เด็กชายที่อยู่อีกฝั่งของกำแพงบอกฉันว่าเขามีเเม่
ฉันถามกลับไปอย่างใจเย็น “เเม่ของเธออยู่ที่ไหน?”
เขาอธิบายอย่างสงบเสงี่ยม “เเม่ของผมเป็นเมียน้อยของคนที่ทำลายครอบครัวของคนอื่น เธอพาผมมาทิ้งไว้ที่ฝรั่งเศสเพราะภรรยาของชายคนนั้นขู่เธอ ถึงอย่างนั้น เธอกลับทิ้งผมตอนที่เราเดินทางมาถึงฝรั่งเศส เพราะมีชายฝรั่งเศสที่ร่ำรวยอยากเเต่งงานกับเธอ เเต่จากสถานการ์ณของเขา ทำให้เธอเลยต้องทิ้งผมไว้ ตอนเเรกผมคิดว่าเธอจะไม่ยอมตกลงกับเขา เเต่สุดท้ายเธอก็ยอมทิ้งผม”
อย่างไรก็ตาม เธอยอมตกลงในที่สุด…
ความคิดของเขาชัดเจนมาก เเถมยังมีน้ำเสียงที่ใสเเละไม่สั่นเครือ ถึงขนาดที่ผู้ใหญ่บางคนยังไม่สามารถทำแบบนั้นได้
มันเหมือนกับว่าเขามองเหตุการ์ณในอดีตโดยที่ไม่เอาตัวเองไปยึดติดกับสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไขได้เเล้ว เขาไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองยอมจำนนกับการดิ้นรนของเขา
ฉันเกือบจะพูดปลอบโยนเขา เเต่ก่อนที่ฉันจะพูดอะไรออกไป เขาก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย “ผมไม่โทษเธอหรอกเพราะว่าเธอเป็นเเม่ของผม เเละเธอก็เป็นคนที่ให้กำเนิดผมมา แต่มันก็เเค่นั้นเเหละ!”
ฉันมีลูกของฉันเอง ฉันเลยเข้าใจว่าการเป็นเเม่คนนั้นเป็นอย่างไร เเต่ในโลกนี้ยังคงมีคนที่เลวร้ายอยู่อีกมาก ฉันพูดอะไรไม่ได้มากเกี่ยวกับเเม่ของเขา เนื่องจากที่ฉันไม่ได้รู้จักเธอ ในตอนนั้นฉันทำได้เเค่เก็บความเงียบไว้
ฉันถามเขากลับไปหลังจากที่เงียบไปครู่หนึ่ง “เธออายุเท่าไหร่?”
“ผมจะอายุสิบสองในสิ้นปีนี้ครับ” เขาตอบ
ลักษณะภายนอกของเขาดูเหมือนเเค่เด็กอายุเเปดหรือเก้าขวบเท่านั้นเอง!
มันน่าจะเป็นเพราะการขาดสารอาหารมาเป็นเวลานานเเน่ ๆ!
ฉันถามเขาอย่างอ่อนโยน “งั้นเธออยากจะไปกับฉันไหม?”
ในใจของฉันเต็มไปด้วยความเศร้า เเละความสงสารต่อเด็กคนนี้
เด็กน้อยคนนี้ทำให้ฉันนึกถึงเเซคคารี่ที่เคยถูกตระกูลชิคส่งตัวออกไป
เเต่เขาอยู่ในสถานการ์ณที่เลวร้ายกว่าเเซคคารี่มาก!
เขาถูกทิ้งอย่างไร้เยื้อใย!
นอกเหนือจากนั้น เขากับวอลเลซ…
วอลเลซถูกทอดทิ้งจากตระกูลฌอน!
“ไม่จำเป็นหรอก ผมไม่ต้องการความสงสารจากคุณ”
เขาเลือกที่จะเป็นเด็กไร้บ้านดีกว่ายอมรับความช่วยเหลือจากคนอื่น
เขาเป็นเด็กที่อยู่ด้วยกฎของเขาเอง เเละไม่มีใครสามารถบังคับเขาได้!
“โอเค มาหาฉันตอนที่เธอคิดได้เเล้วกันนะ”
ฉันเดินจากออกมา เเละตอนที่ฉันกำลังจะเดินเลี้ยวตรงหัวมุม ฉันก็รู้สึกอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองดวงตาคู่สวยนั้นอีกครั้ง
มันเป็นดวงตาที่ยากจะหาได้ในโลกใบนี้
ฉันเดินไปเจอเข้ากับวอลเลซตอนที่ฉันเดินกลับเข้าไปในห้อง
เขากำลังรอฉันอยู่ในห้อง
ฉันถามเขาอย่างแปลกใจ “ทำไมนายถึงตามหาฉันล่ะ?”
เขาถามกลับมาอย่างอ่อนโยน “เธอไปไหนมาเหรอ?”
“ฉันเดินไปที่สวนเเล้วไม่ได้คิดว่าฝนจะตกลงมาน่ะ”
จู่ ๆ เขาก็ถามฉันอย่างโมโห “ทำไมคนใช้ไม่ไปกับเธอด้วย เธออยู่ที่ไหน?”
อาการโมโหของวอลเลซทำให้ฉันรู้สึกกลัวขึ้นมา!
ฉันรีบพูดให้เขาใจเย็น “ฉันบอกเธอไม่ให้ตามฉันมาเองเเหละ! อย่าทำเเบบนี้สิ ฉันไม่เคยเห็นมุมนี้ของนายมาก่อนเลยนะ”
สีหน้าของวอลเลซอ่อนลงตอนที่เขาเห็นว่าฉันรู้สึกกลัว!
ฉันไม่ได้กลัวขนาดนั้นหรอก เเต่มันก็ไม่มีอะไรที่ต้องเสียหายหากจะเเสดงความอ่อนเเอสักหน่อย นอกจากนั้นเเล้ว การรับมือกับอารมณ์ของวอลเลซก็ค่อนข้างง่าย ฉันก็เเค่ต้องทำในสิ่งที่เขาต้องการเเค่นั้นเอง!
เขาจับมือของฉันเเล้วพูดว่า “ผมขอโทษนะเเคโร ผมสัญญาว่าจะไม่โมโหง่าย ๆ อีกเเล้ว พี่จะไปพบคนกลุ่มหนึ่งกับผมได้ไหม?”
วอลเลซพูดถึง ‘คนกลุ่มหนึ่ง’ ขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ