หลินไป๋หลัน นิยาย บท 54

ไป๋หลันจัดการอาบน้ำเปลี่ยนผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เป็นชุดนอนสีเขียวอ่อนลายการ์ตูนแขนยาว ขายาว นั่งรอพี่หลงอยู่ที่โซฟา นางคิดว่าอย่างไรเสียวันนี้พี่หลงต้องมาหานางเป็นแน่ นั่งรออยู่ราว ๆ สองเค่อพี่หลงก็กระโดดเข้ามาทางหน้าต่างที่ไม่ได้ลงกลอนเอาไว้

นั่นปะไรพี่หลงมาจริง ๆ แล้วทำไมเวลาซื้อหวยถึงทายไม่ถูกแบบนี้หหนอ...

"เสี่ยวหลันเจ้าบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่" หนานเหวินหลงที่ได้รับรายงานจากตงชุนก็ร้อนใจทั้งที่ตงชุนบอกแล้วว่านางไม่ได้รับบาดเจ็บแต่เขาก็อยากจะมาดูด้วยตาของตนเอง

“ข้าไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนเลยเจ้าค่ะ พี่หลงไม่ต้องเป็นห่วง "

"ข้าจะไปสังหารมันให้สิ้น มันบังอาจมาทำร้ายเจ้าและทำให้เจ้าต้องตกใจ'' หนานเหวินหลงเอ่ยเสียงดังพร้อมกับปล่อยไอสังหารออกมาจนนางขนตัวลุกเกรียว

"ใจเย็น ๆ เจ้าค่ะพี่หลงเรื่องแก้แค้นปล่อยให้ข้าจัดการเองเถิด และท่านพ่อคงอยากจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง" ไป๋หลันเอาชื่อบิดาของตนเองมาแอบอ้างเพื่อให้พี่หลงสบายใจ

“เช่นนั้นย่อมได้" หนานเหวินหลงไม่อยากขัดใจคนตัวเล็กนางพูดเช่นไรเขาย่อมทำตาม

"ข้าบอกพี่ใหญ่เรื่องของท่านแล้วก็ท่านตาท่านยายแล้ว อีกประเดี๋ยวท่านพ่อ ท่านแม่ก็คงทราบเรื่องด้วยเช่นกัน ต่อไปนี้ท่านจะได้ไม่ต้องแอบเข้ามาทางหน้าต่างในยามดึกอีก ต่อไปนี้ท่านสามารถเข้าออกหน้าประตูจวนได้แล้วนะเจ้าคะ" ไป๋หลันเอ่ยพี่หลงเข้ามาหานางทางหน้าต่างตลอดทุกครั้งที่รู้จักกันมาจนกลายเป็นความเคยชินไปเสียแล้ว

"เจ้าทำดีมากข้าคงต้องให้รางวัลเจ้าเสียหน่อยแล้วกระมัง" หนานเหวินหลงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์หยอกเย้าคนตรงหน้า

"ใช่! ท่านต้องให้รางวัลข้ามาเลยข้าพร้อมแล้ว" ไป๋หลันเอ่ยพร้อมกับเชิดหน้าขึ้นทำปากจู๋

'หยอกมาหยอกกลับไม่โกงจ้า...'

"นี่แน่ะ...ยายเด็กแก่แดด!!" หนานเหวินหลงยกมือขึ้นดีดหน้าผากคนตัวเล็กทันที โทษฐานที่นางทำให้เขาไปต่อไม่ถูก

"อูย...พี่หลงไม่ใช่ว่าท่านจะจุมพิตข้าเป็นรางวัลหรอกหรือ"

"ตอนแรกก็คิดแต่พอเห็นหน้าเจ้าเช่นนั้นข้าหมดอารมณ์!!" ก็นางทำหน้าตาเช่นนั้นใครจะไปจูบนางลงกันเล่าทำให้เขานึกขบขำเสียอีกต่างหาก

"โธ่..." ไป๋หลันแกล้งทำหน้าผิดหวังอย่างแรง

"เจ้าพักผ่อนเถิดแล้วพรุ่งนี้ข้าจะมาหาเจ้าที่จวนยามอุ้ย(13.00-14.59)" หนานเหวินหลงเอ่ยบอกคนตัวเล็กตรงหน้า เขาคงต้องเข้าตามตรอกออกทางประตูบ้างแล้ว

"รับทราบเจ้าค่ะเดินทางกลับดี ๆ นะเจ้าคะ บ้าย…บาย…" ไป๋หลันเอ่ยพร้อมกับลุกขึ้นยืนแล้วก้าวเดินไปทางเตียงนอนทันทีโดยไม่ได้สนใจพี่หลงของนางอีกวันนี้นางเพลียจริง ๆ

หนานเหวินหลงที่เห็นคนตัวเล็กลุกขึ้นยืนและหันหลังให้โดยไม่สนใจเขาอีก เขาจึงรีบลุกขึ้นแล้วเอื้อมสองแขนแกร่งโอบกอดนางเอาไว้จากทางด้านหลัง

"ฝันดีนะเสี่ยวหลัน..." หนานเหวินหลงก้มลงกระซิบข้าง ๆ หูของคนตัวเล็กพร้อมกับกดริมฝีปากและจมูกของตนลงไปที่แก้มนวลเนียนพร้อมสูดลมหายใจเข้าปอดฟอดใหญ่ แล้วรีบผละตัวออกกระโดดหายไปทางหน้าต่างทันที

"เล่นทีเผลอเช่นนั้นหรือร้ายนักนะพี่หลงฮึ่ย…" ไป๋หลันพึมพำพร้อมกับเอามือลูบไปที่แก้มเบา ๆ แล้วขึ้นเตียง    นอนหลับทันทีด้วยความเพลีย

               # เช้าวันรุ่งขึ้น “อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะท่านแม่ วันนี้ทำอะไรหรือเจ้าคะ" มีมี่เอ่ยทักทาย

                "อ้าว!! มี่เอ๋อร์เจ้าหายดีแล้วหรือถึงได้รีบออกมาแต่เช้า" อู๋เหยาเอ่ยถามบุตรสาวบุญธรรมที่ชอบมาช่วยทำอาหารเช้าเป็นประจำ

                 "หายดีแล้วเจ้าค่ะไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน" มีมี่เอ่ยตอบพร้อมกับยกยิ้มหวานส่งไปให้

                 ไป๋หลันที่เดินเข้ามาพอดีได้ยินสหายพูดเช่นนั้นก็อดที่จะเหน็บแนมไม่ได้จึงเอ่ยออกไป  "คราวหน้าถ้าเจ้าโดนแบบนี้อีกข้าจะทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้เตือนใจเจ้าดีหรือไม่จะได้ขยันฝึกฝนพลังปราณให้แข็งแกร่งโดยไว" 

            "หลันหลัน เจ้าอย่ามาทำเป็นขู่ข้า ตอนที่ข้าโดนทำร้ายใครกันนะที่หน้าซีดเป็นไก่โดนต้มฮ่า ๆ ๆ" มีมี่เอ่ยอย่างชอบอกชอบใจกับสหายขี้บ่นตรงหน้า

              อู๋เหยาเห็นบุตรสาวทั้งสองพูดคุยหยอกล้อกันก็ยกยิ้มอย่างเอ็นดูพวกนางช่างน่ารักสดใสเวลาอยู่ใกล้แล้วก็อดเบิกบานใจไม่ได้

               หลังกินมื้อเช้ากันเสร็จแล้วบิดาและพี่ชายของนางก็ลงไปฝึกลูกน้องที่ลานด้านหลังจวน 'ใช่!!นางเรียกพวกเขาว่าลูกน้อง ท่านพ่อคือมาเฟีย ฮ่า ๆ ๆ'

ไป๋หลันวันนี้ไม่ได้ออกไปไหนเพราะวันนี้นางนัดกับประมุขพรรคจันทราเอาไว้ในช่วงบ่าย ดังนั้นช่วงที่ว่างวันนี้นางจึงจะลองทำขนมเค้กที่จะวางขายในร้านคาเฟ่ดู วัตถุดิบทั้งหมดนางจะเสกออกมาเพราะถ้าให้เลือกวัตถุดิบของโลกนี้มันคงหาได้ไม่ง่ายนักหรืออาจจะหาไม่ได้ด้วยซ้ำไป

              มีมี่ที่รู้ว่านางจะลงมือทำขนมเค้กก็อาสาเป็นลูกมือรวมทั้งท่านแม่ด้วย อัตราส่วนที่จะผสมทำเค้กนั้นนางดูจากโทรศัพท์ที่เคยเเคปหน้าจอแล้วบันทึกเอาไว้เอาไว้ โชคดีที่โลกเก่านางชอบศึกษาอาชีพต่าง ๆ เอาไว้หลายอย่างและก็เก็บขั้นตอนการทำเอาไว้ในโทรศัพท์ทั้งหมดไม่เช่นนั้นคงลำบากไม่น้อย

              อัตราส่วนการทำขนมเค้กนั้นส่วนผสมต้องเป๊ะจริง ๆ ต้องชั่งต้องตวงขาดนิดเกินหน่อยไม่ได้เด็ดขาดฉะนั้นทุกอย่างต้องชั่งน้ำหนักตามสูตรจะคะเนด้วยสายตาไม่ได้เด็ดขาด

            หลังจากช่างตวงวัตถุดิบเรียบร้อยก็ผสมส่วนผสมต่าง ๆ ตามขั้นตอนโดยใช้ตะกร้อมือตีคนให้เข้ากัน การใช้เตาอบนั้นที่นี่ใช้ไม่ได้เพราะไม่มีไฟฟ้านางจึงเลือกวิธีการนึ่งแทน นางตั้งซึ้งนึ่งให้น้ำเดือดได้ที่จากนั้นนำเค้กใส่ถาดนึ่งแล้ววางไว้บนชั้นนึ่งปิดฝาซึ้งให้เรียบร้อย ไป๋หลันเสกนาฬิกาออกมาจับเวลาเอาไว้ใช้เวลาราว ๆ สองเค่อหรือตรวจดูจนกว่าเค้กจะสุก ทั้งสามคนจึงเพลิดเพลินกับการทำขนมกันอยู่ในครัวได้ยินเสียงหัวเราะคิดคักดังลอดออกมาเป็นระยะ ๆ          

"เด็กน้อยเจ้าไปทำอะไรมาหรือ?ถึงได้มีสภาพเช่นนี้ ไปทำเรื่องอะไรที่สนุก ๆ ไม่ชวนข้าหรือ?" เฟยเทียนเอ่ยเย้า ก็นางเนื้อตัวมอมแมมไปด้วยสีขาวของแป้งจนเขาอดขันไม่ได้

"หม่อมฉันเล่นแป้ง เอ้ย!!...ทำขนมเค้กเลยเปื้อนตัวนิดหน่อยเพคะ"

"ขนมเค้กเช่นนั้นหรือ?ข้าไม่เคยได้ยินชื่อ เจ้ารู้จักขนมชนิดนี้หรือไม่ซิ่นเฉิง" ประโยคหลังเฟยเทียนหันไปกล่าวกับสหายของตน

"ไม่เคยรู้เห็นที่ไหนมาก่อนเลยแถมหน้าตายังสวยงามอีกด้วยพะยะค่ะ" ซิ่นเฉิงเอ่ยตอบสหายผู้สูงศักดิ์ของตน

"ลองชิมดูสิเพคะกินคู่กับกาแฟ พี่ซิ่นเฉิงลองชิมดูนะเจ้าคะท่านพ่อด้วยเจ้าค่ะ ขนมเค้กนี้จะเป็นของว่างในร้านคาแฟ่ของเรา" ไป๋หลันเอ่ยชักชวนทุกคนให้ลองกินขนมของนาง เพราะจะได้รู้ว่ามันอร่อยถูกปากพวกเขาหรือไม่

เฟยเทียนตักขนมเค้กเข้าปากมันทั้งนุ่มและหอมรสชาติอร่อยลงตัวอย่างมาก พอดื่มน้ำที่นางเรียกว่ากาแฟมันมีรสขมแต่ติดหวานปลายลิ้นนิดหน่อยมันช่างอร่อยเสียจริงจึงเอ่ยออกไป "ขนมนี้ช่างอร่อยยิ่งนักกินคู่กับน้ำกาแฟช่างเข้ากันดีเสียจริง ๆ ข้าคงต้องไปเป็นลูกค้าประจำที่ร้านของเจ้าเป็นแน่"

"ข้าก็เช่นกันขนมของเจ้าอร่อยมากเจ้าช่างมีความสามารถยิ่งนักไป๋หลัน" ซิ่นเฉิงเอ่ยชม นางช่างมีอะไรที่ทำให้เขาแปลกใจอยู่เสมอ ดูอย่างศูนย์พักพิงบ้านหลันฮวา ทั้งของกินของใช้ในนั้นเหมือนช่างแตกต่างออกจากภายข้างนอกยิ่งนัก

"ยินดีเป็นอย่างยิ่งเจ้าค่ะ" ไป๋หลันเอ่ยพร้อมส่งยิ้มไปให้ทั้งสองคนด้วยความดีใจที่ขนมของนางอร่อยถูกปากและนางจะได้ลูกค้ารายใหญ่เป็นถึงองค์รัชทายาทแห่งแคว้น

"ใกล้เวลามื้ออาหารเที่ยงแล้วเชิญองค์ไท่จื่อและสหายร่วมโต๊ะอาหารด้วยกันเถิดพะย่ะค่ะ" เฉินหยวนเอ่ยเชื้อเชิญผู้สูงศักดิ์

"เช่นนั้นรบกวนท่านแล้ว" เฟยเทียนเอ่ย

ไป๋หลันขอตัวไปช่วยมารดาจัดโต๊ะอาหารเมื่อเรียบร้อยแล้วก็รีบเชิญแขกมาร่วมโต๊ะรวมทั้งพี่ชายที่กลับมาจากการฝึกลูกน้องเช่น ทั้งหมดเอ่ยคำนับกันเรียบร้อยก็เริ่มลงมือกินอาหารกันทันที

ไปหลันตอนที่ปลีกตัวออกมนางแอบเสกอาหารออกมาเพิ่มอีกสองสามอย่างเพื่อให้แขกได้ลิ้มลองอาหารแปลกใหม่ บนโต๊ะมีอาหารมากมายหลายอย่างแต่ละอย่างอาจจะแปลกตาสำหรับคนนอกแต่สำหรับคนในครอบครัวตระกูลหลินมันคืออาหารที่คุ้นตาและคุ้นเคย

เฉินหยางสังเกตแขกผู้มาเยือนเห็นคุณชายเหอส่งสายตามองน้องสาวบุญธรรมอยู่ตลอดเวลาและองค์ไท่จื่อที่คอยพูดจาหยอกเย้าน้องสาวของเขานั่นอีก ฮึ่ย...มันช่างน่าโมโหยิ่งนัก แล้วน้องสาวทั้งสองของเขาก็ช่างน่ารักสดใสจนคนรอบข้างรู้สึกสบายใจถ้าได้อยู่ชิดใกล้หรือพูดคุย

ทั้งเฟยเทียนและซิ่นเฉิงต่างกินอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อยอาหารของจวนนี้ไม่ทำให้ให้พวกเขาผิดหวังจริง ๆ ทั้งรสชาติอาหารที่อร่อย และอาหารบางอย่างเขายังไม่เคยได้เห็นหรือลิ้มลองที่ใดมาก่อนทั้งสองจึงเอ่ยชมไม่หยุดปาก

หลังจากมื้อกลางวันเสร็จเรียบร้อยทั้งหมดก็ออกมานั่งพูดคุยและจิบน้ำชากันที่โถงด้านหน้า พลัน!! มีบุรุษรูปงามแต่งกายน่าเกรงขามสวมอาภรณ์สีอ่อนกำลังเดินเข้ามาในจวน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน