หลังจากหย่าแล้ว อดีตภรรยาของผมหวานขึ้นมาก นิยาย บท 58

“หัวหน้ารปภ.ค่ะ เร็วๆ นี้ฉันกับท่านประธานฟู่ของพวกคุณจะทำความร่วมกัน อย่าปล่อยให้คนที่แอบคิดวางแผนไม่ดีเข้าบริษัท เพราะผลลัพธ์ที่ตามมาคุณอาจจะรับมันไม่ไหวนะคะ”

จ้าวฉี่ฉิงย้ำเตือนเรื่องความปลอดภัยให้กับหัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยอย่างเป็นมิตร โดยมีอีกฝ่ายกำลังจ้องมองตามหลังขณะเดินจากไป

อานหนิงจ้องเธอด้วยความเกลียดชัง จนปัญญาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ตัวเธอเองคงต้องคิดหาวิธีอื่นซะแล้ว

ถ้าเธอแสร้งป่วย ฟู่ซีเสินจะไปเยี่ยมเธอหรือไม่?

เมื่อคิดได้เช่นนั้น อานหนิงก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วเดินตรงไปที่ประตูใหญ่

พนักงานรักษาความปลอดภัยเห็นว่าอานหนิงเดินจากไปอย่างรู้ว่าสิ่งใดควรไม่ควร จึงไม่ได้สนใจเธออีก

ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาข้างหน้า อานหนิงนอนกองอยู่บนพื้นด้วยท่าทางเจ็บปวด ปากพร่ำเพ้อเรียกชื่อฟู่ซีเสิน

“คุณผู้หญิง คุณเป็นอะไรไหม?” หัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยตื่นตระหนัก เกิดอุบัติขึ้นที่หน้าประตูบริษัท นั้นคือการบกพร่องต่อหน้าที่หัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยอย่างเขา

“ซีเสิน ฉันต้องการพบซีเสิน” พูดจบ อานหนิงก็ฝั่งศีรษะเข้าไปในอ้อมแขน ร่างกายขดตัวเข้าหากัน

หัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยอดสงสารไม่ได้ จึงทำได้เพียงแค่ให้ลูกน้องโทรหาฟู่ซีเสิน รอคอยคำตอบจากท่านประธาน

เมื่อได้ยินคำพูดของหัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัย อานหนิงก็ยิ้มบางๆ เพิ่มความเจ็บปวดให้มากขึ้นไปอีก

หลังจากนั้นสามนาที พนักงานรักษาความปลอดภัยอีกคนรีบวิ่งไปยังสถานที่เกิดเหตุ มองหัวหน้าทีมด้วยความลำบากใจ “หัวหน้าครับ ท่านประธานบอกว่าให้โยกย้ายการตรวจตรา หากเรามีส่วนเกี่ยวข้อง เขาจะรับผิดชอบเอง”

พูดจบประโยคสุดท้าย พนักงานรักษาความปลอดภัยก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

ถ้าอานหนิงไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี เธอก็จะถูกลงโทษไปตามกฎหมาย

เมื่อรู้ว่าการแกล้งป่วยไม่ได้ผล อานหนิงจึงลุกขึ้นยืน แล้วมองทั้งสองคนด้วยความรังเกียจ “ไม่ต้อง ฉันหายดีแล้ว”

เธอหยิบกล่องอาหารกลางวันขึ้นมาจากพื้น แล้วเดินหนีไปด้วยความอาย

จ้าวฉี่ฉิงยังไม่ได้ไปไหน จึงเห็นทุกอย่างเข้าโดยบังเอิญ ช่างน่าขันจริงๆ แม้แต่ตู้เซี่ยถงที่อยู่ข้างๆ ยังเม้มปากหัวเราะอย่างสนุกสนาน

“ท่านประธานจ้าว เราทำแบบนี้จะดีเหรอคะ?” ตู้เซี่ยถงรู้สึกว่าจ้าวฉี่ฉิงเปลี่ยนไป

ไม่ใช่คอยอยู่แต่ในห้องทำงานทั้งวันทั้งคืนเหมือนเมื่อก่อน แต่กลับให้ความสนใจเรื่องที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไรแบบนี้

จ้าวฉี่ฉิงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายวิดีโอเอาคืนด้วยความสะใจ มีร่องรอยของความเกลียดชังอยู่ในดวงตาสดใสคู่นั้น “ความเจ็บปวดที่ฉันได้รับในตอนนั้น เธอต้องได้รับมันเป็นสองเท่า”

พูดจบ จ้าวฉี่ฉิงก็เลือกวิดีโออันล่าสุดเพื่อแชร์ไปให้ฟู่ซีเสิน หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีก็มีข้อความตอบกลับเธอ “ทำไมไม่เข้ามา?”

แม้ว่าโลโก้ของเทียนจิ่งกรุ๊ปจะไม่ได้ถูกถ่ายติดไปด้วย แต่เมื่อเห็นอานหนิง ก็รู้ได้ทันทีว่าสถานที่ถ่ายวิดีโออยู่หน้าบริษัท

จ้าวฉี่ฉิงพิจารณาอยู่นาทีสองนาที ก่อนจะเปิดประตูรถ แล้วบอกกับตู้เซี่ยถงว่า “คุณกลับไปก่อน ฉันยังมีธุระ”

ตู้เซี่ยถงเห็นจ้าวฉี่ฉิงเดินเข้าไปในเทียนจิ่งกรุ๊ปโดยไม่มีอะไรกีดขวาง พนักงานกล่าวทักทายอย่างสุภาพ

จ้าวฉี่ฉิงเคาะประตูห้องทำงานเบาๆ สองครั้ง โดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบรับ เธอก็ดันประตูเข้าไป

เหนือความคาดหมาย ฟู่ซีเสินไม่ได้อยู่ในห้องทำงาน

ออกไปตอนนี้และทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะสายเกินไปไหมนะ?

เสี้ยววินาทีที่จ้าวฉี่ฉิงหันหลังเพื่อจากไป พลันได้กลิ่นกาแฟอันแสนคุ้นเคยโชยมา ความกังวลภายในใจหายไปทันที

เดิมตามกลิ่นกาแฟไป สายตาของจ้าวฉี่ฉิงจับจ้องไปที่แก้วกาแฟบนโต๊ะ มองเพียงแวบแรกเธอก็จำแก้วน้ำที่เธอใช้ครั้งล่าสุดได้ทันที

ในเมื่อรู้มาเธอจะมา กาแฟนี้คงเตรียมไว้สำหรับเธอ

จ้าวฉี่ฉิงหยิบแก้วกาแฟขึ้นจิบโดยไม่ลังเลใจ พลางหรี่ตาลงอย่างมีความสุข

แต่ปากกาหมึกซึมที่อยู่ไม่ไกล ดึงดูดความสนใจของจ้าวฉี่ฉิง

เธอจำที่ตัวเองเคยพูดได้ “ฉันอยากออกแบบปากกาสองด้าม ฝังด้วยเพชรสีชมพูและเพชรสีขาว”

หลังจากนั้น มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น ทำให้เธอไม่มีอารมณ์ที่จะออกแบบมัน ความคิดนี้จึงถูกลืมไปจนหมดสิ้น

ดูเหมือนว่าความทรงจำจะสัมผัสได้ถึงหัวใจของจ้าวฉี่ฉิง เธอหยิบปากกาขึ้นอย่างไม่อาจหักห้ามใจได้ วางนิ้วของเธอลงบนตำแหน่งที่ต้องการอยากฝังเพชร แล้วหมุนควงปากกาไปมา

หมุนไปได้หนึ่งรอบ จ้าวฉี่ฉิงรู้สึกได้ถึงความขรุขระ เมื่อยกนิ้วขึ้นดู เห็นเพชรสีขาวส่องแสงแวบวาบ

“เป็นคุณใช่ไหม?” จ้าวฉี่ฉิงจ้องมองเพชรสีขาวเป็นประกาย ภายในใจเกิดไหวหวั่นขึ้นมา ตรงตามที่เธอจินตนาการเอาไว้

ฟู่ซีเสินประชุมเสร็จก่อนกำหนด แต่กลับไม่เห็นแม้เงาของจ้าวฉี่ฉิง เมื่อเขาถามผู้ช่วยเว่ย จ้าวฉี่ฉิงก็เดินออกมาจากห้องรับรอง

ตอนนี้ดูเหมือนว่า เขาจำเป็นต้องสืบเรื่องของจ้าวฉี่ฉิงดูเสียหน่อยแล้ว โดยเฉพาะตอนที่เธอเข้ามหาวิทยาลัย

สังเกตเห็นความโศกเศร้าในหัวข้อสนทนา จ้าวฉี่ฉิงบังคับรอยยิ้มบนใบหน้า “ดูวิดีโอที่ฉันส่งให้คุณแล้วรู้สึกยังไงบ้าง?”

“เรื่องของเธอไม่เกี่ยวอะไรกับผม”

จุดยืนของฟู่ซีเสินชัดเจน พวกเขาตัดขาดการหมั้นหมายต่อกันแล้ว จากนี้ไปก็เป็นเพียงคนแปลกหน้า

ส่วนผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ฟู่ซีเสินยิ้มอย่างชั่วร้าย เขาเริ่มสนใจเธอมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วสิ

จู่ๆ ก็มีสายลมเย็นพัดเข้ามา จ้าวฉี่ฉิงกอดแขนตัวเองโดยอัตโนมัติ มองไปที่ฟู่ซีเสิน “ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยสบาย การประชุมในวันพรุ่งนี้อาจจะมาไม่ได้นะ”

จ้าวฉี่ฉิงค้นพบเหตุผลอันสมเหตุสมผล เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องพบเจอกับฟู่ซีเสินอีก

ในตอนนี้เธอมีเพียงความคิดเดียว กลับบ้านและค้นหาจดหมายของตัวเอง

“ได้”

ทั้งสองต่างจบบทสนทนาด้วยความคิดของตนเอง

เพื่อเคารพความเป็นส่วนตัวของจ้าวฉี่ฉิง ฟู่ซีเสินจึงไม่เคยเข้าแทรกแซงเรื่องของเธอ

แต่เพียงแค่เขาเห็นจ้าวฉี่ฉิงถือปากกาด้ามนั้นขึ้นมาสำรวจ ด้วยสีหน้าตกใจและน้ำตาคลอเบ้า ทำให้ฟู่ซีเสินไม่อาจเพิกเฉยได้

ฟู่ซีเสินเปิดลิ้นชักออก กล่องกระดาษสีชมพูที่ให้ความรู้สึกถึงช่วงอายุวัยนั้น ยังนอนแน่นิ่งอยู่ด้านในเงียบๆ ภายในกล่องมีปากกาฝังเพชรสีชมพูวางอยู่

“ท่านประธาน คุณจะให้ผมไปสืบเรื่องคุณหนูจ้าว?” ผู้ช่วยเว่ยต้องการยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ฟังผิดไป

“เริ่มจากโรงเรียนของเธอ”

น้ำเสียงเยือกเย็นของฟู่ซีเสินทำให้ผู้ช่วยเว่ยสับสน เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับทั้งสองคน?

“ท่านประธานครับ คุณหนูจ้าวเรียนโรงเรียนเดียวกับคุณ”

แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างทั้งสอง แต่ผู้ช่วยเว่ยก็บอกสิ่งที่เขารู้ออกไป​​​​​​​

เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ช่วยเว่ยพูด ฟู่ซีเสินหยุดการกระทำที่กำลังทำอยู่ทันที “เธอรู้จักอานหนิงใช่ไหม?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังจากหย่าแล้ว อดีตภรรยาของผมหวานขึ้นมาก