“ฉันก็ไม่แน่ใจ แต่เธอเป็นคนบอกเลิกฉัน”
ฉันไม่แน่ใจว่าทำไม แต่อยู่ ๆ ก็เหมือนมาร์ตี้นั้นโกรธขึ้นมา
“โอเคค่ะ ฉันจะช่วยจับตาดูคดีนี้ไว้”
หลังจากวางสายมาร์ตี้ ฉันก็อยู่เล่นกับเจดตลอดช่วงบ่าย ทันใดนั้น ฉันก็นึกขึ้นได้ว่าแลนซ์ยังคงอยู่ที่เมืองถงเพื่อไปพบแม่ยายของเขา
ฉันส่งข้อความไปถามเขา
[แคโรไลน์: ทุกอย่างเป็นอย่างไรบ้างคะ?]
[แลนซ์: ก่อนหน้านี้ฉันต้องเลื่อนการเดินทางไปเมืองถงออกไปเพราะดิกสัน นี่ฉันเพิ่งมาถึงเมืองถง ดังนั้นฉันจึงวางแผนว่าจะไปพบพวกเขาในคืนนี้ ฉันส่งคนไปสืบสวนยาราเรียบร้อยแล้ว และคงได้ข้อสรุปในคืนนี้]
มันกลายเป็นว่าแลนซ์ไม่ได้ทำการอะไรจนกระทั่งวันนั้น!
ฉันถามเขาต่อ
[แคโรไลน์: แล้วยาราอยู่ที่ไหนกันคะ?]
[แลนซ์: เธออยู่ที่เมืองอู๋ หลังจากไปเจอครอบครัวเธอคืนนี้ ฉันจะรีบกลับไปยังเมืองอู๋ สาวน้อยคนนั้นยังคงอายที่จะเจอฉัน]
[แคโรไลน์: ยารานั้นยังเด็กและไร้เดียงสา มันเป็นเรื่องปกติค่ะ]
[แลนซ์: ใช่ ฉันต้องจัดการเรื่องนั้นคืนนี้]
เดี๋ยวนะ แลนซ์หมายความว่าอย่างไรตอนที่เขาพูดว่าเขาต้องจัดการเรื่องนั้น?!
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันก็รู้สึกอายขึ้นมาเล็กน้อย
ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า นี่ฉันกำลังคิดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่เนี่ย?
ฉันรีบสั่นหัวและเดินกลับไปยังห้องนอน
แซคคารี่ยังคงนอนพักอยู่บนเตียง บาดแผลเขาสาหัส ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเคลื่อนไหวไปไหนได้
แซคคารี่นอนอยู่บนเตียง ในขณะที่เขากำลังอ่านหนังสืออยู่เงียบ ๆ เมื่อแซคคารี่อ่านหนังสือ เขาเอียงหัวเล็กน้อย และกดคางเข้าหาตัว รุ่งอรุณนำมาซึ่งแสงตะวันอันนุ่มนวล พร่าพรายและส่องโลกให้สว่างไสว ในขณะที่แซคคารี่อาบแสงตะวันอันอบอุ่น มันก็ทำให้เขาดูนุ่มนวลและอ่อนโยน
แซคคารี่เป็นชายที่ดูเย็นชาหากเขาไม่ยิ้ม ทว่าเมื่อเขายิ้ม รอยยิ้มของเขาสามารถทำให้ฉันละลายได้ในทันที ไม่ว่าฉันจะมองเขาอีกกี่ครั้ง ฉันก็ยังต้องการอีก
ฉันเดินเข้าไปหาและจิ้มแก้มเขาเบา ๆ เขามองฉันและแซว “ช่วงนี้คุณนายชิคติดแฟนจังเลยนะ”
“ฉันติดคุณคนเดียวเท่านั้นแหละค่ะ” ฉันพูดอย่างหนักแน่น
แซคคารี่เหล่มองมาพร้อมรอยยิ้มในคำตอบที่หนักแน่นของฉัน เขาพูดยิ้ม ๆ “เธอนี่น่าไม่อายมากขึ้นเรื่อย ๆ เลย ทำไมถึงไม่ไปอยู่เป็นเพื่อนพวกเขาที่ด้านล่างล่ะ?”
“ฉันอยากอยู่กับคุณมากกว่า” ฉันกล่าว
แซคคารี่ตอบด้วยเสียงต่ำในลำคอ ฉันปีนขึ้นไปบนเตียงและนอนลงข้างเขา ก่อนจะชายตาอ่านหนังไปพร้อมกับเขา
พวกเราอ่านหนังสือด้วยกันไปสักพักจนกระทั่งเขาพูดขึ้นมา “เบล ดวงตาเธอช่างสวยเหลือเกิน มันช่างแววใส ราวกับเธอสามารถมองทะลุเห็นหัวใจคนอื่นได้อย่างง่ายดาย”
“ฉันจะไปมีความสามารถที่ทรงพลังเช่นนี้ได้อย่างไรกันคะ?”
“เมื่อเธอมองใครสักคน คนที่ถูกมองคงจะรู้สึกเช่นนั้นแหละ” เขากล่าว
ฉันจ้องมองไปในดวงตาแซคคารี่ และถาม “คุณรู้สึกแบบนั้นหรือเปล่า?”
แววตาแซคคารี่ช่างลึกราวกับท้องทะเล เขาสามารถมองฉันออกได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
แซคคารี่ไม่ได้ตอบคำถามฉัน ดังนั้นพวกเราจึงอ่านหนังสือกันต่อ
“มันเป็นการเดิมพันที่เรียบง่าย พวกเราเดิมพันกันด้วยการทอยลูกเต๋า ถ้บเธอชนะ ฉันจะแต่งงานกับเธอ ถ้าเธอแพ้ เธอจะต้องไม่มารบกวนฉันอีก” แซคคารี่บอก
ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าเขาจะเดิมพันอะไรแบบนี้!
ฉันถามเขาอย่างประหลาดใจ “คุณไม่กลัวแพ้เหรอคะ?”
“ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ มันมีความน่าจะเป็นที่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ฉันเดิมพันเพื่อความสงบสุข และเอ็มมี่เดิมพันเพื่อฉัน อย่างไรก็ตาม เธอลงเอยด้วยการเป็นผู้แพ้”
ฉันถามเขาด้วยความไม่พอใจ “ถ้าหากคุณแพ้ล่ะ?”
แซคคารี่พูดอย่างมั่นใจ “ฉันไม่มีทางแพ้”
“ทำไมคุณถึงมั่นใจขนาดนั้นคะ?” ฉันถาม
“หากฉันแพ้ ฉันก็จะปฏิเสธเดิมพันนั่น ทว่าฉันรู้ดีว่าเอ็มมี่เป็นคนรักษาคำพูด หากเธอแพ้ เธอจะต้องทำตามสัญญาอย่างแน่นอน! โชคดีที่ฉันไม่แพ้ ดังนั้นฉันจึงไม่ต้องกลืนน้ำลายตัวเอง” แซคคารี่กล่าว
“ฉันเคยคิดว่าคุณเป็นคนที่รับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง...”
แซคคารี่ขัดฉันและพูดพร้อมรอยยิ้ม “ฉันเป็นคนที่เติบโตมาจากด้านมืด มันเป็นไปไม่ได้ที่จะรักษาสัญญาทั้งหมดกับการที่ฉันมีทุกวันนี้ได้”
แซคคารี่เปิดเผยให้ฉันเห็นอีกด้านหนึ่งของเขา
“ถึงอย่างนั้น คุณก็รักษาสัญญากับฉันเสมอ” ฉันกล่าว
“มันขึ้นอยู่กับว่าเป็นใคร สุดท้ายแล้ว...”
เขาหยุดนิ่งไป ฉันจึงถามต่อ “สุดท้ายแล้วอะไรคะ?”
“เธอก็คือภรรยาฉัน” แซคคารี่กล่าว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ