หลินไป๋หลัน นิยาย บท 8

นางจึงเสกชุดนอนมาอีกหนึ่งชุดที่เหมือนกับของนางส่งให้พี่ชายทันทีแล้วเอ่ยว่า "พี่ใหญ่ใส่ชุดนี้ดีกว่ามันทั้งอุ่นทั้งนุ่มเลยจะได้ไม่หนาวตอนกลางดึก"

เฉินหยางรับชุดที่น้องสาวส่งยื่นมาให้ แล้วเดินเข้าไปผลัดเปลี่ยนที่ด้านหลังฉากกั้น เมื่อลองสวมใส่ชุดมันทั้งนุ่มนิ่มและอุ่นสบายอย่างที่นางบอกจริง ๆ จากนั้นจึงเดินออกมานั่งด้านข้างน้องสาวแต่ เก้าอี้นี้มันทั้งนุ่มเด้งนั่งสบายตัวมากจึงเอ่ยถามน้องสาว "ของพวกนี้เรียกว่าอะไรหรือ?"

"ที่เรานั่งกันอยู่นี่เรียกว่าโซฟา และอันนี้เรียกว่าโน๊ตบุ๊คเอาไว้ดูละคร เล่นเกมส์ ฟังเพลงและทำอะไรได้อีกหลายอย่างประเดี๋ยวข้าจะค่อย ๆ สอนที่ละอย่างแล้วกันนะเจ้าคะ" ไป๋หลันเอ่ยพร้อมอธิบายข้าวของเครื่องใช้ตรงหน้าทีละชิ้นอย่างใจเย็น

คราแรกที่เสกโน๊ตบุ๊คออกมานั้นเพราะว่ามันเป็นของนางในโลกเก่าและอีกอย่างมันถูกชาร์จแบตเตอรี่เอาไว้จนเต็มเสมอคิดว่าจะเอาออกมาดูเล่นเรื่อยเปื่อยพอแบตเตอรี่หมดก็เก็บกลับไปเพราะที่โลกใบนี้ไม่มีไฟฟ้าใช้ให้นางชาร์จเติมแบตเตอรี่ได้ แต่เมื่อลองเปิดมาได้สักพักหนึ่งพบว่าแบตเตอรี่ไม่ยุบลงไปเลยแม้แต่นิดเดียวนางจึงเดาว่ามันสามารถใช้ได้โดยที่ไม่มีวันหมดช่างดียิ่งนัก

เฉินหยางมองสิ่งที่นางเรียกว่าโน๊ตบุ๊คมันมีเสียงและภาพเคลื่อนไหวก็พลันรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย

"พี่ใหญ่สิ่งนี้เขาเรียกว่าหนังหรือละครเรามาดูเรื่องนี้กันเถิด" ไป๋หลันเอ่ยบอกพร้อมแกะถุงขนมออกมากินและหยิบป้อนใส่ปากพี่ชายของนางด้วยเช่นกัน

"อืม...กรอบอร่อยรสชาติเค็ม ๆ มัน ๆ" เฉินหยางเอ่ยบอกเมื่อได้ลิ้มลองรสชาติขนมที่น้องสาวป้อนให้

"ลองดื่มน้ำอัดลมเจ้าค่ะพี่ใหญ่ แต่ค่อย ๆ ดื่มนะเจ้าคะประเดี๋ยวจะสำลักเอาได้" ไป๋หลันเอ่ยบอกพลางเปิดกระป๋องเครื่องดื่มดังซ่า!!แล้วส่งให้พี่ชายลองดื่ม

"อึก ๆ...แค่ก!แค่ก!" เฉินหยางเมื่อรับเครื่องดื่มมาจากน้องสาวก็ยกขึ้นดื่มทันที มันจี๊ดขึ้นไปถึงจมูกจนต้องไอออกมา แต่รสชาติอร่อยดีเขาชอบ

"ข้าบอกแล้วว่าค่อยๆดื่ม" ไป๋หลันเอ่ยพร้อมกับยกมือขึ้นลูบหลังพี่ชายเบา ๆ จากนั้นทั้งสองก็นั่งดูละครบนจอคอมตรงหน้า นั่งดูมาได้สักพักไป๋หลันก็เอ่ยขึ้นอย่างภาคภูมิว่า "คนนี้คือหลัวในมโนของข้า"

เฉินหยางได้ยินเช่นนั้นก็สงสัยจึงเอ่ยถามน้องสาว "อะไรคือหลัวมโนหรือ?"

"หลัวมโนก็คือสามีในฝันอย่างไรเล่าพี่ใหญ่ฮ่า ๆ ๆ" ไป๋หลันเอ่ยตอบพร้อมหัวเราะชอบใจ

"เจ้า!!...ยายเด็กแก่แดด" เฉินหยางกัดฟันเอ่ยออกมาพลางคิดในใจว่าน้องสาวของตนทำไมถึงพูดจาไม่เป็นสตรีเช่นนี้กัน และแล้วเวลาล่วงเลยไปไม่รู้เท่าไร หมีสองตัวนั่งหัวชนกันแล้วหลับไปในที่สุด

ยามเฉิน(07.00-08.59) สายลมพัดแผ่วลอยผ่านม่านหน้าต่างเบา ๆ แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามา ร่างบางที่กำลังนอนอยู่ค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้น

''เช้าแล้วหรือสงสัยเมื่อคืนดึกไปหน่อยไม่รู้ว่าพี่ใหญ่ออกไปตอนไหน'' ไป๋หลันเอ่ยพึมพำกับตัวเองเมื่อตื่นนอน จึงรีบล้างแปรงฟันแล้วเดินออกไปจากห้องทันที เมื่อมาถึงยังโต๊ะอาหารก็พบว่าบิดา มารดาและพี่ชายนั่งรออยู่ก่อนแล้ว

"ข้าขอโทษเจ้าค่ะที่มาช้าทำให้ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่ใหญ่ต้องรอนาน" ไป๋หลันย่อกายคำนับทุกคนที่ต้องมานั่งรอนางกินข้าวอย่างสำนึกผิด

"ไม่เป็นไรหรอกหลันเอ๋อร์พวกเราก็เพิ่งจัดโต๊ะอาหารเสร็จเมื่อสักครู่เอง มานั่งกินข้าวกันเถิด" เฉินหยวนเอ่ยบอกบุตรสาว

"เจ้าค่ะท่านพ่อ"

เมื่อทั้งหมดทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย ไป๋หลันเดินพยุงบิดาพากลับเข้าห้องเพื่อทำการรักษาทันที ส่วนมารดาและพี่ชายยืนรออยู่ด้านนอกห้อง

'สวรรค์!!...นี่เขาสามารถกลับมาใช้พลังปราณได้อีกครั้งแล้วหรือ? ' เฉินหยวนคิดในใจ แล้วลองลุกขึ้นยืนขยับแขน ขาก็รู้สึกว่าร่างกายเริ่มมีแรงขึ้นมามากว่าเดิมหลายเท่า

ไป๋หลันยื่นมือตรวจจับชีพจรของบิดาอีกครั้ง ผ่านไปชั่วครู่ก็รีบเอ่ยกับบิดาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจว่า "ท่านพ่อดีใจด้วยนะเจ้าคะ ท่านพ่อหายเป็นปกติแล้วเจ้าค่ะ"

"พ่อขอบใจเจ้ามากหลันเอ๋อร์ พ่อไม่คิดว่าชาตินี้จะกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิมได้อีกแล้ว" เฉินหยวนเอ่ยบอกบุตรสาวด้วยสีหน้ายิ้มยินดี

ไป๋หลันส่งยิ้มกลับไปให้บิดาพร้อมเอ่ย "เจ้าค่ะท่านพ่อ ตอนนี้ท่านพ่อไปอาบน้ำชำระร่างกายก่อนนะเจ้าคะ ลูกจะออกไปบอกข่าวดีกับท่านแม่และพี่ใหญ่ และจะเข้ามาทำความสะอาดห้องให้ท่านใหม่เจ้าค่ะ" พอจบก็เดินออกมาแจ้งข่าวดีกับท่านแม่และพี่ใหญ่ทุกคนต่างยินดี มีความสุขจนน้ำตาไหล

เมื่อเสร็จธุระแล้วทุกคนก็ออกมานั่งรวมตัวกันที่ห้องโถงด้านหน้า "ท่านพ่อ ท่านแม่ ลูกมีเรื่องอยากปรึกษาเจ้าค่ะ" ไป๋หลันเอ่ยบอกทุกคน

"เจ้ามีเรื่องอันใดหรือหลันเอ๋อร์" เฉินหยวนเอ่ยถามบุตรสาวด้วยความสงสัย

"ลูกว่าเราควรจะหาที่อยู่ใหม่และทำกิจการอะไรสักอย่างเพื่อความมั่นคงในชีวิต พวกท่านคิดเห็นเช่นไรเจ้าคะ" ไป๋หลันเอ่ยถามความคิดเห็นของครอบครัว เพราะนางคิดว่าบ้านหลังน้อยเชิงเขามันดูคับแคบและทรุดโทรมมากเกินไป

"จะดีหรือลูกมันต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อยเลยเชียวนะ" อู๋เหยาเอ่ยบอกบุตรสาวของตน ไม่ใช่ว่านางไม่คิดแต่ด้วยต้องใช้เงินจำนวนมากจึงต้องพักเรื่องนี้เอาไว้ก่อน

"ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินเจ้าค่ะ เรื่องนี้ลูกขอจัดการเองพวกท่านแค่เสนอความคิดเท่านั้นพอ" ไป๋หลันเอ่ยบอก นางยังมีโอสถมากมายจะนำไปขายเมื่อไรก็ย่อมได้และมันก็ทำเงินให้มากโขเลยทีเดียว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน