หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 231

“คุณนันท์ให้ฉันอยู่ที่นี่เพื่อดูแลเธอจนกว่าจะหายดีค่ะ” นลินยิ้มเล็กน้อย

“อ๋อ” เขาราวกับกลัวดอกพิกุลจะร่วงจากปาก หมุนตัวแล้วเดินขึ้นข้างบนไป ไม่ได้พูดอะไรต่อ

“มื้อค่ำวันนี้ฉันเป็นคนทำ อีกเดี๋ยวคุณก็ลงมาทานด้วยนะคะ” นลินมองแผ่นหลังของเขาแล้วพูด

เขาไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ เดินไปด้านหน้าอย่างเดียว

พอเดินมาถึงหน้าประตูห้องนอน เขาก็มองประตูที่ปิดแน่นสนิท หลังจากนั้นก็กลับไปที่ห้องของตัวเองข้างๆ

เวลามื้อค่ำ นลินทำกับข้าวหกอย่าง ผัดผักรวมมิตร ปลิงทะเลผัดหัวหอม ซุปไก่โสม ตีนไก่น้ำแดงไม่มีกระดูก ซี่โครงหมูน้ำแดง ผัดกะหล่ำปลี

ทั้งสามคนพึ่งจะได้นั่งลง มือถือของแทนไทก็ดังขึ้น

คนที่โทรมาคือธนิดา

เขาคีบผัดผักรวมมิตรที่ชัชนันท์ชอบให้เธอก่อน หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นเดินไปที่ข้างหน้าต่าง มองวิวทิวทัศน์ภายในเรือน แล้วรับสายโทรศัพท์

“มีอะไร?”

“พี่ห้า ฉันจบเห่แล้ว…...”

“ทำไม?”

“แม่รู้แล้วว่าฉันแอบกลับประเทศมา เมื่อกี้พึ่งจะโทรมาหา บอกให้ฉันรีบกลับไปหาท่าน ฉันจะทำยังไงดี”

“เธอกลับไปก่อน พี่จะไปเดี๋ยวนี้” เขานวดขมับพูดด้วยความกลัดกลุ้ม

พอได้ยิน ในใจชัชนันท์ก็เจ็บแปลบขึ้นมาทันที แววตาสุกสกาวเลือนหายไป

ผักที่เคี้ยวอยู่ในปาก จู่ๆก็ไม่อร่อยขึ้นมา

เธอเงยหน้าขึ้นอย่างไม่รู้ตัว มองแผ่นหลังที่ตรงทื่อของเขา ในใจซับซ้อนไปหมด

แฟนของเขาโทรมาต้องการจะเจอเขางั้นเหรอ?

ความสัมพันธ์ของพวกเขาเหมือนว่าจะดีมาก แค่เรียกเขาก็ไปทันที

ทั้งๆที่รู้ว่าไม่ควรสนใจ ทั้งๆที่รู้ว่าควรจะห้ามใจไว้ แต่ทำไมเธอก็ยังทำไม่ได้สักที?

แทนไทวางสายโทรศัพท์ แล้วหมุนตัวกลับมาที่โต๊ะกินข้าว มองไปยังใบหน้าของชัชนันท์ “พวกคุณกินกันก่อนเลย ผมมีธุระต้องออกไปจัดการสักหน่อย”

ไม่รอให้ชัชนันท์เอ่ยปาก เขาก็ก้าวเท้ายาวออกจากประตูไป

ชัชนันท์กัดตะเกียบเบาๆ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน เหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่าง

เห็นภาพแบบนี้แล้ว นลินก็ตบบ่าเธอเบาๆเพื่อปลอบโยน

ชัชนันท์มองไปทางเธอแล้วฝืนยิ้มออกมา หลังจากนั้นก็กินต่อ

“ช่วงนี้ ไอดอลวัยรุ่นดังขึ้นทุกวัน ยอดไลค์ขึ้นท็อปอันดับที่หนึ่งแล้ว......” นลินเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างรวดเร็ว

“อืม”

“ฉันลืมไปเลยว่าจะบอกเธอ สองวันก่อนฉันกับธนิดาวรแล้วก็เกตน์ทั้งสองคนคุยเรื่องเล่นซีรี่ย์วายกัน พวกเขารับปากแล้วนะ ว่าต่อไปพวกเขาจะยึดตามบทของฉัน เล่นไปตามธรรมชาติ” นลินพูด

“ดีแล้ว” ชัชนันท์ยิ้ม “ยึดตามทางที่พวกเราปูไว้ล่วงหน้าก็โอเคแล้ว”

นลินพยักหน้า “อืม…...ฉันเชื่อว่าใช้วิธีนี้ทำการตลาด พวกเขาทั้งสองจะต้องดังภายในระยะเวลาสั้นๆอย่างรวดเร็วแน่นอน”

………………

ในคฤหาสน์หกชั้น ณ ชานเมือง รถแท็กซี่คันหนึ่งจดสนิทลง

หลังจากที่ธนิดาจ่ายเงิน ก็ลงจากรถอย่างระมัดระวัง

หลังจากที่คนขับรถแท็กซี่มองคฤหาสน์ที่หรูหราตรงหน้าอย่างตกใจแล้ว ก็หันหัวรถ ขับกลับไปอย่างเสียดาย

คนขับรถขับรถไปด้วย มองบริเวณโดยรอบที่หรูหราไปด้วยแล้วทอดถอนใจ “โลกของคนมีเงิน คนปกติทั่วไปจินตนาการไม่ถึงจริงๆ”

ธนิดาถอนหายใจออกมา มือทั้งสองประสานกันอย่างรวดเร็ว ภาวนาบนท้องฟ้าให้กับตัวเอง

หลังจากนั้น เธอก็ก้มศีรษะลง เดินเข้าไปในคฤหาสน์ด้วยความกล้าๆกลัวๆ

ห้องรับแขกเปิดไฟสว่างโร่ ราวกับกลางวัน บรรยากาศเงียบจนเสียงของข็มหล่นเธอก็ยังได้ยินเสียงอย่างชัดเจน

เธอรู้ นี่ต้องเป็นความเงียบสงบก่อนที่พายุลูกใหญ่จะโหมกระหน่ำอย่างแน่นอน

“แต่เธอก็เรียนดี แบบนี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะครับ”

“ปัญหามันไม่ใช่เรียนดีหรือไม่ดี เด็กนักเรียนก็ต้องมีบุคลิกของเด็กนักเรียน เรียนดีก็ไม่ใช่เหตุผลของการหนีเรียน ถ้าทุกคนเป็นแบบนี้กันหมด งั้นโรงเรียนอื่นก็คงไม่ต้องเปิดให้เรียนกันแล้ว” กชนิภายังคงรักษาความเคร่งขรึมไว้อยู่

ความจริงเธอแค่เห็นธนิดาก็ใจอ่อนแล้ว พอได้ฟังคำพูดของแทนไท ไหนจะธันวาอีก เธอก็ยิ่งใจอ่อนเข้าไปใหญ่

แต่เพื่อให้ธนิดารู้ข้อผิดพลาดของตัวเอง เธอทำได้แค่ต้องรักษาภาพพจน์นี้ไว้

ธนิดาโผล่หน้าออกมาจากด้านหลังธันวาอย่างระมัดระวัง แล้วพูดอย่างสงสาร “แม่คะ หนูผิดไปแล้วจริงๆ ครั้งต่อไปหนูจะไม่ทำอีกแล้วค่ะ”

“ลูกพูดมากี่ครั้งแล้ว?” กชนิภาขมวดคิ้วถาม

“ครั้งนี้พูดจริงนะคะ หนูรับประกัน แม่ หนูคิดถึงแม่มาก อยากกอดแม่” ธนิดาทำเสียงอ้อน

ความจริงแม่ก็รักและเอ็นดูเธอมาก

แต่รักก็ส่วนรัก เวลาที่เธอทำผิด แม่ก็ห้ามใจอ่อน ถ้าควรทำโทษก็ต้องทำ

เพราะงั้น ครั้งนี้ ท่าทางของเธอไม่ได้ปล่อยไปง่ายๆอีกแล้ว

“งั้นลูกกลับไปมะรืนนี้” กชนิภาพูด

“ค่ะ…...” ธนิดาพยักหน้า

“ถ้ามีครั้งหน้าแล้วแม่จับได้ล่ะก็ แม่จะยึดตามกฎของบ้านเรา” กชนิภาพูด

ธนิดาพยักหน้าอีกครั้ง หลังจากนั้นก็นั่งข้างกชนิภาอย่างระมัดระวัง คล้องแขนเธอแล้วอ้อน “หนูไม่กล้าแล้วจริงๆค่ะ”

กชนิภาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป แขนยื่นออกมากอดเธอไว้อ้อมอก สีหน้าเหนื่อยใจ “ลูกน่ะสิบแปดแล้วนะ ทำไมถึงยังเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้?”

“เพราะคนที่รักและเอ็นดูหนูเยอะไปหน่อย ก็เลยเป็นแบบนี้ล่ะมั้งคะ” ธนิดายิ้มตาหยี ความกังวลในใจก็ค่อยๆหายไป

ธันวามองสถานการณ์ ก็เลยถอนหายใจ “เอาล่ะ ผมต้องไปถ่ายงานต่อแล้ว ธนิดาอยู่กับแม่ไปแล้วกันนะ”

แทนไทก็ลุกขึ้นเช่นกัน “ผมก็ไปเหมือนกันครับ”

“เดี๋ยวก่อน แม่มีเรื่องจะคุยกับพวกลูก” กชนิภามองพวกเขาสองพี่น้องแล้วพูด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว