หลังจากนั้นไม่นานหมอตำแยและฉินยีก็พาทารกออกมาอีกครั้ง หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว นยีก็อุ้มทารกไปด้านหน้าลั่วชิงเหยียนและย่อกายเคารพพลางกล่าวว่า "ท่านอ๋อง พระชายาคงเหนื่อย หากท่านชายน้อยร้องไห้งอแงเกรงว่าจะรบกวนนาง หม่อมฉันขอพาท่านชายน้อยไปที่เรือนหนานย่วนให้แม่นมดูแลสักครู่นะเพคะ"
ลั่วชิงเหยียนมองหยุนชางอย่างอ่อนโยน เขาเพียงฟังฉินยีพูดโดยไม่เงยหน้าขึ้นและพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ "ไปเถอะ"
ฉินยีรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา นางรับคำและถอยออกไปกับทารกในอ้อมแขน
หยุนชางหลับไปหนึ่งวันเต็ม เคราะห์ดีที่หมอเจิ้งยังคงบอกว่าไม่มีอะไรร้ายแรง แต่ลั่วชิงเหยียนยังคงไม่สบายใจนัก เขานั่งอยู่ที่ข้างเตียงคอยจ้องมองหยุนชางไม่ไปไหนเลยแม้แต่แวบเดียว
จนถึงเย็นของวันรุ่งขึ้น หยุนชางจึงได้ฟื้น
นางลืมตามองลั่วชิงเหยียนอยู่นาน ทันใดนั้นก็ยกมือขึ้นแตะท้อง สีหน้าตกใจปรากฏขึ้นและรีบคว้ามือของลั่วชิงเหยียน "ลูกล่ะ?"
ลั่วชิงเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดเบาๆ ว่า "เจ้ายังไม่ฟื้น ฉินยีกลัวว่าเด็กจะรบกวนเจ้าจึงพาออกไปให้แม่นมป้อนนมที่เรือนหนานย่วน ข้าจะให้คนไปเรียกฉินยีพาเขามาให้เจ้าดู"
หยุนชางจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกพลางพยักหน้าเบาๆ แต่ก็พลันนึกอีกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ "คุณชายหลิ่วเล่า?"
คำถามนี้ทำให้ลั่วชิงเหยียนชะงักไป สองวันมานี้เขาสนใจเพียงแต่หยุนชาง จะมีเวลาไปสนใจหลิ่วหยินเฟิงได้อย่างไร หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดกับหยุนชางว่า "ข้าจะส่งคนไปถาม"
หยุนชางเหลือบมองลั่วชิงเหยียนเล็กน้อยและพยักหน้าเบาๆ จากนั้นครู่หนึ่งก็กระซิบว่า "วันนั้นคุณชายหลิ่วเดินตามข้าเข้าไปในห้องเก็บน้ำแข็ง เขาต้องการช่วยข้าที่ถูกสกัดจุดไว้ออกไป แต่ทางเข้าถูกปิดและหาทางออกไม่พบ เพื่อปกป้องข้าและลูกในท้องของข้าจึงได้ถอดเสื้อผ้าออกมาให้ข้า"
ลั่วชิงเหยียนกอดหยุนชางไว้ในอ้อมแขนเบาๆ และพยักหน้าซ้ำๆ "ข้ารู้ว่าเขาช่วยชีวิตเจ้าไว้ ข้าต้องตอบแทนน้ำใจเขาเป็นอย่างดี" หลังจากพูดจบเขาก็สั่งให้คนไปดูหลิ่วหยินเฟิง
ไม่นานฉินยีก็พาแม่นมและท่านชายน้อยเข้ามา เมื่อเห็นว่าหยุนชางตื่นแล้ว บนใบหน้าของฉินยีประดับไปด้วยรอยยิ้ม นางรีบเดินไปที่เตียงและวางเด็กไว้ข้างกายหยุนชางพลางยิ้มกว้าง "พระชายา ดูสิเพคะ ท่านชายน้อยดูเหมือนพระชายาราวกับออกมาจากพิมพ์เดียวกัน แต่ดวงตากลับเหมือนท่านอ๋องเล็กน้อย"
หยุนชางก้มศีรษะลงมองดูเด็กน้อยที่อ่อนนุ่มและรู้สึกแสบร้อนที่หางตา แล้วจึงน้ำตาไหลลง นางรีบอุ้มเด็กน้อยไว้ในอ้อมแขนและกล่าวพึมพำ "เด็กน้อย เด็กน้อยของข้า"
ลั่วชิงเหยียนรีบเอื้อมมือออกไปเช็ดน้ำตาจากหางตาของหยุนชางและพูดอย่างอ่อนโยน "ไม่ใช่ว่ายังดีๆ อยู่หรือ? เหตุใดจึงร้องไห้"
หยุนชางสูดจมูกพลางกลั้นน้ำตาและจ้องมองไปที่เขา "เสด็จอาเป็นคนไม่ดี ยังคิดที่จะไม่ต้องการลูกของพวกเราแล้ว"
ลั่วชิงเหยียนจ้องมองหยุนชางนิ่งแต่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
หยุนชางก้มศีรษะลงเพื่อหยอกล้อทารก ทารกนั้นก็หัวเราะคิกคัก หยุนชางก็หัวเราะตามเช่นกัน แต่หลังจากหัวเราะไปครู่หนึ่ง ทารกน้อยก็อ้าปากหาวขึ้นและทันใดนั้นก็เริ่มร้องไห้
หยุนชางตะลึง "ทำไมจึงได้กะทันหันเช่นนี้?"
ฉินยีได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะและรีบอุ้มเด็กน้อยขึ้นส่งให้แม่นม "เกรงว่าคงจะหิวแล้วเพคะ"
หยุนชางถอนหายใจเบาๆ สายตาของนางยังคงมองตามแม่นมไปยังห้องสรง "ช่างอารมณ์แปรปรวนนัก เมื่อครู่เพิ่งจะหัวเราะอย่างมีความสุข ตอนนี้กลับเริ่มร้องไห้เสียแล้ว"
ฉินยียิ้มและเดินตามเข้าไปในห้องสรง หยุนชางหันกลับมามองลั่วชิงเหยียนแล้วพูดว่า "ท่านรายงานข่าวดีนี้แก่จวนกั๋วกงหรือยัง? ถึงแม้ว่าตอนนี้ไม่มีคนสำคัญอยู่ในวังแล้วแต่ก็ยังต้องรายงานเสียหน่อย"
ลั่วชิงเหยียนรับคำอย่างไม่ใส่ใจนัก เมื่อเห็นว่าเฉี่ยนจั๋วยืนอยู่ด้านข้าง เขาก็สั่งนาง "ส่งคนไปรายงานเรื่องนี้ที่จวนกั๋วกงและวังหลวง"
เฉี่ยนจั๋วถอยออกไป ลั่วชิงเหยียนก็ขมวดคิ้วอีกครั้ง "หากประกาศเรื่องนี้ออกไปจะต้องมีคนมากมายมาเยี่ยมแน่ ตอนนั้นเจ้าคงไม่สามารถนอนพักผ่อนให้ดีได้"
หมอเจิ้งเดินเข้าไปหาท่านชายน้อยและเลิกผ้าที่เขาร่างของเขาออกตรวจ ผ่านไปครู่หนึ่งก็หันศีรษะมาพูดกับหยุนชางว่า "ร่างกายของท่านชายน้อยแข็งแรงดี แต่เนื่องจากคลอดก่อนกำหนดจึงอ่อนแอเล็กน้อย แต่ตอนนี้ยังเล็กนักไม่เหมาะกับยาบำรุง หากดื่มนมจากแม่นมตลอดก็สามารถให้นางกินอาหารบำรุงมากขึ้นในยามปกติ"
หยุนชางรับคำแล้วจึงเรียกให้ฉินยีอุ้มเด็กมาไว้ข้างๆ นางแล้วหยอกล้อ
ลั่วชิงเหยียนยังคงมองดูหมอเจิ้ง เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลุกขึ้นยืนและกล่าวว่า "เขามีฝีมือที่ดี ข้าจะพาเขาไปดูหลิ่วหยินเฟิง"
หยุนชางได้ยินเช่นนั้นก็รีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว นางเงยหน้าขึ้นมองหมอเจิ้งและกล่าวว่า "คุณชายหลิ่วเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตของเราสองแม่ลูก ข้าขอให้หมอเจิ้งช่วยเขาให้ได้"
หมอเจิ้งรับคำแล้วจึงออกไปกับลั่วชิงเหยียน
ลั่วชิงเหยียนไม่ได้พาเขาไปที่ห้องของหลิ่วหยินเฟิง แต่พาเขาออกจากเรือนนั้นทันที เมื่อมาถึงห้องหนังสือ เขาก็นั่งลงและเงยศีรษะขึ้นมองไปที่หมอในชุดขาว สีหน้าฉายแววเย็นชา "เมื่อครู่ข้าเห็นเจ้าดูเหมือนจะพูดไม่หมด มีอะไรผิดปกติกับพระชายาและท่านชายน้อยหรือไม่?"
หมอเจิ้งครุ่นคิดอยู่ชั่วอึดใจแล้วจึงพยักหน้าน้อยๆ "ท่านชายน้อย..."
"เรื่องพระชายาก่อน" ลั่วชิงเหยียนรีบขัดขึ้นอย่างรวดเร็ว
หมอเจิ้งตกตะลึงไปก่อนจะพูดว่า "เมื่อวานนี้พระชายาได้รับความเย็นมาเป็นเวลานานจริงๆ ความเย็นนั้นได้เข้าสู่ร่างกายแล้ว เกรงว่าต่อไปคงจะไม่สามารถมีบุตรได้อีก"
ลั่วชิงเหยียนตกตะลึงไปเล็กน้อย แต่แล้วก็กลับสงบลง "ไม่เป็นไร หากข้ารู้ว่าการมีลูกจะต้องเจ็บปวดถึงเพียงนั้น ข้าจะไม่ยอมให้นางคลอดเลยแม้แต่คนเดียว"
"ท่านชายน้อยได้รับบาดเจ็บตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เกรงว่าในอนาคตจะมีปัญหาทางจิตเล็กน้อย" เสียงของหมอเจิ้งเบาลงไปอีก...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง
ทำไมถึงอ่านบทที่ 18 และอื่นๆต่อไปไม่ได้...