ไอความร้อนล้อมรอบใบหูของนางเอาไว้ ซือหลิงหลิงรู้สึกแค่ว่าขนทุกเส้นบนร่างกายต่างก็ตั้งชันขึ้นมา แล้วหันหน้าไปมองดวงตาของทรราชที่มีความเลือดเย็นแฝงด้วยแววเยาะเย้ย รู้สึกขลาดกลัวขึ้นมาในทันที
ทรราชคนนี้เธอจะหาเรื่องไม่ได้
ใบหน้ามีรอยยิ้มแกนๆ น้ำเสียงของซือหลิงหลงฟังดูจริงใจ “ฮ่องเต้อยู่ที่ไหนหม่อมฉันก็อยู่ที่นั่น ฮ่องเต้ไม่ให้ไปไหน หม่อมฉันก็ไม่ไปเพคะ”
'ท่านเป็นท้องฟ้า ท่านเป็นผืนดิน ท่านเป็นฮ่องเต้ที่โคตรจะเฮงซวยที่สุด'
มือของเฮ่อเหลียนเย่ว์ที่ดึงขอเสื้อของนางเอาไว้ใช้แรงกำแน่นขึ้น เกือบจะอดไม่ได้ที่จะบีบคอนางให้ตาย
แต่เมื่อคิดถึงผลประโยชน์จากคนคนนี้ ได้แต่อดกลั้นเอาไว้
เปลี่ยนมาเป็นการใช้มือจับใบหน้าของนางเอาไว้ จับเอาไว้ราวกับจะแก้แค้น มุมปากโค้งขึ้น น้ำเสียงเย็นชา “ไม่เสียแรงที่ข้ารักเจ้ามากขนาดนี้”
ซือหลิงหลงถูกเขาใช้มือบีบหน้าจนรู้สึกเจ็บ รอยยิ้มบนใบหน้าแทบจะรักษาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว แต่ได้ก่นด่าในใจเงียบๆ
'ไอ้ฮ่องเต้บ้าทำไมถึงใช้แรงมากขนาดนี้เนี่ย ฉันรู้อยู่แล้วว่าเขาคงไม่มีทางปล่อยฉันไปง่ายๆแน่'
'ก่อนหน้านี้ต้องเป็นการจงใจทำให้ฉันหลงใหลแน่ๆ ที่จริงมันเป็นการเปลี่ยนเป็นวิธีการที่โหดเหี้ยมกว่าเพื่อทรมานฉัน......อย่างเช่น......ต๋าจี่ที่นำเนื้อของป๋ออี้เข่ามาทำเป็นลูกชิ้นให้จีชางพ่อของเขากินและอีกฝ่ายยังต้องยิ้มเพื่อแสดงความขอบคุณ..... '
'ให้ตาย นี่มันเหมือนเรื่องที่ทรราชจะสามารถทำได้เลยนะ แหวะ โหดร้ายเกินไปแล้ว'
มือของเฮ่อเหลียนเย่ว์ที่เดิมทีกระชากคอเสื้อด้านหลังของนางเอาไว้จู่ๆก็ใช้แรงมากขึ้น แทบจะหักคอนางลงมาเดี๋ยวนั้นเลย
ในใจของนาง ตนเป็นทรราชที่แทบจะเรียกได้ว่าวิปริตเช่นนี้เลยหรือ
ยังจะเอาเนื้อคนมาทำเป็นลูกชิ้นอีก
ดีมาก
หากตนเองไม่ทำอะไรซะบ้าง ไม่เท่ากับเป็นการทำให้นางผิดหวังหรอกหรือ
กำลังจะเอ่ยปากพูดบางอย่าง ทันใดนั้นก็เห็นฝูไท่เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว น้ำเสียงฟังดูร้อนรนมาก “ฮ่องเต้พ่ะย่ะค่ะ”
เฮ่อเหลียนเย่ว์ขมวดคิ้ว จากนั้นก็คลายมือที่ดึงคอเสื้อของซือหลิงหลงออก น้ำเสียงไม่เป็นมิตร “มีอะไร”
“ฮ่องเต้ นางกำนัลที่อยู่วังหลังนำตัวเสวี่ยซามาขอเข้าเฝ้า บอกว่าเสวี่ยซาอาการไม่ค่อยดีพ่ะย่ะค่ะ”
ยังไม่ทันที่ซือหลิงหลงจะทันคิดได้ว่าเสวี่ยซาคือใคร ก็พบว่าใบหน้าหล่อเหล่าของเฮ่อเหลียนเย่ว์เคร่งขรึมลง และไม่สนใจนางอีก สั่งการเสียงเย็นว่า “รีบให้เข้ามา”
เห็นได้ชัดว่าใบหน้าของเฮ่อเหลียนเย่ว์มีแววห่วงกังวลจนทำให้ซือหลิงหลงรู้สึกคาดไม่ถึง แต่ในขณะเดียวกันก็คิดไม่ออกว่านางสนมคนไหนในวังที่มีชื่อเรียกนี้
ขณะที่กำลังครุ่นคิด ก็เห็นว่าข้างนอกมีคนสองคนเข้ามาอย่างรีบร้อน หนึ่งในนั้นอุ้มก้อนสีขาวๆกลมๆราวกับหิมะเอาไว้ในอ้อมอก เมื่อซือหลิงหลิงสังเกตดูดีๆ สมองก็เกิดสว่างวาบขึ้นมาทันที
เป็นเสวี่ยซา
ในต้นฉบับเป็นจิ้งจอกหิมะที่ทรราชเลี้ยงเอาไว้
ในหนังสือต้นฉบับ ทรราชมีจิ้งจอกหิมะที่รักมากตัวหนึ่ง ว่ากันว่าตอนที่ทำศึกที่เทือกเขาทางเหนือ เฮ่อเหลียนเย่ว์ตกลงไปในทุ่งหิมะจนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด แต่ถูกจิ้งจอกหิมะตัวหนึ่งช่วยเอาไว้โดยบังเอิญ หลังจากนั้นเฮ่อเหลียนเย่ว์ก็นำจิ้งจอกหิมะตัวนั้นกลับมาที่วังและเลี้ยงดูไว้ข้างกาย เคยทำการลงโทษนางกำนัลหลายคน เพียงเพราะมันกินข้าวได้น้อยกว่าปกติ
ระยะหลังที่ไป๋เชียนเชียนได้รับความรักความเอาใจใส่ เหตุผลกว่าครึ่งเป็นเพราะจิ้งจอกหิมะยอมใกล้ชิดนาง
และตอนนี้เองซือหลิงหลงได้เห็นหน้าตาของ”เสวี่ยซา”ในตำนาน ทำให้เธอนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย
สัตวแพทย์......หรือ
สัตวแพทย์ ฟังดูแล้วเหมือนเป็นหมอที่ทำการรักษาสัตว์โดยเฉพาะ แต่ว่า บนโลกนี้ยังมีคนที่รักษาสัตว์โดยเฉพาะด้วยหรือ
นางกำนัลเห็นท่าทีขมวดคิ้วไม่เป็นมิตรของเฮ่อเหลียนเย่ว์ ก็คิดว่าฮ่องเต้ไม่พอใจ ก็ยิ่งทำเสียงสูงและพูดอย่างไม่เต็มใจกับซือหลิงหลง “กุ้ยเหรินเพคะ ตอนนี้องค์เสวี่ยซาทรงไม่สบายมาก แม้ว่าทรงจะอยากรู้อยากเห็นก็ไม่ควรเลือกเป็นเวลานี้นะเพคะ”
เสวี่ยซาเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักของเฮ่อเหลียนเย่ว์ นางกำนัลที่ดูแลเสวี่ยซาโดยเฉพาะก็ย่อมมีต่ำแหน่งไม่ต่ำต้อยเช่นกัน แม้แต่เจ้านายจากตำหนักต่างๆเมื่อเห็นนางแล้วยังต้องแสดงความเกรงใจ และการปฏิบัติต่อซือหลิงหลงในตอนนี้ก็ถือได้ว่าไม่ให้ความเคารพนับถือ
อีกอย่างการพูดเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าแฝงไปด้วยการร้องเรียน
'นี่กำลังต่อว่าฉันว่าอยากจะเล่นกับสัตว์เลี้ยงโดยไม่รู้กาลเทศะงั้นเหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าที่นี่ไม่มีแม้กระทั่งสัตวแพทย์ที่เป็นการเป็นงานฉันคงไม่เสนอหน้าหรอกนะ'
ซือหลิงหลงรู้สึกไม่พอใจ แต่เธอก็รู้ดี การตรวจรักษาสัตว์เลี้ยงไม่สามารถเปรียบเทียบกับการตรวจรักษาคนได้ หมอหลวงจะเก่งแค่ไหน หากพบกับโรคฉุกเฉินของสัตว์เลี้ยงก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน
“หุบปาก” ซือหลิงหลงหลุดปากพูดไป และไม่สนนางกำนัลคนนั้น ยื่นมืออยากจะลูบดู นางกำนัลคนนั้นคิดไม่ถึงว่าซือหลิงหลงจะบังอาจขนาดนี้ ยังไม่ทันจะหลบเลี่ยง ก็ได้ยินเสียงดังขึ้นในตำหนัก เสียงเคร่งขรึมเย็นชาของเฮ่อเหลียนเย่ว์พูดขึ้น
“ให้นางดู”
เพียงสามคำ ง่ายและชัดเจน ทำให้ทุกคนไม่กล้าโต้แย้ง
นางกำนัลนิ่งอึ้ง ซือหลิงหลงรู้สึกคาดไม่ถึง และวินาทีต่อมา ก็ได้ยินเสียงเย็นชาของเฮ่อเหลียนเย่ว์พูดเพิ่มเติมกับซือหลิงหลงว่า
“ถ้าตรวจรักษาได้ไม่ดี ข้าจะลงโทษเจ้า”
ซือหลิงหลง......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฮ่องเต้คลั่งรักมัดใจสนมตัวร้าย