เราสองคนตกลงใจใช้ชีวิตแบบคู่รักกันได้ไม่นาน และฉันก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องการแต่งงานมาก่อน แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะเคยพูดแนว ๆ นี้ก็เถอะนะ
ทว่าตอนนี้อีกฝ่ายกลับถามความสมัครใจของฉัน
มั่นใจเลยว่าเขาต้องไปเจอเรื่องร้าย ๆ มาแน่ พลันเรื่องของแม่แซคคารี่ก็ผุดขึ้นมา...
หรือว่าเขาจะเศร้าเพราะเรื่องของแม่?
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ร่างสูงไม่เคยแสดงความอ่อนแอออกมาให้กันเห็นเลยซักครั้ง แคโรรู้สึกแย่แทนอีกฝ่าย พลางจุมพิตลงที่แก้มสากอีกครั้ง เสียงหวานพยายามเอ่ยปลอบโยน
“แซคคารี่ ไม่ว่าคุณจะไปพบเจอเรื่องอะไรมา แต่คุณก็ระบายกับฉันได้นะ แม้บางครั้งฉันอาจจะแก้ไขมันให้คุณไม่ได้ แต่ยังไงฉันก็เป็นผู้หญิงของคุณ เมื่อเจอปัญหา เราควรจับมือกันฝ่าฟันมันไปพร้อมกัน!”
ร่างสูงชะงักไป ก่อนจะค่อย ๆ คลายอ้อมกอด แล้วเงียบลงราวกับความกังวลก่อนหน้านั้นไม่เคยเกิดขึ้น
“ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ฉันจะไปรับเธอที่โรงเรียนเอง อาการของพ่อทรงตัวขึ้นแล้ว เรารีบกลับไปดูแลท่านดีกว่า” เขาว่าพร้อมจับมือฉัน “แม้ตระกูลจะโหดร้าย แต่ท่านก็ดูแลฉันด้วยความรักเสมอ อาจจะเป็นเพราะฉันเป็นลูกของผู้หญิงที่ท่านรัก ท่านถึงดีกับฉันเสมอ”
ฉันมองเขางง ๆ “ฉันจะได้กับพ่อแม่ของคุณเร็ว ๆนี้เหรอ?”
ใบหน้าหล่อยิ้มบาง “แต่เป็นการพบปะธรรมดา เธอไม่ต้องกังวลไป ตอนนี้พ่อล้มป่วย... เพราะงั้นฉันคิดว่า ถ้าไม่ไปตอนนี้ ในอนาคตเธออาจไม่มีโอกาสได้เจอท่านอีกเลย”
แซคคารี่เริ่มเปิดเผยความรู้สึกของตัวเองกับฉันมากขึ้น มันเป็นสัญญาณที่ดีของความสัมพันธ์ของเรา เขาอดทนอธิบายให้ฟังช้า ๆ ส่วนฉันก็พยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดนั่น
เช้าวันต่อมา เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาทว่าเฉยชาก็หายไปจากห้องเสียแล้ว ร่างเล็กลุกขึ้นเกินไปอาบน้ำแต่งตัว เปลี่ยนชุดเป็นเดรสสีเขียวตัวสวย
ฉันแต่งหน้าอ่อน ๆ พร้อมเขียนคิ้วบาง ๆ และทาเปลือกตาเป็นสีชมพูอ่อน มือเรียวม้วนผมขึ้นให้กลายเป็นก้อนผมสองก้อนเหมือนตัวการ์ตูนชื่อดัง ก่อนจะสวมต่างหูอันใหญ่เป็นอันเสร็จ
แคโรมองตัวเองผ่านกระจกด้วยสายตาชื่นชม
ถึงจะรู้ว่าแซคคารี่ไม่ค่อยชอบให้ฉันแต่งตัวแบบอลังการ แต่ฉันกลับชอบดูปฏิกิริยาหน้านิ่วคิ้วขมวดไม่พอใจของเขา
เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อย ขาเรียวก็สาวเท้าออกจากที่พัก และตัดสินใจนั่งรถไฟใต้ดินไปทำงานแทนการขับรถ
พอถึงมหาวิทยาลัย ก็ยังเหลือเวลาอยู่หน่อย ก่อนที่คลาสเรียนจะเริ่ม ฉันเดินเข้าไปด้านในอย่างไม่รีบร้อน กว่าจะถึงห้องก็ได้เวลาสอนพอดี
ข้างในห้องเต็มไปด้วยเสียงของนักเรียน และใช่ พวกเขาเป็นนักเรียนกลุ่มเดิมที่ฉันเคยสอนเมื่อครั้งก่อน เมื่อทุกคนเห็นฉัน ต่างก็เริ่มเอ่ยล้อแซว “ไม่ได้เจอกันเกือบปี สวยขึ้นอีกแล้วนะครับ! คุณแคโรไลน์ ไม่ทราบว่าวันนี้จะสอนอะไรเราเหรอครับ?”
“บทเพลงของบีโธเฟน มูนไลต์โซนาตา” ฉันพูดยิ้ม ๆ
เมื่อใกล้จะจบคลาส ทุกคนในห้องต่างลงความเห็นให้ฉันเล่นเพลง ‘มารีอาจ ดามัวร์’ ที่แปลว่า การแต่งงานด้วยความรัก ให้ฟัง และฉันก็ไม่เคยปฏิเสธคำขอของนักเรียนด้วยสิ
ร่างเล็กเดินไปยังเปียโนหลังใหญ่ ก่อนจะเริ่มบรรเลงบทเพลงที่โดนขอมา เมื่อการแสดงเล็ก ๆ จบลง ก็มีเสียงชื่นชมจากลูกศิษย์ดังไม่ขาดสาย “คุณแคโรไลน์ทั้งสวยทั้งเล่นเปียโนเก่ง โชคดีจริง ๆ ที่ได้ฟังการเล่นของคุณ เราสัมผัสได้ถึงความสุขจากดนตรีที่คุณเล่นเลยล่ะ”
พวกเขาบอกว่าสัมผัสได้ถึงความสุขของฉัน
แคโรหันมองไปยังด้านนอกหน้าต่างอีกครั้ง แซคคารี่ยังแถว ๆ นั้น ร่างสูงยืนรอพร้อมเอามือข้างหนึ่งไพล่หลัง พร้อมจ้องมองมาที่ฉัน
กลุ่มนักเรียนต่างพากันมองไปยังทิศทางเดียวกันกับฉัน และต่างซุบซิบกันว่าเขาหน้าคุ้น ๆ จากที่ไหน
“เหมือนฉันเคยเห็นเขาที่ไหนนะ”
“คุณแคโรไลน์ เขาเป็นแฟนคุณเหรอคะ?”
ก่อนหน้านี้เคยมีเทรนร้อนเกี่ยวกับฉันและแซคคารี่ นักเรียนหลาย ๆ คนคงรับรู้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ทว่าไม่ถามเพราะให้เกียรติฉัน
พวกเขาเป็นนักเรียนที่ดี และเรียนรู้ที่จะให้ความเคารพต่อความเป็นส่วนตัวของคนอื่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ