมซู่ได้ฟังก็ยิ้มออกมา "เช่นนั้นก็ดีแล้ว ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอก็นับว่าเป็นความโชคดี ได้ยินว่ารุ่ยอ๋องได้รับชัยชนะจากสงคราม ได้กลับมาพร้อมกันด้วยหรือไม่?"

หยุนชางพยักหน้า "เพคะ เขาเสด็จมาที่วังพร้อมกับหม่อมฉัน ตอนนี้เขาอยู่ที่ตำหนักหารือ ก่อนจะกลับมายังเมืองจิ่น ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งกับท่านอ๋องว่า เมื่อกลับมาถึงเมืองจิ่นแล้วให้เขาช่วยสะสางราชกิจแทนสักระยะหนึ่ง และใช้โอกาสนี้ศึกษาการบริหารราชกิจไปในตัวด้วยเพคะ"

เมื่อหยุนชางพูดจบ นางก็สังเกตเห็นว่าสีหน้าของคนแต่ละคนที่อยู่ตรงนั้นก็ได้เปลี่ยนไป

ที่แคว้นเซี่ย ผู้ที่มีอำนาจในการสำเร็จราชการแทนฮ่องเต้นั้น นอกจากอุปราชแล้วก็คือองค์รัชทายาท แต่นับตั้งแต่ที่เซี่ยหวนอวี่ครองราชย์มา เขาก็ได้ถอดถอนตำแหน่งอุปราชออกไป เมื่อเป็นดังนี้แล้ว รุ่ยอ๋องก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็น......องค์รัชทายาท

สีหน้าของเหล่าสนมที่กำลังนั่งอยู่ดูไม่ค่อยสู้ดีนัก พวกนางนั่งเงียบไม่ยอมพูดจา

เด็กเล็กๆที่อยู่บริเวณนั้นยังคงเล่นสนุกกันอยู่ ทันใดนั้นก็มีองค์หญิงน้อยองค์หนึ่งหกล้ม นางร้องไห้งอแงออกมาดังลั่น พระสนมที่นั่งอยู่ด้านขวามือของหยุนชางจึงได้สติขึ้นมาหลังจากที่กำลังครุ่นคิดอะไรไปเรื่อย นางรีบลุกขึ้น แล้ววิ่งไปอุ้มองค์หญิงที่หกล้มขึ้นมา พลางปลอบโยนองค์หญิงเบาๆ

เสิ่นซู่เฟยขมวดคิ้ว ท่าทางไม่พอใจ "ยังไม่รีบไปตามหมอหลวงมาอีก"

สนมคนอื่นๆก็พากันลุกขึ้นยืน ต่างคนต่างพาลูกๆของตนมากล่าวลาแล้วกลับไปยังที่พักของแต่ละคน เมื่อวังซู่หย่าเงียบลงแล้ว เสิ่นซู่เฟยก็เอามือขึ้นมานวดขมับ พลางพูดกับหยุนชางเบาๆว่า "ข้าคงจะอายุมากแล้ว ได้ยินเด็กๆทำเสียงดังวุ่นวายแค่เพียงไม่นาน ข้าก็รู้สึกเวียนศีรษะเสียแล้ว"

หยุนชางแอบยิ้มและครุ่นคิดอะไรบางอย่าง จากนั้นก็ได้เอ่ยขึ้นมาว่า "เด็กๆก็เป็นเช่นนี้แหละเพคะ มีพวกเด็กๆอยู่ทำให้ทุกอย่างดูมีชีวิตชีวา ตอนที่หม่อมฉันเดินจากประตูวังมาถึงที่นี่ หม่อมฉันรู้สึกว่าผู้คนในวังดูบางตาลงมาก เมื่อมาถึงที่วังซู่หย่า ได้เห็นเด็กๆเล่นกันอย่างมีความสุข ทำให้บรรยากาศดูคึกคักขึ้นมาบ้างเพคะ"

คำพูดของหยุนชางดูเหมือนเป็นคำพูดสองแง่สองง่าม เสิ่นซู่เฟยขมวดคิ้ว และไม่ได้พูดสิ่งใดต่อ

เมื่อออกมาจากตำหนักของเสิ่นซู่เฟยแล้ว หยุนชางก็ได้ไปที่ตำหนักหารือ ลั่วชิงเหยียนกำลังหารือข้อราชการกับเหล่าเสนาบดี หยุนชางเห็นว่าที่ด้านนอกตำหนักหารือยังมีขุนนางเฝ้ารออยู่เป็นจำนวนมาก คงจะไม่เลิกหารือกันง่ายๆ หยุนชางจึงสั่งให้ขันทีที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูตำหนักคอยรายงานลั่วชิงเหยียนว่านางจะขอตัวกลับก่อน

เมื่อออกมานอกประตูวังแล้ว หยุนชางก็ได้สั่งให้สารถีรถม้าขับรถไปที่จวนกั๋วกง

จวนกั๋วกงดูจะคึกคักมากกว่าที่เคย มีทั้งคนที่มาเยี่ยมเยียน ส่งกระดาษอวยพร ผู้คนพลุกพล่านตั้งแต่ที่หน้าประตูจวน หยุนชางคิดในใจ คงเป็นเพราะข่าวเรื่องฮวาฮองเฮาถูกเผยแพร่ออกไป เหล่าขุนนางและผู้มีหน้ามีตาในเมืองจิ่นต่างก็รู้ดีว่าฮวาฮองเฮากำลังจะเสด็จกลับวังในไม่ช้า และยังมีฮ่องเต้เสด็จไปรับนางกลับมาด้วยพระองค์เอง ซูหรูจีก็ถูกปลดออกไปแล้ว ผู้ที่จะได้ครอบครองตำแหน่งฮองเฮา คงจะไม่ยากเกินการคาดเดา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง