ฟู่ซีเสินใช้มือปัดโต๊ะให้จ้าวฉี่ฉิง “ชื่ออะไร?”
จ้าวฉี่ฉิงมองไปรอบ ๆ และกระซิบข้างหูของฟู่ซีเสิน “ฐานลับ”
ในขณะที่สนใจการเคลื่อนไหวของจ้าวฉี่ฉิงก็ไม่ได้สังเกตว่ามือของฟู่ซีเสินยังหยุดอยู่ที่เดิม จากนั้นก็นั่งลงบนที่นั่ง
“มีความลับอะไรงั้นเหรอ?”
“แน่นอน ทุกครั้งที่ฉันไม่สบายใจ ฉันจะไประบายกับต้นไม้ใหญ่ที่นอกประตู พอหิวก็มากินข้าว”
ในตอนนั้นความคิดของจ้าวฉี่ฉิงไร้เดียงสามาก เธออยากช่วงเวลาแห่งความสุขยาวนาน
แววตาของฟู่ซีเสินไม่สงบนิ่งอีกต่อไป นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทั้งสองได้คุยกัน
ฟู่ซีเสินไม่อยากทำลายบรรยากาศระหว่างทั้งสองคน เขาจึงเก็บความคิดของตัวเองกลับไป
เมื่อห้าปีก่อน เขาจำไม่ผิดแน่
ทั้งสองคนสั่งอาหาร และไม่นานก็มีคนมาเสิร์ฟอาหาร
จ้าวฉี่ฉิงมองไปยังคนที่มาและยิ้ม “ป้าเฉิน ป้ายังปวดเข่าอยู่ไหมคะ?”
เมื่อได้ยินเสียง อีกฝ่ายก็เงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย เธอก็จับมือของจ้าวฉี่ฉิงด้วยความดีใจ “ฉี่ฉิง หนูมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“เพิ่งมาค่ะ หนูเห็นว่าร้านอาหารกำลังคึกคัก เลยไม่ได้เรียกป้า” จ้าวฉี่ฉิงตอบอย่างเฉลียวฉลาด
สำหรับเถ้าแก่เนี้ยพูดได้ว่าเป็นเหมือนแม่ของเธอ ทุกครั้งที่จ้าวฉี่ฉิงมาทานอาหารก็จะไม่คิดเงิน จนในที่สุดเธอพบว่าพ่อของเธอให้เงินกับร้านอาหารจำนวนหนึ่ง
จ้าวฉี่ฉิงทานอาหารที่ร้านนี้มาสี่ปีแล้ว และสนิทสนมกับพวกเขา อีกทั้งจ้าวฉี่ฉิงจะได้รับของขวัญจากสองสามีภรรยาในช่วงวันปีใหม่
“ป้าคิดถึงหนูมาก ตั้งแต่เรียนจบ หนูก็ไม่ได้มาที่นี่เลย พวกเราคิดว่าหนูจะไม่กลับมาแล้วซะอีก”
สองสามีภรรยาเจ้าของร้านอาหารไม่มีลูก และเห็นว่าจ้าวฉี่ฉิงเป็นลูกสาวของพวกเขามาโดยตลอด
“ป้าเฉิน อย่าร้องไห้เลยค่ะ หนูกลับมาแล้ว และจะไม่ไปไหนอีก”
จ้าวฉี่ฉิงเช็ดน้ำตาให้เธอและมองไปที่ฟู่ซีเสินด้วยสายตาที่อ่อนโยน
หลังจากสงบสติอารมณ์แล้ว เถ้าแก่เนี้ยก็มองไปยังคนที่อยู่ข้าง ๆ เธอและยิ้มในทันที
“นี่เป็นสามีของหนูเหรอ?ช่างเหมาะสมกันเหมือนกิ่งทองใบหยก”
จ้าวฉี่ฉิงมองไปที่ฟู่ซีเสินอย่างเขินอาย แต่ก่อนใช่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว
ในขณะที่เธอกำลังจะอธิบายความสัมพันธ์ของตัวเองกับฟู่ซีเสินให้เถ้าแก่เนี้ยฟัง เธอก็ได้ยินเขาเอ่ยปาก
“สวัสดีครับป้าเฉิน ผมกับฉี่ฉิงทำงานอยู่ใกล้ ๆ ไว้จะมาที่นี่บ่อย ๆ นะครับ”
เมื่อเห็นว่าฟู่ซีเสินไม่ได้แก้ต่างกับเถ้าแก่เนี้ย จ้าวฉี่ฉิงก็หูแดงก่ำและหลบสายตา
ในเวลานี้ เสียงเถ้าแก่ก็ดังมาจากในครัว เถ้าแก่เนี้ยยิ้มทักทาย แล้วเดินจากไป
“ฟู่ซีเสิน ทำไมเมื่อกี้คุณถึงไม่บอกป้าแกไป? ดูเหมือนป้าแกจะเข้าใจผิดแล้ว”
“คุณยังไม่ได้แต่งงาน ผมยังไม่ได้แต่งงาน สุดท้ายแล้วในอนาคตก็ไม่แน่”
จ้าวฉี่ฉิงไม่ตอบ แต่หยิบตะเกียบขึ้นมาลิ้มรสอาหารในความทรงจำของเธอ
เขาไม่ถือสา และมองดูจ้าวฉี่ฉิงทานอาหารด้วยสายตาที่แน่วแน่
รสชาติที่คุ้นเคยทำให้จ้าวฉี่ฉิงไม่สามารถควบคุมความอยากอาหารของตัวเองได้ชั่วขณะหนึ่ง หลังจากที่วางตะเกียบลง เธอก็สะอึก
เธอรีบปิดปากของตัวเอง และสังเกตปฏิกิริยาของฟู่ซีเสิน
ฟู่ซีเสินมองเธออย่างเงียบ ๆ และดูเหมือนว่าเขาจะยิ้ม
"ดื่มน้ำหน่อย" ฟู่ซีเสินหยิบแก้วน้ำให้จ้าวฉี่ฉิง ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ในขณะที่เธอเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำ ฟู่ซีเสินก็ตบหลังมือของเธออย่างแรง
"ฟู่ซีเสิน คุณทำอะไรอ่ะ?” จ้าวฉี่ฉิงดูงุนงง ผู้ชายคนนี้เป็นบ้าอะไรอีก?
"ช่วยให้คุณหยุดสะอึกไง" เมื่อกี้ที่ฟู่ซีเสินหยิบแก้วน้ำขึ้นมา เขามองไปที่จ้าวฉี่ฉิงอย่างเฉยเมย
เมื่อได้ยินอย่างนี้ จ้าวฉี่ฉิงก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นเธอก็รู้สึกว่าอาการสะอึกของตัวเองหายไปแล้ว “จริงด้วย”
“อย่าใช้สายตาที่ดูเหมือนโง่มองผมสิ”
ฟู่ซีเสินหลบตาจ้าวฉี่ฉิง และมองออกไปนอกหน้าต่าง
จากมุมมองของเขา สามารถเห็นต้นไม้เก่าแก่ที่จ้าวฉี่ฉิงพูดถึงได้พอดี ต้นไม้ต้นนั้นคงจะรู้ความลับมากมายของจ้าวฉี่ฉิง
ในขณะที่ฟู่ซีเสินกำลังใจลอย จ้าวฉี่ฉิงก็เดินไปที่ห้องครัว
เมื่อได้ฟังเรื่องตลกในห้องนั่งเล่น จ้าวฉี่ฉิงก็รู้สึกว่ามันน่าขำ แม่ลูกทะเลาะกันเรื่องเงินค่าอาหาร
เธอจำได้ว่าเหม่ยหลานเอาเงินไปกว่าสิบล้าน
“ทำไมเธอยังอยู่ที่นี่อีก?” จ้าวหลิงหลิงยังคงโมโห และมองไปที่จ้าวฉี่ฉิงอย่างไม่พอใจ
เมื่อเห็นอาหารในถุงก็พูดเหน็บแนมว่า“เป็นท่านประธานช่างแตกต่างออกไปจริง ๆ พอถึงมื้อเย็นก็มีอาหารมาให้เจ็ดอย่าง”
จ้าวฉี่ฉิงเหลือบมองจ้าวหลิงหลิง และไม่พูดอะไร
โต้เถียงกับคนประเภทนี้ เปลืองน้ำลายเปล่า ๆ
ในขณะที่จ้าวหลิงหลิงกำลังจะพูด ท้องของเธอก็ร้องโครกคราก
เธอหน้าแดงและเอามือกุมท้อง จากนั้นก็นั่งลงบนโซฟาด้วยความโกรธ
จ้าวฉี่ฉิงไม่สนใจ เธอเอาอาหารเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟ และกลิ่นก็หอมอบอวลไปทั่วทั้งห้อง
เมื่อเห็นจ้าวหลิงหลิงชะโงกหน้า จ้าวฉี่ฉิงก็หัวเราะเบา ๆ
“ถ้าเธออยากกินก็กินที่เหลือของฉัน”
จ้าวหลิงหลิงมองไปที่จ้าวฉี่ฉิงด้วยความรังเกียจ “ฉันไม่กินของเหลือ”
เพียงแต่ร่างกายของจ้าวหลิงหลิงซื่อสัตย์ ในขณะที่พูดเธอก็กลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว
“เช่นนั้นก็ได้” จ้าวฉี่ฉิงยักไหล่อย่างเฉยเมย ถึงอย่างไรเธอก็ไม่ได้ใจดีขนาดนั้น
หลังจากที่จ้าวฉี่ฉิงจากไป จ้าวหลิงหลิงก็ดื่มน้ำหนึ่งแก้ว เพื่อบรรเทาความหิว
แต่ในที่สุดเธอก็ทนหิวไม่ไหว เธอจึงลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในครัว เพื่อดูว่ามีอะไรที่พอจะกินได้บ้าง
บนเตายังมีกล่องอาหารวางอยู่อีกกล่อง จ้าวหลิงหลิงเหลือบมองแล้วก็ออกไป
“ทำไมไม่กินล่ะ?” จ้าวฉี่ฉิงหันกลับไปมองจ้าวหลิงหลิง นั่นเป็นอาหารที่เธอเก็บไว้ให้จ้าวหลิงหลิงโดยเฉพาะ
“บอกแล้วไงว่าไม่กินเด็ดขาด” จ้าวหลิงหลิงยังคงยืนกราน
จ้าวฉี่ฉิงยิ้ม “ถ้าไม่มีแรง แล้วจะทะเลาะกับแม่ได้อย่างไร?”
หลังจากที่พูดจบ เธอก็โยนกล่องอาหาที่เหลือทิ้งลงในถังขยะ จากนั้นก็ตบท้องแล้วกลับไปที่ห้อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังจากหย่าแล้ว อดีตภรรยาของผมหวานขึ้นมาก