จ้าวฉี่ฉิงหยิบแก้วน้ำขึ้นมาอย่างรู้สึกผิดและเตรียมจิบน้ำเพื่อหวังที่จะให้หายตกใจ
ฉินฟั่งส่ายหัวอย่างผิดหวัง เขารู้สึกว่าเขามองคนผิด เขาได้พูดอย่างผิดหวังออกไปว่า"ฉี่ฉิงเธอเองก็เหมือนคนทั่วไป ไม่สามารถที่จะหนีออกจากกรงเล็บของฟู่ซีเสินได้"
ผู้หญิงคนใดที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับฟู่ซีเสินแล้วจะรู้สึกชอบเขาอย่างไม่มีเหตุผล
แม้แต่คนที่พิเศษอย่างจ้าวฉี่ฉิง ก็ไม่สามารถรอดจากกฎอันนี้ได้
“คุณสนิทกับเธอเหรอ?” การแสดงออกที่เย็นชาของฟู่ซีเสินก็เพิ่มมากยิ่งขึ้น
"ไอ"
จ้าวฉี่ฉิงตกใจและได้สำลักน้ำเข้า แถมยังจะไออีกสองถึงสามครั้ง
ในฐานะสุภาพบุรุษอย่างฉินฟั่ง เขาก็ได้ลุกขึ้นเพื่อช่วยจ้าวฉี่ฉิง แต่ฟู่ซีเสินก็หยุดยั้งเอาไว้
ฟู่ซีเสินยกมือขึ้นและตบที่หลังของจ้าวฉี่ฉิงเบาๆ เสียงที่เย็นชาก็ค่อยๆอ่อนโยนขึ้นมา: "หายใจเข้า"
ฟู่ซีเสินอดทนอยู่ประมาณหนึ่งนาที ก่อนที่จะหยุดแล้วยื่นทิชชู่ให้
ทันทีที่จ้าวฉี่ฉิงอยากที่จะรับทิชชู่ไว้ ริมฝีปากของเธอก็ถูกบังไว้ด้วยผ้าเช็ดปาก ผ่านทิชชู่ไป เธอรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิที่ปลายนิ้วของฟู่ซีเสินอีกด้วย
เธอตกใจมากจนรูม่านตาขยายใหญ่ แต่ในบรรยากาศที่คลุมเครือแบบนี้ เธอไม่สามารถที่จะส่งเสียงได้
เมื่อดูฟู่ซีเสินเช็ดที่ปากของจ้าวฉี่ฉิง ทั้งสองคนที่อยู่ตรงข้ามได้เห็นทุกๆขั้นตอนและพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะทนเห็นได้
โดยเฉพาะผู้ช่วยเว่ย ต้องคอยจัดการกับเรื่องของทั้งสองคนในทุกๆวัน ตอนนี้ยังจะให้เขาเห็นภาพแบบนี้ มันทำให้เขารู้สึกเหมือนหมาหัวเน่าที่ไม่มีใครเอา
“อืม ฉันดีขึ้นมากแล้ว”
จ้าวฉี่ฉิงไม่สามารถเพิกเฉยต่อสายตาของทั้งสองคนที่ฝั่งตรงข้ามได้ เธอรีบเอามือของฟู่ซีเสินลง
“วันนี้มาฉลองวันเกิดของฟู่ซีเสินจริงหรือ?”
ทุกปีเขาจะจัดที่นั่งสามที่นั่ง แต่ปีนี้ได้รับแจ้งมาว่าเขาจะเปลี่ยนเป็นสี่ที่นั่ง รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย
“เอ่อ... คุณช่วยเสิร์ฟเค้กตอนนี้เลยได้ไหม?”
แม้ว่าการเช็ดปากจะหยุดลงแล้ว แต่จ้าวฉี่ฉิงก็ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับบรรยากาศที่ทำให้หายใจไม่ออกแบบนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเคลื่อนไหวเล็กๆน้อยๆของฟู่ซีเสินที่ใต้โต๊ะ
มองไปหาฟู่ซีเสินที่กำลังจับข้อมือของเธอไว้ จ้าวฉี่ฉิงไม่กล้าขยับมากนัก กลัวว่าอีกฝ่ายจะสังเกตเห็น
ผู้ช่วยเว่ยไปเรียกพนักงานเสิร์ฟ ผ่านไปครู่หนึ่ง เค้กที่ไม่เข้ากับร้านก็ถูกเอาขึ้นมา โดยข้างบนจะมีเขียนแค่คำว่า "เสิน" ติดอยู่เท่านั้น
เมื่อเห็นเค้กที่มีเอกลักษณ์แบบนี้ ฉินฟั่งก็สูญเสียความกล้าไป จ้าวฉี่ฉิงวาดภาพของฟู่ซีเสิน?
แต่แบบฉบับการ์ตูนกับตัวจริงทำไมมันต่างกันอย่างนี้ ผู้คนรอบข้างต่างพากันหัวเราะ
“เธอทำเค้กเองเหรอ?” ฟู่ซีเสินรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้เห็นเค้กนี้
ถ้าไม่ใช่ว่าจ้าวฉี่ฉิงเป็นคนเอามาเอง เขาคงจะสงสัยว่ามีใครบางคนกำลังเล่นตลกกับเขาอยู่
"อืม..." ดวงตาของจ้าวฉี่ฉิงดูผิดปกติ
ข้อมูลที่ตู้เซี่ยถงมอบให้เธอนั้นมันไม่ได้ผลเลย ชีวิตประจำวันของฟู่ซีเสินนั้นน่าเบื่อหน่ายเกินไปและไม่มีสัญญาณว่าเขาสนใจบางสิ่งบางอย่างเลย
ยิ่งไปกว่านั้น ความต้องการในแต่ละวันของฟู่ซีเสินนั้นก็มากเกินไป จ้าวฉี่ฉิงได้แต่เลือกที่จะทำเค้กด้วยตัวเองเท่านั้น
เธอยังคงมั่นใจในระดับการวาดภาพของตัวเอง แต่อาการบาดเจ็บที่แขนของเธอส่งผลต่อการวาดของเธอ
อือ มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว
“ดูดีจังเลย” ฟู่ซีเสินชมไปที่เค้ก ผู้ช่วยเว่ยก็ได้จุดเทียนให้เขาอย่างเร่งรีบ
เสียงเพลงวันเกิดดังขึ้นพร้อมๆกัน พนักงานเสิร์ฟก็เงียบไป จ้าวฉี่ฉิงก็ได้ร้องเพลงไปด้วย
ฟู่ซีเสินมองไปที่แสงไฟสลัว ใบหน้าของจ้าวฉี่ฉิงดูชัดเจนยิ่งขึ้น รอยยิ้มอันแสนหวานของเธอทำให้เขาลืมไม่ลงเป็นเวลานาน
"เป่าเทียน"
เขาไม่ได้ทำเรื่องไร้เดียงสาแบบนี้มาเป็นเวลากว่าสิบปีแล้ว ฟู่ซีเสินยังคงทำไปอย่างเชื่อฟัง
หลังจากพิธีวันเกิดได้สิ้นสุดลง จ้าวฉี่ฉิงก็นั่งไม่นิ่ง อยากที่จะรีบออกไปจากตรงนี้
ยังมีสองคนในบ้านหลังเก่าที่ต้องรับมือ ถ้าเกิดกลับบ้านดึกคงจจะมีเรื่องแน่
ใครจะรู้ฟู่ซีเสินไม่มีทางปล่อยเธอไปแน่ หลังจากที่ส่งฉินฟั่งกลับ ฟู่ซีเสินก็พูดในหูของจ้าวฉี่ฉิง: "คุณย่าต้องการพบเธอ"
คุณย่า สองคำนี้ทำให้จ้าวฉี่ฉิงนึกถึงความทรงจำเก่าๆ เธอไม่ได้พบคุณย่ามาเป็นเวลานานแล้ว
เมื่อได้ยินคำพูดของนายหญิง* ฟู่ซีเสินก็เดินไปข้างหน้าสองสามก้าว เขารู้ว่าจ้าวฉี่ฉิงกำลังร้องไห้และเขาก็รู้ว่าจ้าวฉี่ฉิงไม่อยากที่จะให้คนอื่นเห็นหน้าของเธอ
“ฮะ มีอะไรอีกไหม? ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมออกไปรอข้างนอกนะ”
นายหญิง* ตั้งใจที่จะเย็นชา แต่อีกด้านหนึ่งก็มีหลายเรื่องที่จะพูดกับจ้าวฉี่ฉิง
ดูแลความรู้สึกของจ้าวฉี่ฉิง ทำให้ฟู่ซีเสินถูกไล่ออกไป
ฟู่ซีเสินได้แต่ยืนอยู่ในลานบ้านอย่างเชื่อฟัง
“เอาล่ะ อย่าร้องไห้เลย คุณย่ายังไม่ร้องไห้เลย” นายหญิง* ถือว่าจ้าวฉี่ฉิงเป็นหลานสาวของเธอ มือที่มีรอยย่นของท่านก็ปลอบโยนไปที่จ้าวฉี่ฉิง
“ฉันไม่ได้ร้องไห้” จ้าวฉี่ฉิงปฏิเสธที่จะยอมรับและเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าของเธอต่อหน้านายหญิง* “แล้วทำไมท่านถึงผอมลงขนาดนี้”
จ้าวฉี่ฉิงมองไปที่มือที่เรียวๆของนายหญิง น้ำตาที่กลั้นไว้ก็กลับมาอีกครั้ง
“ไม่ต้องกังวล ฉันสบายดี” นายหญิง * เหลือบมองที่ประตูและถามว่า: “ฉันได้ยินมาว่าเธอได้เป็นประธานแล้ว แล้วร่วมมือกับฟู่ซีเสินเป็นไปด้วยดีรึเปล่า?”
จ้าวฉี่ฉิงประหลาดใจ เธอจำไม่ได้ว่าได้บอกเรื่องนี้กับนายหญิงด้วย* เป็นไปได้ไหมที่ชายข้างนอกนั่นจะเป็นคนพูด
“คุณย่า ทุกอย่างเรียบร้อยดี ไม่ต้องห่วงฉัน”
“ไม่รู้สิ คุณย่าดีใจมากที่เห็นเธอทั้งสองคืนดีกัน แม้ว่าเธอจะไม่ใช่หลานสะใภ้ของฉัน ฉันถือว่าเธอเป็นละกัน”
จ้าวฉี่ฉิงรู้สึกขอบคุณสำหรับความรักของนายหญิงที่มีให้* ทั้งสองคุยกันสักพัก เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเริ่มรู้สึกง่วงและก็ได้ที่จะบอกลากัน
“คุณย่า ไปนอนเถอะ ถ้าฉันมีเวลาจะแวะมาหาอีก”
ด้วยคำสัญญาของจ้าวฉี่ฉิงที่มีให้กับนายหญิง* ได้เรียกหาฟู่ซีเสินและพูดว่า: "ฟู่ซีเสิน ย่าหวังว่าเธอจะสามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันและเลิกกังวลเกี่ยวกับเรื่องก่อนหน้านี้ได้แล้ว"
ฟู่ซีเสินเหลือบมองจ้าวฉี่ฉิงและพยักหน้า: "ไม่ต้องกังวล ผมกับจ้าวฉี่ฉิงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน"
ไม่คิดเลยว่าจ้าวฉี่ฉิงจะไม่ได้คัดค้านเลย แต่กลับพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
“คุณย่า หลังจากนี้ฉันจะฉลองวันเกิดกับฟู่ซีเสินตลอด”
ฟู่ซีเสินไม่รู้ว่าจ้าวฉี่ฉิงพูดเพื่อให้คุณย่าของเขามีความสุขหรือว่าเธอพูดมาจากใจจริง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังจากหย่าแล้ว อดีตภรรยาของผมหวานขึ้นมาก