ภายในห้องสีชมพูแสนอบอุ่นของหญิงสาว
ชัชนันท์หยิบนาฬิกาข้อมือฝังเพชรของผู้ชายเรือนหนึ่งขึ้นมาดูอยู่ใต้โคมไฟคริสตัลซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความเบิกบานใจ
นาฬิกาเรือนนี้เป็นรุ่นที่มีเพียงไม่กี่เรือนทั่วโลกซึ่งเธอตั้งอกตั้งใจเลือกมันมาจากห้างสรรพสินค้า
เธอคิดว่าถ้าพี่วินกลับมาเห็นต้องชอบแน่ๆ
"ตื๊ดๆๆ----" ตอนนี้เอง ชลิตาน้องสาวของเธอก็วิดีโอคอลเข้ามา
เมื่อชัชนันท์กดรับ จึงได้เห็นมุมปากที่ยิ้มเยาะอวดดีของชลิตาปรากฏอยู่ในกล้อง----
"พี่สาวที่รัก พี่คงไม่ได้เชื่อคำพูดหลอกลวงของพี่วิน ที่บอกว่าวันนี้ยุ่งมากๆพรุ่งนี้ถึงจะกลับประเทศได้จริงๆใช่ไหม?"
ชัชนันท์หน้าตางุนงง "หมายความว่าไง?"
ชลิตาที่อยู่ในกล้องไม่ได้สวมเสื้อผ้า สายตาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม ยิ้มกว้างมากขึ้น----
"ฮ่าๆ โง่ขนาดนั้นก็สมน้ำหน้าที่พี่โดนสวมเขาแล้วแหละ นี่เป็นของขวัญที่ฉันมอบให้พี่นะ แหกตาอ้วนๆของพี่ดูให้ชัดๆ"
ประมาณสองนาทีต่อมา ฉากแนบชิดระหว่างชลิตากับมาวินก็กระแทกเข้ามาในดวงตาของเธอทันที
เห็นฉากหลังในวิดีโอ คงจะอยู่บนโซฟาในห้องรับแขกของบ้านมาวินสินะ
ดังนั้นที่เขาบอกว่าวันนี้ยุ่งมาก ก็คือยุ่งอยู่กับการสร้างสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับน้องสาวคนละแม่ของเธองั้นเหรอ? !
เริ่มตั้งแต่ตอนสิบเอ็ดขวบ เธอหลงรักผู้ชายคนนี้มาเจ็ดปีเต็มๆ เขาเป็นฝันดีในวัยเด็กของเธอ เป็นความรักในวัยสาวของเธอ
เธอแทบจะทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างของตนเองเพื่อมาวิน เธอคิดมาโดยตลอดว่าเขาจะไม่มีวันหักหลังตนเอง
"พี่วิน พี่เคยทำอย่างนี้กับชัชนันท์ไหม?" ในวิดีโอชลิตากำลังมองกล้องด้วยแววตายั่วโมโห
"อย่าทำให้พี่สะอิดสะเอียนเลย ยัยหมูตอนนั่นน่ะ แค่พี่เห็นก็จะอ้วกแล้ว เธอคิดว่าเป็นไปได้เหรอ?" มาวินพลางจูบเธอพลางพูดขึ้น
ฝ่ายชายที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ เหมือนไม่รู้ตัวเลยว่ามีกล้องกำลังถ่ายเขาอยู่
ฉากสกปรกๆแต่ละฉากราวกับมีดเย็นเฉียบ ที่กรีดปากแผลในใจของเธอสลับไปสลับมาทีละเส้นๆ
ทำให้เธอเจ็บจนหายใจไม่ออก
ชัชนันท์เงยหน้าขึ้นมองกระจกเต็มตัวที่อยู่ฝั่งตรงข้าม บานกระจกใสแจ๋วสะท้อนสภาพของเธอในตอนนี้ออกมา
เธออวบอ้วนไปทั้งตัว ใบหน้าเต็มไปด้วยกระ ไม่มีท่วงทีงดงามของสาวสวยอันดับหนึ่งของเมืองสินธุที่เคยมีชื่อเสียงเลื่องลืออีกแล้ว ก็เป็นแค่ยัยหมูตอนคนหนึ่งจริงๆไม่ใช่เหรอ?
แต่เขาเคยพูดอยู่ชัดๆ ที่เธอต้องเปลี่ยนเป็นอย่างนี้ก็เพราะเขา ดังนั้นเขาจะไม่มีวันรังเกียจเธอ!
ด้วยความโมโห เธอจึงขับรถสปอร์ตของตนเอง ไปที่คฤหาสน์ของมาวินโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น----
ชายหญิงบนโซฟา เมื่อเห็นเธอมาถึงที่นี่จึงตัวสั่นขึ้นมาพร้อมๆกันทันที
"เธอมาได้ยังไง?" มาวินถามเหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่แววตายังคงตกใจอยู่เล็กน้อย
จากนั้นเขาจึงลุกขึ้นมา สวมชุดคลุมอาบน้ำด้วยท่าทีผ่อนคลาย ค่อยๆเดินไปที่ด้านหน้าเธอ พูดอย่างเย็นชา:
"ในเมื่อเธอเข้ามาเห็นพอดี งั้นฉันจะพูดตรงๆเลยแล้วกัน ชัชนันท์เราเลิกกันเถอะ ฉันรักน้องสาวของเธอ"
แต่ละคำที่กรอกเข้ามาในหู ราวกับเป็นมือที่โหดเหี้ยมคู่หนึ่งซึ่งกำลังฉีกหัวใจของเธอจนไม่เหลือชิ้นดี
ชลิตายิ้มเยาะ รีบสวมเสื้อเชิ้ตของมาวิน แล้วคล้องแขนเขาอย่างไม่หวั่นเกรง บนใบหน้าสวยๆเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม:
"จริงๆพี่วินเบื่อหน่ายพี่ตั้งนานแล้วแหละ แค่ไม่รู้จะพูดกับพี่ยังไงก็เท่านั้น"
คำพูดของชลิตาราวกับน้ำเย็นๆถังหนึ่งที่ราดอยู่บนหัวของเธอ ทำให้เธอตาสว่างขึ้นมาทันที
จริงๆเธอควรจะรู้ตัวนานแล้วนะ ตั้งแต่หลังจากที่เธอกลายเป็นคนไม่สวย เขาก็ปฏิบัติกับเธอไม่เหมือนเดิมเลย
เธอเอาแต่ปลอบใจตัวเองอย่างโง่ๆว่าเขาทำงานเหนื่อยจนเกินไป จึงไม่มีกะจิตกะใจที่จะเอาใจใส่ในเรื่องความรัก
"ใช่ ต่อให้วันนี้เธอไม่ได้บังเอิญมาเจอ ฉันก็คิดไว้ว่าพรุ่งนี้จะบอกเธออยู่แล้ว ชัชนันท์เธอมันไม่คู่ควรกับฉัน!"
"คนในครอบครัวฉันก็อยากให้ฉันรีบๆเขี่ยเธอทิ้งไปจะแย่แล้ว ดังนั้นเราจากกันด้วยดีเถอะ"
"ความต้องการของคนในครอบครัวฉันก็คือ อยากให้เธอเห็นแก่ที่พวกเราคบกันมา เป็นฝ่ายแบกรับภาระนั้นไปเอง"
"ไปบอกพ่อของเธอนะ ว่าเธอไม่ต้องการฉันแล้ว เธออยากจะถอนหมั้น"
มาวินยังคงพูดต่อไปอย่างเย็นชา ถ้าเขาต้องอยู่กับยัยหมูตอนนี่ไปตลอดชีวิต สู้ให้เขาไปตายดีกว่า!
คำพูดของเขา เสียดแทงซ้ำๆเข้ามาในใจที่แหลกละเอียดเป็นชิ้นๆของเธออีกครั้ง
เริ่มแรก แม่ของเขาป่วยจำเป็นต้องได้รับการเปลี่ยนไต
"แต่ว่า ช่วยโยนผู้หญิงคนนี้ออกไปข้างนอกก่อนได้ไหม? ตาเห็นแล้วอึดอัดจัง......" ชลิตาพูดต่อ
พอชลิตาพูดจบ มาวินก็ดึงผมหางม้าของชัชนันท์เอาไว้ ลากเธอไปถึงนอกประตู ราวกับลากตุ๊กตาผ้าเน่าๆตัวหนึ่งอย่างนั้น
แล้วเขาก็ปิดประตูทันที ไม่มองเธอด้วยซ้ำ
ร้องไห้อยู่นาน ชัชนันท์ถึงได้ขึ้นไปบนรถเหมือนกับศพเดินได้ เหยียบคันเร่งออกไปจากคฤหาสน์ของมาวิน
หน้าท้องที่โดนเหยียบ จู่ๆก็เริ่มเจ็บแปลบ ภาพด้านหน้าของเธอจึงดับลงในทันที......
ทำให้รถสปอร์ตสูญเสียการควบคุมอย่างฉับพลัน พุ่งชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ข้างทาง
เนื่องจากไม่ได้คาดเข็มขัด ทั้งตัวของเธอจึงลอยออกไปนอกรถ หล่นลงไปในกองหิมะข้างทาง
เธอพยายามจะคลานออกมา แต่กลับไม่มีเรี่ยวแรงเลยสักนิด เจ็บปวดไปทั้งตัว
หิมะที่กำลังปลิวตกลงมา ทีละนิดๆ ปกคลุมเธอเอาไว้ เหน็บหนาวไปจนถึงกระดูก
ข้างถนนที่กว้างโล่ง ใครๆก็คงไม่รู้ว่าร่างที่โดนหิมะปกคลุมเอาไว้ จะเคยเป็นหญิงสาวที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่งของเมืองสินธุ
ความเจ็บปวดแต่ละแห่งบนร่างกาย ยังคงแพร่กระจายไปเรื่อยๆ สติของเธอค่อยๆเลือนราง
เธอรู้ว่า ตนเองคงใกล้จะตายแล้ว
น่าขำชะมัด ไม่คิดว่าจุดจบของตนเอง จะเป็นอย่างนี้
ถ้าคราวนี้เธอยังรอดไปได้ เธอจะแก้แค้นพวกเขาอย่างสาสมแน่นอน!!
ในวินาทีนั้นที่เธอหมดสติไปอย่างสมบูรณ์ รองเท้าหนังสีดำคู่หนึ่งก็ปรากฏอยู่ที่ด้านหน้าของเธอ......
ในคืนวันนั้น ชัชนันท์ก็หายตัวไป แค่ส่งข้อความทางไลน์ไปให้วันชัยพ่อของเธอ บอกว่าตนเองจะออกไปเที่ยวสักระยะหนึ่ง
จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย......
เธอไปไหนกันแน่ ทั้งเมืองสินธุพากันแสดงความเห็นไปต่างๆนานา
แต่จากปากของมาวินคู่หมั้นของเธอ ท้ายที่สุดคนอื่นๆก็ได้รู้ว่า ที่แท้คุณชัชนันท์คนนี้ หนีตามใครไปแล้วนี่เอง......
ช่างเป็นความอัปยศของตระกูลรัตนากรกุลจริงๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว
บทที่ 244-339 หาอ่านได้ที่ไหนค่ะ...
คมสันกับขจีจบลงยังไงคะ...