เมื่อทั้งสองออกจากกระท่อมเดินลัดเลาะเข้าสู่ตัวเมือง ไป๋หลันครุ่นคิดอยู่ในใจว่าทำไมพวกขอทานเร่ร่อนและคนยากไร้ถึงมีจำนวนมากขนาดนี้ วันนี้ที่มารับอาหารก็ประมาณสองร้อยคนเห็นจะได้ นางคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะให้ชาวบ้านพวกนี้มีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม
"พี่ใหญ่ข้าอยากทำให้ชาวบ้านที่ยากไร้และขอทานเร่ร่อนมีชีวิตที่ดีขึ้นพี่ใหญ่มีความคิดเห็นเช่นไรเจ้าคะ" ไป๋หลันเอ่ยถามความคิดเห็นของพี่ชาย
"เจ้าจะทำเช่นไรได้ขนาดท่านเจ้าเมืองเหอก็ยังหาวิธีแก้ไขเรื่องนี้ไม่ได้เลย" เฉินกยางเอ่ยบอกน้องสาว
"คนขอทานเร่ร่อนไม่มีที่อยู่อาศัย เราก็ช่วยให้พวกเขามีที่อยู่อาศัยกันสิเจ้าคะ" ไป๋หลันเอ่ยตอบออกไปพลางคิดถึงศูนย์พักพิงคนไร้บ้านในโลกเก่าของนาง
"เจ้าจะสร้างบ้านให้พวกเขาอยู่หรือ? แล้วคนตั้งมากมายเจ้าจะทำอย่างไร" เฉินหยางเอ่ยถามอย่างสงสัยว่านางมีแผนจะทำอย่างไรผู้คนมากมายขนาดนั้นคงวุ่นวายเป็นแน่
"ข้าเรียกว่าศูนย์พักพิงคนไร้บ้านเจ้าค่ะพี่ใหญ่ ท่านพอจะทราบหรือไม่ว่ามีที่ดินแถวไหนขายบ้างเอาแปลงใหญ่ ๆเลยเจ้าค่ะ" ไป๋หลันเอ่ยถามพี่ชายทันที เมื่อมีแผนการผุดขึ้นมาในหัว
"พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันเราต้องลองไปถามกับกรมที่ดินดูว่ามีแปลงไหนขายบ้าง"
"ถ้าอย่างนั้นเราลองไปถามกรมที่ดินกันเถอะเจ้าค่ะ"
"เจ้าช่างใจร้อนเสียจริง ๆ เลย" เฉินหยางเอ่ยบอกน้องสาว
เมื่อพูดจบทั้งสองก็เดินทางไปยังกรมที่ดินทันที เมื่อมาถึงกรมที่ดินก็สอบถามรายละเอียดว่ามีที่ดินว่างเปล่าแปลงใหญ่ขายหรือไม่ ท่านกรมเจ้าที่ก็กางสมุดจดรายการที่ดินออกมาดูพบว่ามีที่ดินสามสิบห้าไร่และห้าสิบไร่ที่ว่างอยู่ เมื่อสำรวจดูพบว่าแปลงที่มีขนาดห้าสิบไร่นั้นเป็นที่ราบเหมาะแก่การเพาะปลูกอยู่ไม่ห่างตัวเมือง
เมื่อปรึกษากันแล้วก็ตกลงซื้อที่ดินแปลงห้าสิบไร่ในราคาสองหมื่นเหรียญทอง หลังจากทำสัญญาซื้อขายและได้โฉนดที่ดินเรียบร้อยทั้งสองก็เอ่ยลาท่านกรมเจ้าที่แล้วตรงกลับบ้านทันที
"หลันเอ๋อร์ เจ้าวางแผนเอาไว้หรือยังว่าจะทำอย่างไร" เฉินหยางเอ่ยถามเขากลัวว่าน้องสาวจะทำไม่ไหว เขาเองก็ยังมองไม่ออกเลยว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไร
"เอาไว้ค่อยคุยกันพร้อมท่านพ่อ ท่านแม่ดีกว่าเจ้าค่ะจะได้ปรึกษาท่านด้วยพวกท่านยังไม่ทราบว่าข้าจะสร้างศูนย์พักพิง" ไป๋หลันเอ่ยบอกพี่ชายนางคิดว่าบิดาและมารดาจะต้องสนับสนุนนางอย่างแน่นอนเพราะท่านทั้งสองมีจิตใจดี
"เช่นนั้นเรารีบกลับกันเถิด" เฉินหยางเอ่ยบอกน้องสาว แล้วทั้งสองก็รีบเดินกลับบ้านทันที
# บ้านสกุลหลิน
เมื่อทั้งหมดกินอาหารเย็นกันเรียบร้อยก็ออกมานั่งกันที่ห้องโถงเพื่อพูดคุยปรึกษาหารือกัน ไป๋หลันจึงเอ่ยเล่าเรื่องราวที่นางจะสร้างศูนย์พักพิงคนไร้บ้านให้บิดาและมารดาฟัง
"จะสร้างศูนย์พักพิงคนไร้บ้านหรือ? มันเป็นอย่างไรหรือหลันเอ๋อร์" เฉินหยวนเอ่ยถามบุตรสาวเขาเองก็ไม่เคยได้ยินว่ามีศูนย์แบบนี้ที่เมืองใดเลย
"เจ้าค่ะท่านพ่อ ศูนย์พักพิงคนไร้บ้านคือเราสร้างบ้านพักอาศัยให้กับคนที่ไม่มีที่อยู่ และลูกก็จะสร้างอาชีพให้พวกเขาด้วยเจ้าค่ะ" ไป๋หลันเอ่ยบอกบิดาให้เข้าใจในสิ่งที่นางกำลังจะทำ
"ฟังดูแล้วก็เข้าท่าดีหลันเอ๋อร์แต่พวกเขาจะมาฝึกอาชีพกับเจ้าหรือ? บางคนเลือกอาชีพขอทานเพราะขี้เกียจทำมาหากิน" เฉินหยางเอ่ยบอกบุตรสาว
"ไม่ป็นไรเจ้าค่ะพี่ใหญ่ถ้าพวกเขาจะออกไปขอทานก็ย่อมได้ แค่ให้พวกเขามีที่พักไม่ต้องไปนอนข้างถนนก็พอเจ้าค่ะ" นางเองก็พอจะทราบอยู่บ้างไม่ว่ายุคสมัยไหนก็ยังมีคนแบบนี้อยู่เช่นกัน
ไป๋หลันตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวแล้วเดินออกมาด้านนอกเพื่อเตรียมอาหารเลี้ยงชาวบ้าน วันนี้นางทำข้าวต้มกุ้งและซาลาเปาไส้หมูสับจำนวนสองร้อยลูก เมื่อเตรียมอาหารเรียบร้อยบิดา มารดาและพี่ชายของนางก็ออกมาพอดี และวันนี้ทั้งสี่คนก็กินข้าวต้มกุ้งเหมือนกับชาวบ้านเช่นเดียวกัน
"ท่านพ่อ ท่านแม่ ฝากทางนี้ด้วยนะเจ้าคะลูกจะไปเตรียมยาเพื่อรักษาชาวบ้านด้านหลังเจ้าค่ะ" ไป๋หลันเอ่ยบอกบิดามารดดของตนเอง
"ไปจัดการงานของเจ้าเถิดหลันเอ๋อร์ไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้พ่อจัดการเอง" เฉินหยวนเอ่ยบอกบุตรสาว
"ขอบคุณเจ้าค่ะ ท่านพ่อ"
"ให้พี่ไปช่วยเจ้าหรือไม่หลันเอ๋อร์" เฉินหยางอาสาไปช่วยน้องสาว
"ตอนนี้ยังไม่ต้องเจ้าค่ะ แต่ถ้ามีชาวบ้านมารักษากันมากข้าจะเรียกพี่ใหญ่ให้มาช่วยนะเจ้าค่ะ" ไป๋หลันเอ่ยบอกพี่ชาย เฉินหยางพยักหน้ารับรู้และช่วยจัดเรียงข้าวของตรงหน้าต่อ
ไป๋หลันเดินมายังซุ้มด้านหลังเพื่อเตรียมตัวในการรักษา ชาวบ้านเริ่มทยอยออกมารับอาหาร เมื่อทุกคนเห็นอาหารบางคนถึงกับร้องไห้ออกมา บางคนก็คุกเข่าโขกหัวกับพื้นจนพี่ชายของนางต้องรีบไปห้าม ส่วนบิดานั้นบอกกับทุกคนที่มารับอาหารว่ามีเรื่องจะแจ้งให้ทราบชาวบ้านก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ส่วนซุ้มรักษาคนป่วยนั้นก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง มีชาวบ้านมารักษาด้วยโรคไข้หวัด ไอ ปวดท้อง และบางคนก็มีแผลบ้างเล็กน้อย ไม่มีโรคร้ายแรงอะไร
เมื่อชาวบ้านรับอาหารกันเรียบร้อยเฉินหยวนก็แจ้งเรื่องศูนย์พักพิงคนไร้บ้านให้ทุกคนทราบ ชาวบ้านที่ยากไร้และขอทานที่ไม่มีที่อยู่อาศัยได้ยินดังนั้นก็กอดคอกันร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ พวกเขาไม่คิดเลยว่าจะมีผู้ใดสนใจให้ความช่วยเหลือ พวกเขาต้องอดมื้อกินมื้อ นอนตามข้างถนน เจ็บป่วยก็ไม่ได้รับการรักษา ล้มหายตายจากกันไปก็มากพวกเขาสัญญาว่าจะให้ความร่วมมือและจงรักภักดีต่อคนสกุลหลินจนกว่าชีวิตจะหาไม่
ไป๋หลันจึงกล่าวกับทุกคนว่าจะแจกอาหารทุกวันจนกว่าจะสร้างศูนย์พักพิงเสร็จ และให้ชาวบ้านผลัดเวรกันมาช่วยตักอาหารแจกจ่าย เมื่อชาวบ้านได้ยินเช่นนั้นก็ดีใจเป็นอย่างมากและจะให้ความร่วมมือกันอย่างเต็มที่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน
1...