จ้าวหลิงหลิงกัดฟันกรอด จ้องมองแผ่นหลังของจ้าวฉี่ฉิง เพียงแค่ห้าปีที่พวกเธอจากกัน ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว
“แม่ ดูเธอสิ”
แววตาล้ำลึกของเหม่ยหลานจ้องมองจ้าวฉี่ฉิง ไม่เป็นไร สิ่งที่เธอสูญเสียไปต้องได้กลับคืนมาอย่างแน่นอน
แต่ครั้งที่เธอจากไปในตอนแรก เงินทั้งหมดที่นำไปด้วยเป็นเงินของสามีเธอ แล้วจ้าวฉี่ฉิงได้หุ้นมาจากไหน?
เมื่อนึกถึงใครบางคน สีหน้าของเหม่ยหลานก็พลันเปลี่ยน
คฤหาสน์ตระกูลอาน ฟู่ซีเสินยังไม่ได้เดินเข้าไปด้านใน ก็ได้ยินเสียงร้องตะโกนของคุณนายอานดังขึ้นมาเสียแล้ว “เกิดอะไรขึ้น? ไม่ใช่ว่าฉันบอกให้พวกเธอระมัดระวังกันหรอกหรือ สิ่งนี้ฉันจ่ายเงินซื้อมันมาราคาสูงมากเลยนะ”
หลังจากนั้นทั้งคฤหาสน์ก็กลับคืนสู่ความเงียบสงบ จนกระทั่งฟู่ซีเสิ่นเดินเข้ามา “คุณอา คุณน้าครับ”
คุณนายอานไม่สนใจคำทักทายอย่างเป็นมิตรของฟู่ซีเสิน สั่งให้คนรับใช้ไปเรียกอานหลินลงมา
“คุณอาไม่ได้ไปที่บริษัทเหรอครับ?”
คุณนายอานส่ายศีรษะ ตอบอย่างไม่ใส่ใจ “ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ได้ยินว่าวันนี้เธอจะมา แม้บริษัทเขายังไม่ยอมไป”
“อ้อ” ฟู่ซีเสินพยักหน้า ยกข้อมือขึ้นเหลือบดูเวลา
ตามที่คาดการณ์ไว้ สิบนาทีให้หลังอานหลินลงมายังชั้นล่างเรียบร้อยแล้ว เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการถ่วงเวลาไว้
อานหนิงเดินตามมาด้านหลังอานหลินลงมา เหลือบมองไปที่ฟู่ซีเสินเป็นครั้งคราว มีความเฝ้าปรารถนาอย่างชัดเจนในสายตาคู่นั้น
“คุณอา” ฟู่ซีเสินลุกขึ้นทักทายอย่างสุภาพ
“มาแล้วเหรอ?”
การกระทำของอานหลินกระตุ้นความไม่พอใจของคุณนายอาน เสียงเล็กๆ พูดขึ้น “รู้ว่าซีเสินจะมา ก็ไม่รู้จักลงมา”
“แม่ พูดอะไรน่ะ?” อานหนิงเดินผ่านอานหลิน ตรงไปหาฟู่ซีเสิน
เมื่อรอให้ทั้งสามคนนั่งลง ฟู่ซีเสินเอ่ยขึ้นเบาๆ “คุณอา คุณน้าครับ วันนี้ที่ผมมา เพื่อจะมายกเลิกงานหมั้น”
ทันทีที่ฟู่ซีเสินพูดจบ ผู้ช่วยเว่ยก็เดินเข้ามาจากด้านนอก พร้อมแสดงความจริงใจ “นี่คือค่าชดเชยของคุณหนูอานครับ”
เมื่อได้ยินว่าจะถูกถอนหมั้น อานหนิงคิดว่าตัวเองคงหูฝาดไป จึงต้องการยืนยันคำพูดของฟู่ซีเสินอีกครั้ง “ซีเสิน คุณพูดว่าอะไรนะ? ค่าชดเชยอะไร?”
ฟู่ซีเสินพูดเพียงแค่ไม่กี่ประโยค ก็ดับความเพ้อฝันของอานหนิงลงในทันที “ผมไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับคุณหนูอาน ไม่อยากทำให้เธอต้องเสียเวลา”
“ไม่ได้ ซีเสินคุณลืมข้อตกลงก่อนหน้านี้ของเราไปแล้วเหรอ? คุณสัญญาว่าจะอยู่กับฉันตลอดไป”
น้ำเสียงของอานหนิงแหบแห้งลงเรื่อยๆ มือทั้งสองข้างจับแขนของฟู่ซีเสินไว้แน่น
เขาสะบัดมือของอานหนิงออกอย่างไร้ความปรานี ถอยหลังไปหนึ่งก้าว “ผมหวังว่าท่านประธานอานจะเข้าใจ”
หลังจากที่ฟู่ซีเสินพูดจบ ผู้ช่วยเว่ยนำสัญญาออกมาวางไว้บนโต๊ะ แล้วออกไปจากคฤหาสน์ตระกูลอานอย่างรวดเร็ว
อานหลินไม่พูดอะไรเลยตั้งแต่ต้นจนจบ ราวกับคาดการณ์ล่วงหน้าไว้แล้วว่าจะต้องเกิดผลลัพธ์เช่นนี้
หลังจากที่ออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลอาน ฟู่ซีเสินหันหลังกลับไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ทิ้งผู้ช่วยเว่ยที่มาขึ้นรถช้าเกินไปเอาไว้เบื้องหลัง
“มีเวลาว่างไหม?”
ฟู่ซีเสินมองไปยังชื่อน่ารักๆ บนจอโทรศัพท์ รอยยิ้มปรากฏขึ้นมาที่มุมปากของเขา
“เมื่อไหร่?” จ้าวฉี่ฉิงพลิกเอกสารอ่าน พลางแบ่งพลังงานส่วนหนึ่งพูดคุยโทรศัพท์กับฟู่ซีเสิน
“กำลังยุ่งเหรอ?” เขาได้ยินเสียงพลิกกระดาษ ฟู่ซีเสินเริ่มเร่งความเร็ว
“อืม ช่วงนี้งานเยอะนิดหน่อยน่ะ ซ้ำยังมีปัญหากวนใจอีก”
จ้าวฉี่ฉิงขมวดคิ้วแน่น เธอชื่นชมผู้ดูแลบริษัทจากก้นบึ้งของหัวใจจริงๆ ที่ยังมีเวลาโทรมาหาเธอได้
“แต่คืนนี้มีเวลานะ”
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนเช้า จ้าวฉี่ฉิงเพิ่มความหนักแน่นให้กับความคิดที่ต้องมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับฟู่ซีเสิน
ในเมื่อพวกหล่อนไม่อยากให้ตัวเธอมีความสัมพันธ์กับฟู่ซีเสิน เธอจึงตัดสินใจทำเช่นนั้น
“ผมจองที่ที่ร้านอาหารมิทเชลล์ไว้ ที่ที่คุณและหรงเยี่ยนได้รับประทานร่วมกันครั้งสุดท้าย” ฟู่ซีเสินจงใจพูดเน้นประโยคสุดท้าย ราวกับว่าเขาต้องการทำทุกอย่างที่หรงเยี่ยนทำให้จ้าวฉี่ฉิง
“ได้” จ้าวฉี่ฉิงไม่ได้สนใจน้ำเสียงของฟู่ซีเสินมากนัก ตกปากรับคำอย่างขอไปที
“อืม ผมจะไปรับคุณ”
เรื่องโชคดีเพียงอย่างเดียวคือ ฟู่ซีเสินขับรถเอง ทำให้ผู้ช่วยเว่ยไม่ต้องคอยเป็นคนขับรถให้ไปตลอด
“คุณรอนานไหม?” ฟู่ซีเสินรีบที่ยังร้านอาหาร เห็นจ้าวฉี่ฉิงรออยู่อย่างเบื่อหน่าย
หลังจากที่ได้ยินเสียง จ้าวฉี่ฉิงยิ่งรู้สึกหมดอาลัยตายอยาก “ฉันดูเวลาผิดน่ะ”
มุมปากของฟู่ซีเสินเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ยากจะเผยให้เห็น ทำให้เขาเป็นเช่นนี้ได้ มีเพียงจ้าวฉี่ฉิงเท่านั้น
“หิวหรือยัง?”
ฟู่ซีเสินไม่ได้นั่งลงตรงข้ามจ้าวฉี่ฉิง แต่กลับนั่งลงบนเก้าอี้ที่พิงไว้ข้างๆ เธอ
ทันใดนั้นชายหนุ่มก็ขยับเข้ามาใกล้ ใบหน้าของจ้าวฉี่ฉิงเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ ร่างกายขยับถอยห่างไปเล็กน้อย ไม่กล้าจ้องมองไปในแววตาของฟู่ซีเสิน “ทำไมไม่นั่งฝั่งตรงข้ามล่ะ?”
“เป็นที่สำหรับสี่คน” ฟู่ซีเสินพูดอย่างคลุมเครือ
จ้าวฉี่ฉิงเข้าใจผิดคิดว่าฟู่ซีเสินเชิญคนอื่นมาด้วย จึงพยักหน้าเข้าใจ แล้วเอนทั้งร่างพิงไปที่ผนังด้านข้าง
“กลัวผมเหรอ?” ราวกับว่าฟู่ซีเสินมองความคิดของจ้าวฉี่ฉิงออก ชายหนุ่มค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้อย่างจงใจ ลมหายใจอุ่นกระทบใบหน้าของจ้าวฉี่ฉิง จนแก้มเธอขึ้นสีแดงระเรื่อ
ฟู่ซีเสินห้ามใจไม่ไหว จึงเอานิ้วจิ้มไปที่พวงแก้มอมชมพูของเธอเบาๆ ทันใดนั้นเสียหลักล้มลงไป
ความรู้สึกนุ่มนิ่มทำให้ฟู่ซีเสินชอบจนวางมือไม่ลง เขาเพิ่มระดับมากขึ้นอย่างอดใจไม่ได้ ทำให้จ้าวฉี่ฉิงคร่ำครวญด้วยความไม่พอใจ
“คุณทำอะไร?” ขณะที่พูดก็ถอยห่างจากมือของฟู่ซีเสิน อยากถอยหลังไปอีกแต่กลับไม่มีที่ให้หลบได้
“หน้าคุณนุ่มจัง” สายตาลึกล้ำของฟู่ซีเสินจ้องมองเข้าไปในแววตาของจ้าวฉี่ฉิง จากนั้นค่อยๆ เลื่อนลงมา หยุดอยู่ที่ริมฝีปากของเธอ
จ้าวฉี่ฉิงรับรู้ได้ถึงสายตาอันร้อนแรงของฟู่ซีเสิน จึงใช้พลังกำลังทั้งหมดผลักเขาออกไป แล้วกระแอมเบาๆ “คุณไม่อยากกินเหรอ?”
ฟู่ซีเสินยิ้มเบาๆ เลิกแกล้งจ้าวฉี่ฉิง แล้วเปลี่ยนสีหน้ากลับมาเป็นเช่นเดิม “อยากทานอะไร?”
จ้าวฉี่ฉิงผลักเมนูที่เลือกไว้เรียบร้อยแล้วไปตรงหน้าฟู่ซีเสิน เฝ้ารอร่วมหนึ่งชั่วโมง เธอคิดมาตลอดว่าจะรับประทานอะไร
“เยี่ยม แค่นี้เองเหรอ” ฟู่ซีเสินสั่งอาหารแบบเดียวกันเพิ่มอีกหนึ่งชุด
“คุณผู้ชายครับ พวกคุณต้องการรับอาหารเป็นแพกเกจคู่รักนะครับ” หลังจากที่พนักงานเสิร์ฟอ่านเมนู แล้วจึงเอ่ยถามคนทั้งสอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังจากหย่าแล้ว อดีตภรรยาของผมหวานขึ้นมาก