หลินไป๋หลัน นิยาย บท 25

ไป๋หลันเมื่อกลับมาถึงบ้านก็เจอกับมารดากำลังเข้าครัวเตรียมทำอาหารอยู่นางจึงเดินเข้าไปช่วย อาหารสดผักและผลไม้นางเตรียมใส่ตู้เย็นไว้ให้มารดาเสมอไม่เคยขาด เพราะช่วงกลางวันไม่มีใครอยู่บ้านนอกจากมารดาเท่านั้น ส่วนสูตรอาหารนางจดใส่สมุดไว้ให้ท่านหนึ่งเล่มและให้ป้าฝูแม่ครัวที่ศูนย์อีกหนึ่งเล่ม 

             เมื่อช่วยมารดาทำอาหารเสร็จนางก็เข้าไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วออกมานั่งรอบิดาและพี่ชายกลับมาจากศูนย์พักพิง ช่วงนี้บิดาของนางดูมีความสุขมากที่ได้ออกไปฝึกซ้อมวรยุทธ์ให้กับรปภ. เพราะเมื่อก่อนบิดาเคยเป็นถึงแม่ทัพต้องฝึกซ้อมทหารอยู่ตลอดเวลา คงเป็นงานที่ท่านชอบจริง ๆ นางคิดว่าไม่อยากให้บิดาต้องไปออกทัพจับศึกเหมือนเมื่อก่อนอีก เพราะนางคงทำใจไม่ได้ที่ต้องเห็นคนที่รักต้องบาดเจ็บหรือล้มหายตายจากไป แค่คิดนางก็เจ็บปวดหัวใจขึ้นมาแล้ว

เมื่อทุกคนกลับมาพร้อมหน้าก็ทานอาหารและพูดคุยถึงเรื่องต่าง ๆ ในแต่ละวันกันอย่างมีความสุข และเมื่อกินอาหารเสร็จก็แยกย้ายกันพักผ่อน

            ก๊อก ๆ ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น ไป๋หลันเข้าห้องส่วนมากไม่ได้ลงกลอนประตูเพราะพี่ชายของนางชอบมาเคาะห้องอยู่บ่อย ๆ แล้วครั้งนี้ก็เช่นเดิมนางจึงเอ่ยออกไป "เปิดเข้ามาเลยพี่ใหญ่ข้าไม่ได้ลงกลอนประตูไว้"

              "เจ้าทำไมไม่ลงกลอนประตู ถ้าเกิดมีคนร้ายเข้ามาเจ้าจะทำเช่นไร" เฉินหยางเมื่อเปิดประตูเข้ามาก็เอ่ยดุน้องสาวด้วยความเป็นห่วง นางเป็นสตรีทำไมไม่ระมัดระวังช่างน่าตียิ่งนัก

             "ถ้าพี่ใหญ่เป็นห่วงก็มาหาข้าบ่อยๆสิเจ้าค่ะ แบร่!!..." ไป๋หลันเอ่ยพร้อมกับแลบลิ้นปลิ้นตาให้พี่ชายของนางอย่างกวนประสาท เพราะพี่ชายเป็นห่วงนางเกินไปคิดว่านางจะโดนใครทำร้ายเอาง่าย ๆ

              ไม่มีทางนอกจากนางจะยอมเอง                                                                                                                         "ยายเด็กแสบมาให้พี่จับตีก้นเสียดี ๆ" เฉินหยางพูดพร้อมกับเดินเข้าไปหาน้องสาวเพื่อจะจับตัวนาง

              ไป๋หลันเมื่อเห็นพี่ชายทำท่าเดินเข้ามาก็รีบวิ่งหนี ทั้งสองคนวิ่งไล่จับกันจนเหนื่อยหอบจนต้องมานั่งพักที่โซฟา

            "พี่ใหญ่ข้าขอพักยกก่อนไม่ได้วิ่งมานานเหนื่อยชะมัดเลย" 

             "ก็ได้ ๆ พี่ไม่แกล้งเจ้าแล้ว" 

              "พี่ใหญ่ข้าขอถามอะไรหน่อยได้หรือไม่?" 

             "ได้สิ เจ้ามีอะไรจะถามพี่อย่างนั้นหรือ?" 

             "พี่ใหญ่หน้าตาท่านออกจะหล่อเหลาเช่นนี้ ท่านมีคนรักหรือยังเจ้าคะ" ไป๋หลันเอ่ยถาม นางสงสัยจริงว่าพี่ชายของนางจะมีคนที่ชอบหรือยัง จะไปแอบชอบสาวบ้านไหนบ้างหรือเปล่า

            "พี่ไม่มีหรอก และยังไม่คิดจะมีด้วย พี่จะรอให้เจ้าโตและออกเรือนไปเสียก่อนแล้วพี่ค่อยคิดอีกที " เฉินหยางเอ่ยตอบ

              "แล้วถ้าข้าโตจนสามารถออกเรือนได้ พี่ใหญ่ท่านไม่คิดจะหวงแหนน้องสาวสุดสวยคนนี้หน่อยหรือ " ไป๋หลันเอ่ยด้วยสีหน้าเว้าวอนทำตาปริบ ๆ

              "เด็กแสบอย่างเจ้าจะมีบุรุษโชคร้ายคนใดมาชมชอบ  แต่ถ้ามีข้าจะแถมข้าวสารอีกห้ากระสอบเพื่อเป็นรางวัลปลอบใจ ฮ่า ๆ ๆ"  เฉินหยางเอ่ยตอบกวนประสาทน้องสาว  เขาเองรู้ตัวดีว่านางเป็นคนสวย น่ารักแถมมีจิตใจดีอีกต่างหาก ย่อมมีบุรุษมาหมายปองจนเขาไม่อยากให้นางเติบโตขึ้นอีกเลยจริง ๆ

"พี่ใหญ่!! ท่าน..ฮึ่ย..."  ไป๋หลันหมดคำจะกล่าว

คำพูดท่านช่างร้ายกาจขึ้นทุกวันไม่ต้องดูมันแล้วละครน่ะ!!

     ไป๋หลันจึงหยิบหูฟังขึ้นมาใส่ให้พี่ชายหนึ่งข้าง และใส่หูตัวเองหนึ่งข้างเปิดเพลงที่เซฟเอาไว้ฟังจากโน๊ตบุ๊ค แล้วนั่งพิงหลังกับโซฟาฟังเพลงจนหลับไปทั้งคู่ด้วยความที่เหน็ดเหนื่อยกันมาทั้งวัน

เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อทุกคนกินอาหารเช้ากันเรียบร้อยเฉินหยวนและเฉินหยางก็ออกไปยังศูนย์พักพิง ส่วนตัวไป๋หลันจะเข้าไปช่วงบ่าย เพราะจะรอให้ผู้ใหญ่ตงกลับมาจากจวนท่านเจ้าเมืองก่อน วันนี้ผู้ใหญ่ตงจะไปรับเงินรางวัลค่ารักษาบุตรีของท่านเจ้าเมือง และไปซื้อไก่ไข่ตามที่นางได้สั่งเอาไว้ ช่วงเช้านางจึงอยู่คุยกับมารดาเพราะกลัวท่านจะเหงา แต่ถ้าศูนย์สร้างเสร็จนางจะพาท่านออกไปเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ภายในศูนย์ของนางด้วยเช่นกัน

# ยามอุ้ย (13.00-14.59) ไป๋หลันตอนนี้ออกจากบ้านเดินทางมายังศูนย์  วันนี้นางสวมใส่อาภรณ์สีขาวขลิบเขียวรวบผมครึ่งศีรษะมัดด้วยโบสีเขียว  เมื่อเดินผ่านตลาดก็เจอเข้ากับคนคุ้นตาที่เพิ่งเคยเจอเมื่อวานและเขาก็กำลังมองมาพอดีนางจะแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นก็ไม่ได้เพราะนางเผลอสบสายตากับเขาไปแล้วจึงจำเป็นต้องเอ่ยทักออกไป "พี่หลงท่านมาทำอะไรอยู่ตรงนี้เจ้าคะ"

"ข้าพักอยู่ที่โรงเตี๊ยมแห่งนี้ กำลังจะออกไปเดินชมเมืองเสียหน่อย"  หนานเหวินหลงเอ่ยตอบ จริง ๆ เขารู้อยู่แล้วว่านางจะผ่านมาทางนี้เพราะให้ตงชุนคอยรายงานว่านางจะออกจากบ้านมาตอนไหน

"ท่านไม่ใช่คนเมืองหนานเหอหรือเจ้าคะ"

"ข้ามีงานมีการต้องไปทำ ท่านจะเดินชมเมืองก็เชิญตามสบายเถิด" 

" ..." หนานเหวินหลงไม่กล่าวสิ่งใดออกมาได้แต่เดินตามนางไปเงียบ ๆ

"พี่หลง!! ท่านเดินตามข้ามาทำไมเจ้าคะ'' นางรีบเดินออกมาคิดว่าเขาจะเดินไปทางอื่น แต่เขากลับเดินตามนางมาเสียอย่างนั้น

"ข้าก็เดินชมเมืองอยู่นี่ไง ไม่ได้เดินตามเจ้าเสียหน่อย"  จริง ๆ เขาก็เดินตามนางนั่นแหละ อยากรู้ว่านางจะไปที่ใด

"ก็ดีเจ้าค่ะ ท่านห้ามตามข้ามาเด็ดขาดเลย" นางไม่อยากให้เขาตามไปที่ศูนย์พักพิงเพราะขี้เกียจตอบคำถามของบิดาและพี่ชายของนาง ชายผู้นี้หล่อเหลาเกินกว่านางจะอ้างว่าเขาเป็นขอทานได้

"ทำไมต้องห้ามไม่ให้ข้าเดินตามเจ้ากัน  หรือเจ้ามีความลับอะไรปิดบังอยู่?" เขาชักจะเริ่มสงสัยแล้วว่านางจะไปทำอะไรอะไรกันทำไมต้องห้ามไม่ให้เขารู้ด้วย

"ข้าไม่ได้มีความลับอะไรหรอกเจ้าค่ะ แต่มันคงไม่เหมาะสมเท่าไรที่ข้าจะพาท่านไป เพราะท่านพ่อ และพี่ชายของข้าก็อยู่ที่นั่นด้วยแต่ถ้าท่านจะไปก็พอมีวิธีอยู่นะเจ้าคะ" นางเพิ่งจะคิดแผนอะไรสนุก ๆ ออกมาได้สด ๆ ร้อน ๆ เมื่อสักครู่นี้

"มีวิธีไหนหรือที่ข้าจะไปกับเจ้าได้" หนานเหวินหลงเอ่ยถามอย่างสงสัย

"ท่านต้องแต่งตัวให้เหมือนคนขอทานหรือชาวบ้านเร่ร่อนที่ไม่มีที่อยู่อาศัย ห้ามแต่งตัวสะอาดสะอ้านแบบนี้เด็ดขาด ถ้าท่านตกลงพรุ่งนี้ปลายยามอู่ (11.00-12.59) ท่านมาเจอข้าที่เดิมที่เราเจอกันเมื่อวาน วันนี้ข้าไปก่อนนะเจ้าคะ บ๊าย…บาย" พูดจบนางก็ยกมือโบกลาด้วยภาษาบ้านเกิดพร้อมกับเดินออกไปทันที

"เสี่ยวหลันเจ้านี่มันแสบนัก แล้วกิริยาท่าทางแบบนั้นไปเลียนแบบผู้ใดมากัน" หนานเหวินหลงกล่าวพึมพำ

'แต่นางก็น่ารักดี' เขายกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน