ฟีนิกซ์นิพพาน-ตำนานหยวนชิงหลิง นิยาย บท 9

หลังจากคู่สามีภรรยาอวี่เหวินอันลูกชายคนที่สี่ของจักรพรรดิหมิงหยวนตี้เข้าไปแล้ว ต่อไปก็ถึงคราวของอวี่เหวินฮ่าวและหยวนชิงหลิง

หยวนชิงหลิงหายใจเข้าลึกอย่างช้าๆ ปรับอารมณ์ของนางและเพิกเฉยต่อความไม่สบายกายทั้งหมด

ชีวิตมนุษย์มีความสำคัญ นางจะประมาทไม่ได้

ฉางกงกงเรียก "ฉู่อ๋อง พระชายา เชิญเข้า"

หยวนชิงหลิงลุกขึ้นเดินตามอวี่เหวินฮ่าวไป เขาเดินอยู่ด้านหน้า แหวกม่านและเข้าไปข้างใน

อวี่เหวินฮ่าวคุกเข่าข้างเตียง หยวนชิงหลิงคุกกเข่าอยู่ข้างหลังเขาแล้วรีบหยิบกล่องยาออกมา กล่องยาเริ่มใหญ่ขึ้นหลังจากที่วางลงบนพื้น หยวนชิงหลิงไม่มีเวลาคิดว่าทำไมกล่องยาจึงเป็นแบบนี้ แต่รีบเอายาชาออกมาใส่เข็มฉีดยา

อวี่เหวินฮ่าวกำลังจมอยู่กับความเศร้าโศกและไม่ได้สังเกตเห็นการกระทำของนาง เขาสะอื้นเรียก "เสด็จปู่... "

หยวนชิงหลิงจับมือเขา เขาจึงหันศีรษะมาโดยไม่รู้ตัว ดวงตาเบิกกว้างด้วยความรังเกียจ หยวนชิงหลิงฉีดยาชาเข้าไปในมือด้านในของเขาแล้ว

เขาตกใจ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ หยวนชิงหลิงถอนมือออกและมองไปที่เขาแล้วกล่าวว่า "เสด็จปู่ ข้าขอโขกศีรษะเคารพท่าน... "

ในใจนางแอบนับ: หนึ่งวินาที สองวินาที สามวินาที...

ร่างกายของอวี่เหวินฮ่าวอ่อนยวบลง แต่ดวงตาของเขาเบิกกว้าง

หยวนชิงหลิงรู้สึกประหลาดใจที่เคตามีนสามารถทำให้ร่างกายเข้าสู่สภาวะชาได้อย่างรวดเร็ว เขาไม่มีสติ เขาขยับตัวไม่ได้ แต่ก็พยายามตั้งสติอย่างหนัก

อดีตจักรพรรดิก็สังเกตเห็นความผิดปกติแล้ว ดวงตาเหม่อลอยของเขาเริ่มหายไปและค่อยๆมุ่งความสนใจไปที่หยวนชิงหลิง

ปากหยวนซิงหลิงบอกว่าโขกศีรษะจากนั้นก็หยิบเข็มฉีดยาที่นางประดิษฐ์เอง ใช้น้ำตาลกลูโคสเจือจางโดปามีน นางม้วนแขนเสื้อของอดีตจักรพรรดิขึ้น เมื่อพบเส้นเลือดแล้วก็โน้มตัวไปข้างหน้าและกระซิบข้างหูของอดีตจักรพรรดิ "ท่านปู่ อย่ากลัวไป ข้ากำลังช่วยชีวิตท่าน"

เมื่อสุนัขตัวน้อยฝูเป่าเห็นหยวนชิงหลิงแทงเข็มเข้าที่ร่างกายของอดีตจักรพรรดิก็เห่าขึ้นมา หยวนชิงหลิงกลัวว่าจะรบกวนคนภายนอกจึงรีบพูดเสียงเบา "ช่วยข้า ข้าช่วยนายของเจ้าอยู่ ออกไปถ่วงเวลาให้ข้าหน่อย"

นางเข้าใจที่ฝูเป่าพูด แต่นางไม่รู้ว่าฝูเป่าจะเข้าใจนางหรือเปล่า

ฝูเป่ารีบวิ่งออกไปจริงๆ เขากระโดดไปมา ขึ้นโต๊ะ ล้มเก้าอี้และกระโดดเข้าใส่ไทเฮา ทุกคนต่างก็หวาดผวา เพียงแต่ก่อนที่อดีตจักรพรรดิจะสิ้นพระชนม์ ไม่มีใครกล้าจัดการกับฝูเป่า จึงทำได้เพียงปล่อยมันไปบ้าไป

อวี่เหวินฮ่าวไม่ได้ถูกวางยาชาอย่างสมบูรณ์ เขาจ้องหยวนชิงหลิงด้วยแววตาที่โกรธเกรี้ยว ความโกรธที่ลุกโชนอยู่ในดวงตาของเขาบ่งบอกว่าเขาบดขยี้ให้นางแหลกละเอียดเป็นชิ้น

หยวนชิงหลิงไม่กล้าสบตาเขา หัวใจของนางกังวลจนถึงขีดสุด นางเกือบจะแน่ใจว่าหากมีคนเข้ามาดูภาพนี้ นางจะไม่สามารถรอดพ้นจากโทษประหารชีวิตได้เลยและบางทีอาจจะทำให้ครอบครัวของเจ้าของเดิมพลอยติดร่างแหไปด้วย

หนึ่งนาที สองนาที สามนาทีและสี่นาทีผ่านไป เมื่อเห็นว่าการฉีดยากำลังจะเสร็จสิ้นเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นจากด้านนอกม่าน หยวนชิงรู้สึกกังวลและกล่าวว่า "เสด็จปู่ไม่ต้องกังวล ข้าจะต้องให้กำเนิดลูกชายสองหรือสามคนให้กับท่านอ๋องแน่ๆเพคะ"

ฉีดยาเรียบร้อย

นางรีบเก็บเข็มฉีดยาและหยิบกล่องยาขึ้นมา หลังจากที่หยิบกล่องยาขึ้นจากพื้นมันก็เล็กลงอย่างรวดเร็ว เธอจึงซ่อนมันไว้ในแขนเสื้อ

นางโน้มตัวไประซิบข้างหูของอดีตจักรพรรดิสูงสุด "อีกครู่ท่านจะดีขึ้นเพคะ โปรดเก็บข้าไว้ในวังเพื่อที่จะได้ให้ยาท่านต่อไป"

โดยไม่คำนึงถึงปฏิกิริยาของอดีตจักรพรรดิ นางเปิดม่านเดินออกไปและกล่าวอย่างเศร้าๆ "ท่านอ๋องเสียใจเกินไปจึงยืนขึ้นไม่ไหว"

ฉางกงกวจึงรีบเข้าไปและเห็นว่าอวี่เหวินฮ่าวนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นราวกับว่าเขากำลังเศร้าจนทนไม่ไหว

จักรพรรดิก็เห็นเช่นกัน เขาถอนหายใจเล็กน้อย ดวงตาของเขาอ่อนโยนลงมากเมื่อเขามองไปที่อวี่เหวินฮ่าวและสั่งให้คนเข้าไปช่วยพยุงเขาออกไปพักผ่อนที่ตำหนักด้านข้าง

หยวนชิงหลิงถวายพระพรต่อฮ่องเต้และไทเฮา ในฐานะที่นางเป็นชายาของเขา นางจึงต้องตามไปดูแลเขาโดยธรรมชาติ

นางเตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความโกรธของเขายามเขาตื่นขึ้น

อดีตจักรพรรดิยังคงต้องการการรักษา ดังนั้นนางจึงต้องหาทางปิดปากของเขาให้ได้ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ตาม

ยิ่งไปกว่านั้นนางไม่อาจอยู่ในสถานะเป็นรองได้ตลอดไป

มีเลือดไหลออกจากมุมปากของหยวนชิงหลิง นางแทบไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย นางรู้ว่าเป็นเพราะน้ำแกงจื่อจิน แต่นางไม่สามารถทนต่อความอัปยศอดสูนี้ได้อีกต่อไป

เธอยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาด้วยความยากลำบากและฉีดยาเข้าไปที่ต้นขาของอวี่เหวินฮ่าว

เมื่อเขารู้ตัวก็พบว่ามันสายเกินไปแล้ว เขารู้สึกง่วงและค่อยๆปล่อยนางอย่างช้าๆ

หยวนชิงหลิงตบหน้าเขาคืน กัดฟันเหมือนที่เขาเคยทำเมื่อกี้และพูดว่า "ข้าเป็นมนุษย์ หากเจ้าให้เกียรติข้าและข้าให้เกียรติเจ้า แต่เจ้าทำให้ข้าอับอายและทุบตีข้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า เจ้าล้ำเส้นเกินไปแล้ว ข้าอยู่ภายใต้จวนอ๋องไม่ได้หมายความว่าข้าจะปล่อยให้เจ้ากลั่นแกล้งรังแก หากเจ้ามีความสามารถนักก็ไปขอให้ฮ่องเต้อนุญาติให้พวกเราหย่ากันสิ แทนที่จะเอาแต่คิดถึงชื่อเสียงของตัวเองและรังแกสตรี นี่มันผู้กล้าอะไรกัน?"

อวี่เหวินฮ่าวทรุดตัวลงกับพื้น ดวงตาสีเข้มจ้องมองมาที่นางราวกับจะกลืนกินนางทั้งเป็น แต่ความชั่วร้ายนี้อยู่ได้ไม่นานเขาก็หลับตาลงอย่างช้าๆ

ครั้งแรกไม่สามารถวางยาสลบเขาได้อย่างสมบูรณ์ ในครั้งนี้นางทำสำเร็จแล้ว

หยวนชิงหลิงผ่อนคลายร่างกายของนาง นางหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ น้ำตารื้นในดวงตา นางเงยหน้าขึ้นและฝืนบังคับให้น้ำตาไหลกลับไป

ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาร้องไห้ นางยังไม่มีทางรอดด้วยซ้ำ

นางหยิบกล่องยาออกมาเปิด หลังจากที่วางกล่องยาลงบนพื้นมันจะใหญ่ขึ้นโดยอัตโนมัติ พอยกจากพื้นก็จะมีขนาดเท่ากับกล่องไม้ขีดไฟ ช่างแปลกจริงๆ

นางอ้าปากหายใจเข้าลึกและตรวจดูยาข้างใน

ก่อนหน้านี้ยาในกล่องยาส่วนใหญ่เป็นยารักษาบาดแผล แต่ตอนนี้กลายเป็นยารักษาโรคหัวใจไปแล้ว แม้แต่ยาอมใต้ลิ้นก็มีถึงสองขวด

นี่เป็นเรื่องแปลกจริงๆ ไม่มียาอมใต้ลิ้นในห้องแล็ปของนาง แม้กระทั่งในกล่องยายังมียาหลายชนิดปรากฏขึ้น เช่น ยาเม็ดโพรพาโนลอลและยาเม็ดตันเซิน

ตอนนี้พวกมันกลับถูกวางอย่างเรียบร้อยอยู่ที่ด้านล่างของกล่องยา

ที่น่าขันกว่านั้นคือมีเครื่องตรวจฟังเสียงสเต็ตโทสโคปด้วย

นางนั่งอยู่บนพื้นพูดประโยคที่นางไม่เคยพูดมาก่อน "นี่มันโคตรจะบ้าบอเกินไปแล้ว"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-ตำนานหยวนชิงหลิง