"........"
"พี่ฮาวาย!!!" ฉันรีบเข้าเกียร์ถอยรถ กำลังเลี้ยวออกจากซอง ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์สั่นในกระเป๋าเสื้อพี่ฮาวายก่อน
ครืนนนนน ครืนนนนนน ~!
ฉันจับพวงมาลัยมองตามเสียง มองด้วยความลังเลว่าจะหยิบมันมารับดีไหม ซึ่งไม่แน่..อาจจะเป็นเพื่อนหมอพี่ฮาวายหรือใครก็ได้ในวงการแพทย์ และเสี้ยวนาทีนั้นฉันจึงเหยียบเบรคกระทันหัน....แล้วหันไปหาพี่ฮาวายทันที แต่มือไม่ทันเอื้อมถึงกระเป๋าเสื้อ พี่เขาก็ลุกขึ้น....งัวเงียหยิบโทรศัพท์รับ
!!!!!!!??!!TOT
"ครับแม่..."ฉันที่จอดรถนิ่งสนิท กำพวงมาลัยอ้าปากค้าง ช็อคที่พี่ฮาวายหลับลึกเหมือนซ้อมตาย และช็อคคูณสองที่ปลายสายเป็นแม่พี่เขา
"ครับ ผมงีบที่โรงพยาบาลนิดหน่อย บ่ายๆจะกลับ...แม่ทานก่อนเลยครับ ครับผม"
แล้วพี่ฮาวายก็กดวางปรับเบาะขึ้นนั่งปกติ แถมยังหันมามองฉันยิ้มๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ถึงรึยัง อ้าว..ถึงแล้วทำไมเจแปนไม่จอดรถ? จะไปไหน?" ฉันพยักหน้าแล้วถอยรถจอดอย่างว่าง่าย ระหว่างถอย...ก็เก้ๆกังๆมองพี่ชายไม่เข้าใจ
จนเราลงจากรถไปแตะคีย์การ์ดขึ้นลิฟต์ ฉันเห็นพี่ฮาวายสดชื่นปกติจึงถามเพื่อความแน่ใจ ว่าพี่ชายฉันน่ะ..คือคนปกติใช่ไหม? คนบ้าอะไรฉันทั้งตะโกนทั้งร้องไห้ปลุกยังไงก็ไม่ตื่น-_-
"พี่ฮาวาย...หลับแบบนี้ตลอดเลยเหรอคะ?"
"หลับ? อ๋อ...เมื่อกี้เจแปนปลุกพี่แล้วใช่ไหม^^?" ฉันกระชับกระเป๋าสะพายขึ้นพาดบ่า แล้วพยักหน้าเบาๆ
"ค่ะ"
"ปกติ เวลาพี่เหนื่อย...พี่จะหลับลึกแบบนี้แหละ มีสิ่งเดียวที่ปลุกได้ก็คือเสียงสั่นโทรศัพท์ พี่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไร ตลกดีนะ^^"
ฉันยิ้มแห้งๆแล้วลูบแขนตัวเอง ขนลุก..พี่ฮาวายตลกแต่ฉันไม่ตลกด้วย ฉันใจหายใจคว่ำหมด.. ตอนนั้นฉันกลัวจริงๆนะ น้องก็ยังไม่หาย...กลัวพี่ชายเป็นอะไรอีกคน
พอขึ้นมาถึงห้อง..เราก็เคาะประตูสองสามที ก่อนที่ฉันจะแตะคีย์การ์ดเข้าไป เพราะฉันกลัวใจน้องสาว..ไม่รู้ไทเปจะฉายภาพอะไรเซอร์ไพรส์ฉันกับพี่ฮาวายอีก
แล้วมันก็เซอร์ไพรส์จริงๆ เซอร์ไพรส์หนักมาก...เพราะฉันเดินเข้ามาเห็นไทเปนั่งวาดรูปเชนอยู่!! แต่พอฉันหันไปสะกิดพี่ฮาวายดู พี่ฮาวายรีบเดินไปนั่งข้างๆไทเปก่อนซะงั้น
"ไงบ้าง นี่เหรอที่โม้พี่เมื่อคืน สวยมากไทเป ทำไมวาดเชนสวยแบบนี้ล่ะ^^" เชนตกใจรีบลุกขึ้นเดินมาดูทันที จนไทเปเธอรีบกอดรูปสเก็ตนั้นไว้
"ไม่ให้ดู จะสวยหรือหล่อก็แฟนไทเปค่ะ^^" เชนเอามือกอดอกหัวเราะ ก่อนจะเอียงซ้ายทีขวาทีแกล้งและแอบดูรูปที่ไทเปวาด
"อะไรคะเนี่ย?...เจแปนไม่อยู่ มีอะไรอัพเดทบ้างไทเปหันมาวาดรูปแล้วเหรอ ^^?" ไทเปหันมายิ้ม แล้วไล่เชนกลับไปนั่งเป็นแบบเหมือนเดิม
"ใช่ค่ะ เพิ่งเริ่มเมื่อวาน...พอดีพี่ฮาวายพาไปเที่ยว และแนะนำเพื่อนหล่อๆให้รู้จัก พี่คนนั้นเขาแนะนำให้วาด วาดอะไรก็ได้เขาจะรับซื้อ^^"
วาดรูป? รับซื้อ? เพื่อนหล่อๆที่ว่า..ขอให้เป็นจิตแพทย์ทีเถอะ ฉันยืนคิดตามและคิดไปในทางที่ดีไว้ก่อน คิดทั้งที่สายตาเพ่งมองไปที่ไทเปอยู่แบบนั้น
จนพี่ฮาวายหันมาขยิบตาเป็นนัยๆ ฉันถึงหลุดออกจากภวังค์ได้ และมันใช่แล้วล่ะ ใช่แน่ๆ..พี่ฮาวายกำลังทำได้ สงสัยที่ไม่ได้เล่าให้ฉันฟังเพราะตอนนั้นเหนื่อยมาก
ฉันจึงตัดสินใจเดินไปนั่งข้างๆไทเป มองตามหัวดินสอที่เธอกำลังวาดอยู่
"สวยจัง..ไทเปเก่งมาก อ่ะนี่ๆ..พี่ซื้อลิปสติกมาฝากแทบเหมาช็อปเขาเลยนะ^^" ฉันเปิดกระเป๋า..แล้วหยิบลิปสติกหลายแท่งวางบนตักไทเป
"ขอบคุณนะคะ ไหนขอลองหน่อย ^^" พอไทเปวางดินสอมาสนใจลิปสติก เชนเขาก็รีบลุกขึ้น..เดินมาดูรูปที่ไทเปวาดทันที เขาลูบหัวไทเปเบาๆแถมยังชมรูปนั้นไม่หยุด
"พอพี่บอกแม่ ว่าไทเปเป็นโรคซึมเศร้า แม่พี่ก็เสียใจมากเอาแต่โทษตัวเอง เมื่อวานตอนบ่ายท่านเลยบอกให้พี่พาน้องไปเดินเล่น ไปซื้อของ...จนพี่มีโอกาสนัดหมอธันวานอกรอบ และเขาบอกให้ไทเปวาดรูป ต้องการอะไรก็วาดลงไป เขาจะรับซื้อเอง "
ไม่น่า..พี่ฮาวายถึงดูเหนื่อยมาก เมื่อวานจัดการเรื่องไทเปทั้งวัน แถมกลางคืนพี่ชายฉันเข้าเวรอีก
"ตอนนี้ไทเป..ยังไม่ได้เจอแม่พี่ฮาวายใช่ไหมคะ?"
"ยัง พี่ไม่รู้ว่าไทเปรู้สึกกับแม่พี่ยังไง กลัวว่า..ถ้าพาไปเจอน้องจะไม่ไว้ใจพี่อีก"
"แล้วตอนที่แม่พี่ฮาวายพูดเรื่องในอดีต ที่ทำไว้กับครอบครัวเจแปน พี่ฮาวายอยู่ด้วยไหมคะ? แน่ใจได้เหรอคะ? ว่าแม่พี่ฮาวายจะไม่รู้ว่าไทเปป่วยเป็นอะไร?"
"ไม่ได้อยู่แต่พี่แน่ใจ..ถึงแม่พี่จะถาม จรรยาบรรณแพทย์นะเจแปน หมอไม่บอกใครสุ่มสี่สุ่มห้าหรอก"
ให้ตายเถอะเหมือนทุกอย่างจะดีขึ้น ยกเว้นแม่พี่ฮาวาย ฉันไม่อยู่ไม่กี่วันทำไมเรื่องมันไปไกลขนาดนี้
พอพี่ฮาวายเห็นฉันร้องไห้ พี่เขาก็ตบไหล่ฉันปลอบ แต่คิดว่าฉันจะหยุดร้องรึไง ฉันไม่อยากให้แม่พี่ฮาวายเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย บอกตรงๆฉันไม่ไว้ใจ..เรื่องอะไรที่แม่พี่ฮาวายยุ่ง ผลที่ตามมาคือศูนย์ไม่ก็ติดลบ
"เอาน่า..อย่าห่วงเลย เรื่องข้อมูลหรืออาการไทเปจะไม่มีใครรู้นอกจากเจแปน ถึงพี่จะรู้แต่หมอธันวาไม่ได้ยืนยันกับพี่..ว่าน้องป่วยเป็นอะไร เขาไม่ขยายความสักอย่าง"
"เรื่องหมอธันวาเจแปนไว้ใจค่ะ...ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเจแปนพูดอะไรตรงๆพี่ฮาวายอย่าโกรธกันนะคะ เจแปนไม่ไว้ใจแม่พี่ ที่ผ่านมาพี่อาจจะไม่รู้..ว่าแม่พี่ทำร้ายครอบครัวเรามาตลอด คนเคยโดนกระทำนะคะพี่ฮาวาย"
"แม่พี่ก็โดนกระทำไม่ต่างกัน และนั่นมันคืออดีต ตอนนี้โตๆกันแล้วเจแปน ใช้เหตุผลอย่าใช้อคติ ไปเจอแม่พี่ไหม?ไปคุยกับท่านตรงๆ บั้นปลายชีวิตท่านไม่คิดโกรธแค้นอะไรอีกหรอก "
ฉันก้มหน้าลงมองมือที่จับราวแน่น... แม่คะ แม่จีน หนูควรไปเจอเขาไหม? ทำไมการเป็นผู้ใหญ่ที่ต้องตัดสินใจอะไร มันหนักใจแบบนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Final Call ประกาศครั้งสุดท้าย... อย่าท้าทายกัปตัน