หลังจากที่บลูสันกับซัมเมอร์เดินจากไป ก็เหลือแค่ฉันกับแซคคารี่เท่านั้นที่ยังอยู่
ฉันช่วยดับกองไฟที่ยังมีเชื้อเพลิงหลงเหลืออยู่เล็กน้อย แล้วเงยหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว
ฉันถามแซคคารี่อย่างเป็นห่วง “พี่หมายความว่า ถ้าชาร์ลสไม่ได้ซัมเมอร์กลับไป เขาก็จะตายไปกับเธอจริง ๆ เหรอคะ? เขาวิตกกังวลและหมกหมุ่นขนาดนั้นเลยเหรอ? แต่ชาร์ลสดูไม่ใช่คนที่จะสูญเสียอำนาจ แล้วหนีไปแบบนั้นเลยนะคะ…”
แซคคารี่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงทุ่มต่ำของเขา “เขาเป็นคนแบบนั้นแหละ เขาไม่เหลือใครที่เขารักบนโลกนี้แล้ว และก็ไม่มีใครบนโลกนี้รักเขาแล้วเหมือนกัน หลังจากที่เขาสูญเสียทุกอย่างแล้ว เขาก็จะยอมปล่อยทุกอย่างไปเอง! แต่ศัตรูของเขาคือบลูสัน ซึ่งบลูสันเป็นคนที่ร่ำรวยมาก เขาสามารถควบคุมสมดุลของเศรษฐกิจบนโลกนี้ได้ถ้าเขาต้องการ เธอรู้ไหมว่าเขามีอำนาจบนเศรษฐกิจระดับมหัพภาค เขาสามารถบังคับให้อำนาจทั้งหมดมาอยู่ที่เขาได้”
“นั่นคือเหตผลว่าทำไมชาร์ลสถึงไม่สามารถเอาชนะเขาได้เพียงคนเดียว เขาถึงต้องการความช่วยเหลือจากฉัน แต่ฉันไม่มีอะไรที่จะต่อต้านบลูสัน”
ฉันรู้สึกตกใจกับคำอธิบายของแซคคารี่ “บลูสันแข็งแกร่งขนาดนั้นเชียวเหรอคะ?”
แซคคารี่ตอบกลับมา “ เขาไม่ได้แกร่งขนาดนั้นหรอก แต่ว่าเขารวยมาก! ชาร์ลสไม่มีทางสู้กับเขาได้ แต่ว่าฉันทำได้! นั่นคือเหตุผลว่าทำไมบลูสันถึงไม่มายุ่มย่ามกับฉันตลอดหลายปี มันสำคัญกว่าสำหรับเขาที่จะสงบศึกกับฉัน”
ฉันถามกลับไปอย่างสงสัย “จุดอ่อนของเขาคืออะไรเหรอคะ?”
แซคคารี่ยกยิ้มกับคำถามของฉัน
“เป็นความลับน่ะ” เขายิ้ม
ฉันกรอกตาใส่เขา “พี่รอง พี่ซ่อนเรื่องต่าง ๆ จากฉันเหรอ?”
แซคคารี่ลุกขึ้นยืน “คำว่าซ่อนฟังดูมากเกินไป แต่จุดอ่อนที่เขามีมานานแล้ว ตอนนี้ได้อยู่ข้างกายของเขาแล้ว”
ฉันขมวดคิ้ว “หมายถึงซัมเมอร์เหรอคะ?”
“บลูสันตกหลุมรักซัมเมอร์มาตลอด และฉันก็รู้เรื่องนี้มาตลอดด้วย เขาเป็นคนที่หักห้ามใจตัวเองได้ และไม่เคยคิดที่จะบังคับซัมเมอร์เลย บางทีอาจเป็นเพราะว่าเขามีอีโก้สูงเกินไป เขาเลยไม่กล้าเริ่มก่อน”
“แล้วชาร์ลสรู้หรือเปล่าคะว่าซัมเมอร์คือจุดอ่อนของบลูสัน?”
แซคคารี่ตอบอย่างแผ่วเบา “ต่อให้เขารู้ จุดอ่อนของเขาก็คือซัมเมอร์เหมือนกัน มันมีเงื่อนผูกอยู่ระหว่างพวกเขาสามคน ในตอนท้าย การตัดสินใจก็ยังคงอยู่ในกำมือของซัมเมอร์ ตราบใดที่เธอมั่นใจเพียงพอ ชาร์ลสก็ไม่สามารถทำอะไรได้หรอก แต่ถ้าเกิดเธอใจอ่อนขึ้นมา บลูสันอาจจะ....”
ดังนั้นการตัดสินใจก็ยังคงอยู่ในมือของซัมเมอร์!
ฉันถอนหายใจออกมา “ฉันไม่แน่ใจเลยค่ะ”
ฉันไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะจบลงอย่างไร แต่ฉันจะคอยอยู่เคียงข้างซัมเมอร์ ไม่ว่าการตัดสินใจสุดท้ายของเธอจะเป็นอย่างไรก็ตาม!
แซคคารี่กุมมือของฉัน แล้วพาฉันเข้าไปในเต็นท์ เต็นท์ของเราหรูหราและมีห้องเล็ก ๆ อยู่ในนั้นด้วย
ฉันหันกลับไปมองที่แซคคารี่ สายตาของเขานั้นชัดเจนเหมือนอย่างเคย ฉันเงยหน้าขึ้นไปจูบที่คางของเขาเบา ๆ “ขอบคุณที่แก้ปัญหาต่าง ๆ ให้ฉันค่ะ ในตอนแรก ฉัน… ฉันไม่อยากให้คุณต้องรู้สึกไม่ดีเพราะเรื่องนี้ แต่ฉันทนเก็บความแค้นนี้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว!”
แซคคารี่เข้าใจว่าฉันหมายความว่าอย่างไรในทันที
“เธอกลัวว่าฉันจะไม่มีความสุขเพราะเธอแก้แค้นดิกสันเหรอ?”
เขามองทะลุผ่านฉันโดยไม่ต้องพยายามอะไรเลย “อืม” ฉันยอมรับ “ใช่ค่ะ”
“เบล ฉันเข้าใจ” แซคคารี่พูดกลับมา “มันเหมือนกับแม่ของฉัน ฉันไม่เต็มใจที่จะแคร์เธอ แต่เธอก็ยังคงเป็นแม่ของฉันอยู่”
แซคคารี่ใช้การเปรียบเทียบได้อย่าง… ในตอนนั้นเอง ฉันเข้าใจว่าเขาไม่อยากให้ฉันต้องเก็บความรู้สึกแบบนี้ไว้
“แต่สิ่งที่ฉันทำลงไปมันไม่ถูกต้องนะคะ” ฉันพูดพร้อมสวมกอดร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขา “ทุกคนช่วยดิกสันได้ แต่มันไม่ควรจะเป็นฉัน เพราะจริง ๆ แล้ว ฉันไม่เต็มใจที่จะ…”
“ไม่ใช่ยาราที่ให้คำแนะนำนี้หรอกเหรอ?” แซคคารี่ถาม
ฉันแปลกใจที่เขาเปลี่ยนมาโทษยาราได้อย่างอัตโนมัติ ฉันรู้ว่าเขาไม่อยากพูดถึงเรื่องดิกสันอีกต่อไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ